อย่างที่รู้กันว่าตัวการหลักที่ทำให้โลกของเราร้อนขึ้น มาจาก ‘ก๊าซเรือนกระจก’ ซึ่งสาเหตุหลักก็มาจากการเผาไม้ทำลายป่า หรือการเผาไหม้เชื้อเพลิง จากโรงงานอุตสาหกรรมต่าง ๆ แต่รู้หรือไม่ว่าอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ ก็มีการช่วยดูแลโลกด้วยสิ่งที่เรียกว่า ‘คาร์บอนเครดิต’ ซึ่งสิ่งนี้คืออะไร แล้วมีความสำคัญอย่างไร ครั้งนี้ ACU PAY จะพามาทำความรู้จัก
คาร์บอนเครดิต คือ สิทธิที่เกิดจากการลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ หรือก๊าซเรือนกระจกสู่สิ่งแวดล้อม โดยมาจากการที่บุคคลหรือองค์กรได้ดำเนินโครงการหรือมาตรการที่มีเป้าหมายเพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ หรือก๊าซเรือนกระจกสู่สิ่งแวดล้อม ซึ่งสิทธินี้สามารถวัดปริมาณและสามารถนำไปซื้อ-ขายในตลาดคาร์บอนเครดิตได้
หรือพูดให้เข้าใจง่าย ๆ ก็คือ ก๊าซต่าง ๆ ที่ทำให้เกิดปฏิกิริยาเรือนกระจก (จำนวนคาร์บอน) ที่แต่ละองค์กรสามารถลดได้ต่อปี ซึ่งถ้าปล่อยคาร์บอนได้น้อยกว่าเกณฑ์จะถูกตีราคาเป็นเงิน ก่อนจะถูกขายเป็นเครดิตให้กับองค์กรอื่นได้
ตามข้อตกลงในพิธีสารเกียวโตได้กำหนดกลไกต่าง ๆ ให้ประเทศพัฒนาแล้วต้องลดปริมาณการปล่อยก๊าซที่ก่อให้เกิดปฏิกิริยาเรือนกระจก ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้เกิดภาวะโลกร้อน หนึ่งในกลไกคือ การซื้อขายมลพิษ หรือ คาร์บอนเครดิต กับประเทศที่กำลังพัฒนา เพราะประเทศที่พัฒนาแล้วกำลังอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถลดก๊าซที่ทำให้เกิดปฏิกิริยาเรือนกระจกลงตามที่กำหนดไว้ได้
ตลาดคาร์บอนเครดิต คือ พื้นที่กลางสำหรับแลกเปลี่ยนซื้อ–ขาย คาร์บอนเครดิต ถือเป็นเครื่องมือทางการตลาดที่กระตุ้นให้ภาคธุรกิจ และภาคอุตสาหกรรมมุ่งลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสู่สิ่งแวดล้อมมากขึ้น
ซึ่งตลาดคาร์บอนเครดิตเองก็แบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก
ซึ่งปัจจุบันตลาดคาร์บอนเครดิตในไทยเป็นแบบภาคสมัครใจ เพราะยังมีผู้ประกอบการน้อยราย โดยผู้ที่เข้าร่วมจะอยู่ภายใต้การดูแลขององค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) อบก หรือ TGO ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ให้การรับรองโครงการลดก๊าซเรือนกระจกภาคสมัครใจตามมาตรฐานของประเทศไทย (Thailand Voluntary Emission Reduction : T-VER)
คาร์บอนเครดิต จะมาจากโครงการต่าง ๆ ที่ช่วยในการรักษาสิ่งแวดล้อม เช่น จัดการขยะ การปลูกป่า ของหลาย ๆ บริษัท เมื่อต้นกล้าโตขึ้นเป็นไม้ยืนต้น ก็จะเข้าไปวัดส่วนสูง ความยาว ขนาดรอบวงของต้นไม้ แล้วส่งข้อมูลให้ องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (อบก) คำนวณ ถ้าผ่านการรับรองก็จะได้รับเครดิตที่เรียกว่า TVERs ที่สามารถนำไปใช้สิทธิในการชดเชยคาร์บอน (Carbon Offsetting) ได้
นอกจากนี้ประชาชนทั่วไปก็สามารถหารายได้จากการขายคาร์บอนเครดิตได้ โดยต้องมีคุณสมบัติตามนี้
ยกตัวอย่างเช่น ธุรกิจ A ไม่สามารถลดปริมาณการปล่อยก๊าซได้ ก็จะเลือกตกลงซื้อขายคาร์บอนเครดิตจากสวนของชาวบ้านเพื่อนำมาชดเชยคาร์บอนเครดิตของธุรกิจตัวเอง
นอกจากนี้ประชาชนทั่วไปก็สามารถหารายได้จากการขายคาร์บอนเครดิตได้ โดยต้องมีคุณสมบัติตามนี้
ดังนั้นการร่วมมือกันเพื่อช่วยลดปริมาณก๊าซเรือนกระจกจึงเป็นผลดีสำหรับตัวธุรกิจหรืออุตสาหกรรมเอง และทุกคนบนโลกนี้เช่นเดียวกัน
ให้ทุกเรื่องการเงินเป็นเรื่องง่าย เริ่มต้นวันดีๆ ไปกับเรา MAKE A GREAT DAY WITH ACU PAY