เรามาดูกันครับว่าพฤติกรรมเชิงลึก และไลฟ์สไตล์ทางการเงิน การลงทุนของคนรุ่นใหม่จากผลสำรวจของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และ คณะเศรษฐศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คนรุ่นใหม่มีทัศนคติ และมีแนวทางการลงทุน การจัดการการเงินอย่างไรบ้าง
โดยการสำรวจนี้เพื่อศึกษาและเปรียบเทียบพฤติกรรมของคนในช่วงอายุ 18-39 ปี อาศัยอยู่ในกรุงเทพมหานคร ปริมณฑลและหัวเมืองใหญ่ในแต่ละภูมิภาค เรียนอยู่ หรือจบการศึกษาระดับมัธยมปลายหรืออาชีวศึกษา
คนรุ่นใหม่ยังคงให้ความสำคัญกับการวางแผนทางการเงิน และการออมในระดับสูง และมีการมองหารายได้อื่นนอกเหนือจากงานประจำอยู่เสมอ ทั้งการทำธุรกิจ รวมถึงการลงทุนในตลาดทุน นอกจากนี้พบว่าคนรุ่นใหม่กลุ่มอายุ 18-29 ปี มีการวางแผนการลงทุนก่อนอายุ 30 ปี ในระดับสูงด้วยเช่นกัน
ผลสำรวจเผยว่ากลุ่มตัวแทนประชากรทั่ว ไปค่อนข้างที่จะหลีกเลี่ยงการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูง แม้จะมีโอกาสได้กำไรสูงขึ้นก็ตาม และกลัวที่ลงทุนหากไม่มีความพร้อมทางการเงิน หรือเห็นคนอื่นล้มเหลว
ในขณะที่กลุ่ม Insights โดยเฉพาะกลุ่มอายุ 18-29 ปี มีความพร้อมในการรับความเสี่ยงและลงทุนในตลาดทุนมากที่สุด
กลุ่มตัวแทนประชากร บุคคลต้นแบบหลักคือพ่อแม่ รองลงมาคือนักธุรกิจ และบุคคลในวงการบันเทิง แสดงให้เห็นว่ากลุ่มนี้อยากประกอบธุรกิจ และอยากประสบความสำเร็จ และร่ำรวย
ในขณะที่กลุ่ม insights มีบุคคลต้นแบบด้านการใช้ชีวิตเป็นกูรูด้านการลงทุน และนักธุรกิจต่างประเทศ
สองกลุ่มนี้มีบุคคลต้นแบบที่ค่อนข้างจะแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญต่อการตัดสินใจในการลงทุน ดังนั้นการประชาสัมพันธ์การลงทุน ควรเลือกบุคคลหรือเนื้อที่เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย
ผลสำรวจชี้ให้เห็นว่ากลุ่มตัวแทนประชากร ส่วนใหญ่เก็บเงินไว้ในเงินฝากประจำ และมักจะลงทุนในประกันชีวิต ก่อนที่จะเข้าลงทุนในหุ้นสามัญเป็นลำดับถัดไป
ส่วนกลุ่ม Insights มีความสนใจที่แตกต่างกันออกไป นั่นคือ ก่อนที่จะเข้ามาลงทุนในหุ้นสามัญ จะผ่านการอบรมคอร์สระยะสั้น หรือ ศึกษาต่อมาก่อน และมีแนวโน้มจะที่จะลงทุนในหุ้นต่างประเทศ
และยังพบ key insights อีกว่า “ทุกคนมีการกระจายพอร์ต การลงทุนในแบบของตัวเอง
โดยกลุ่มตัวแทนประชากร สนใจลงทุนใน สินทรัพย์ไม่เป็นทางการ ขณะที่กลุ่ม Insights สนใจลงทุนในสินทรัพย์ ทางการ” รวมถึง“เส้นทางการลงทุนมีความสำคัญในการคาดการณ์การลงทุน การกำหนดนโยบาย หรือการประชาสัมพันธ์ให้มีประสิทธิผล”
ผลสำรวจพบว่าทัศนคติของนักลงทุนมีความแตกต่างกันตามอายุทั้งในด้านการออม การใช้ข้อมูล ความเสี่ยง และการเป็น ผู้ประกอบการ แต่ทุกคนล้วนตัดสินใจจากสถานการณ์ปัจจุบันมากกว่าประสบการณ์ในอดีต
กล่าวคือคนที่อายุต่างกัน อาจจะมีพฤติกรรม หรือทัศนคติคล้ายกันในสถานการณ์ปัจจุบันเดียวกัน นอกจากนี้ พบว่าคนรุ่นใหม่เชื่อมการเมือง เศรษฐกิจ และสังคมเข้าด้วยกัน และให้ความสำคัญกับประเด็นเรื่องความเป็นธรรม เช่น การกระจายรายได้ที่เท่าเทียม
ผู้สนใจสามารถคลิกดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ใน Slide สรุปงานวิจัยฉบับเต็มได้ที่ Slide และสามารถรับชมงาน SET: Capital Market Research