fbpx
Search
Close this search box.

6 ธุรกิจ SMEs “ดาวรุ่ง-ดาวร่วง” ปี 2567

นับว่าเป็นอีกหนึ่งปีที่ผู้ประกอบการหลายคนต้องปรับตัว ทั้งเงินเฟ้อที่เพิ่มมากขึ้น และสภาวะเศรษฐกิจที่เติบโตขึ้นแต่ยังอยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับประเทศในภูมิภาคเดียวกัน เมื่อไม่นานมานี้ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ได้ออกมาเปิดเผย 6 ธุรกิจ SMEs “ดาวรุ่ง-ดาวร่วง” ปี 2567 จะมีธุรกิจไหนไปต่อได้ยาว ๆ หรือต้องเตรียมปรับตัวบ้าง เดี๋ยว ACU PAY จะมาสรุปให้ฟัง

6 ธุรกิจ SMEs “ดาวรุ่ง-ดาวร่วง” ปี 2567

นายวีระพงศ์ มาลัย ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ได้เปิดเผยผลการศึกษาสถานการณ์และแนวโน้มการดำเนินธุรกิจของเอสเอ็มอี (SMEs) โดยพิจารณาจากตัวชี้วัดสำคัญคืออัตราการเติบโตของธุรกิจเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา 

พบว่า ในปี 2567 มีธุรกิจของ SMEs ทั้งกลุ่มที่เป็นดาวรุ่งในปี 2567 และต่อเนื่องสองปีซ้อน และต้องเฝ้าระวัง ในปี 2567 และต่อเนื่องสองปีซ้อน ประกอบด้วย 

กลุ่มธุรกิจดาวรุ่งพุ่งแรงในปี 2567

  • ธุรกิจเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ 

ธุรกิจตอบโจทย์คนเมืองที่เปลี่ยนไปที่ต้องความสะดวกสบายมากขึ้น โดยเปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญสามารถซักและอบเสร็จได้ในเวลาเพียง 20-40 นาที ลดค่าใช้จ่ายในการซื้อเครื่องซัก-อบที่มีราคาสูง คาดจะขยายตัวในเขตชุมชนจังหวัดต่าง ๆ ทั่วประเทศ แต่เริ่มมีการแข่งขันเข้มข้นในธุรกิจนี้ ธุรกิจนี้มีอัตราการเติบโตสูงถึง 1,925%

 

  • ธุรกิจผลิตน้ำอัดแก๊สและโซดา 

ผลิตภัณฑ์น้ำดื่มที่มีรสชาติและรูปแบบแปลกใหม่ ได้รับความนิยมมากขึ้นทั้งในรูปน้ำผลไม้ต่าง ๆ จากแต่ละท้องถิ่นที่นำมาอัดแก๊สในรูปแบบที่ผู้บริโภคทั้งชาวไทยและชาวต่างชาตินิยมดื่ม ผู้บริโภคเองก็มีทางเลือกมากขึ้น มีอัตราการเติบโต 1,109%

 

  • ร้านตัดเย็บและซ่อมเครื่องแต่งกาย 

อย่างเช่น การแก้ทรงเสื้อ การตัดขากางเกง ธุรกิจนี้เติบโต 667% จากการชะลอตัวจากสภาวะเศรษฐกิจ หลังโควิดผู้บริโภคยังคงระมัดระวังการใช้จ่าย โดยมักนำเสื้อผ้าเก่ามาแก้เพื่อใช้งาน หรือการซื้อเสื้อผ้าจากออนไลน์ที่ต้องมีการปรับแก้ทรงเพราะไม่สามารถลองก่อนซื้อ 

 

  • ธุรกิจสันทนาการ 

เช่น ร้านขายเครื่องดนตรี ร้านเกม มีอัตราการเติบโต 349% เนื่องจากสามารถรวมตัวกันทำกิจกรรมบันเทิง งานแสดงดนตรี หรือร้านเกม ได้ตามปกติแล้ว ทำให้กิจกรรมนี้กลับมาเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว 

 

  • บริการงานศพครบวงจร 

เป็นธุรกิจที่ตอบสนองคนเมือง ครอบครัวขนาดเล็ก ช่วยลดความยุ่งยากและเวลาในการติดต่อสถานที่ ซึ่งธุรกิจนี้มีบริการให้เลือกขึ้นอยู่กับงบประมาณของลูกค้า ทั้งการให้บริการขนย้าย ตกแต่งสถานที่ และพิธีกรรม อีกทั้งประเทศไทยเข้าสู่สังคมสูงวัยธุรกิจนี้ยังมีแนวโน้มที่จะเติบโตได้ต่อเนื่อง ธุรกิจนี้มีการเติบโตถึง 285%

 

  • ธุรกิจร้านเสริมสวย 

ผลจากการเริ่มฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ กิจกรรมบันเทิงและความงามยังคงเป็นเรื่องที่ได้รับความสนใจ รวมถึงราคาการให้บริการไม่สูงนักเนื่องจากเป็นธุรกิจที่มีการให้เลือกใช้บริการจำนวนมากแต่บางธุรกิจที่ได้รับความนิยมผ่านสื่อ Social อาจต้องจองคิวเพื่อเข้าใช้บริการ ธุรกิจนี้เติบโต 193%

กลุ่มธุรกิจที่เป็น “ดาวรุ่ง” ต่อเนื่องสองปีซ้อน

  • ธุรกิจขายของชำ หรือ ร้านโชห่วย 

ธุรกิจนี้เติบโตถึง 940% เหตุผลที่ทำให้ร้านเติบโต เป็นเพราะว่าร้านค้าเหล่านี้ สามารถซื้อสินค้าครั้งละน้อย ๆ และยังยืดหยุ่นในการชำระเงินได้ เพิ่มความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับคนในชุมชน

  •  ธุรกิจท่องเที่ยวชุมชนสัมผัสวัฒนธรรมชนบท 

เติบโตถึง 187% หลังสถานการณ์โควิด-19 นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางท่องเที่ยวสัมผัสธรรมชาติมากขึ้น เป็นการเยียวยาชีวิตและจิตใจผ่านธรรมชาติบำบัด รวมทั้งได้สัมผัสเรียนรู้วิถีชีวิตของคนในชุมชน ความเรียบง่าย อาหารจากธรรมชาติ บรรยากาศที่เงียบสงบ ความผ่อนคลาย 

 

  • ธุรกิจขายของในบ้านมือสอง และซ่อมเฟอร์นิเจอร์ 

เติบโตกว่า 263% เนื่องจากราคาซ่อมมีค่าใช้จ่ายน้อยกว่าการจัดซื้อใหม่ หลายสินค้าราคาสูงจากต้นทุนการผลิตที่ปรับเพิ่มขึ้น อีกทั้งความจำเป็นในการใช้งานตามพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงของคนรุ่นใหม่ กำลังซื้อที่ลดลง ประกอบกับเทรนด์การรักษ์โลก ผู้คนหันกลับมามองสิ่งของรอบตัวที่เรามีในชีวิตประจำวัน 

 

  • ธุรกิจเกี่ยวกับสื่อ 

เติบโตที่ 199% โดยหลังโควิด-19 ธุรกิจเกี่ยวกับสื่อเริ่มปรับกลยุทธ์ขยายแพลตฟอร์มไปทางกลุ่มสื่อออนไลน์มากขึ้น รวมทั้งการเข้าสู่อาชีพ อินฟลูเอนเซอร์ ยูทูปเบอร์ และ ติ๊กต๊อกเกอร์ เป็นจำนวนมาก 

 

  • ธุรกิจผับ บาร์ และร้านที่ขายแอลกอฮอล์เป็นหลัก 

ธุรกิจเติบโต 125% หลังชาวไทยและต่างชาติกลับมาท่องเที่ยวยามราตรีได้ตามปกติ พร้อมกับการท่องเที่ยวที่ขยายตัว อีกทั้งธุรกิจนี้เป็นธุรกิจที่สร้างอัตรากำไรสูง ผู้ประกอบการสามารถคืนทุนได้อย่างรวดเร็วจึงเป็นอีกกลุ่มธุรกิจที่ยังมีโอกาสเติบโตได้

กลุ่มธุรกิจดาวร่วงในปี 2567

ขณะเดียวกันยังมีธุรกิจที่เริ่มต้องเฝ้าระวังในปี 2567 เนื่องจากเคยเป็นกลุ่มที่มีอัตราการเติบโตสูงจากปี 2566 แต่ในปี 2567 กลับมีแนวโน้มชะลอตัวลง มีจำนวน 3 กลุ่มหลัก เช่น

 

  • ร้านขายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์มือสอง 

เช่น คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์ มีการหดตัวมากถึง 82% เป็นเพราะสินค้าอิเล็กทรอนิกส์และเทคโนโลยีมือหนึ่งในปัจจุบันราคาถูกลงมาก ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าหลากหลายมากขึ้น อีกทั้งผู้บริโภคมีการเปรียบเทียบราคาได้ง่าย เพื่อความคุ้มค่าในการจ่ายเงิน สินค้ามือสองกลุ่มนี้จึงได้รับความนิยมน้อยลง 

 

  • ธุรกิจขายงานฝีมือและของที่ระลึก 

เช่น เครื่องเงิน เครื่องจักสาน มีการหดตัวถึง 75% เป็นเพราะการขายสินค้าในออนไลน์เป็นที่นิยม และมีสินค้าเกือบทุกประเภทขายบนออนไลน์ จึงทำให้มีแรงกระตุ้นที่จะทำให้นักท่องเที่ยวต้องซื้อสินค้าจากการไปท่องเที่ยวที่นั้น ๆ น้อยลง

 

  • ธุรกิจเกสเฮ้าส์ 

ธุรกิจนี้มีการหดตัวกว่า 65% จากการเติบโตอย่างมากในปีก่อน ซึ่งเป็นผลมาจากสถานการณ์โควิด-19 ที่ผ่อนคลายในช่วงแรก ห้องพักแบบเกสเฮ้าส์เป็นตัวเลือกที่ราคาไม่สูงนักเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวที่เดินทางคนเดียว กลุ่มวัยรุ่นและเป็นการพักในระยะยาว 

แต่หลังโควิด-19 ผ่านไป พฤติกรรมการท่องเที่ยวเปลี่ยนไป นิยมพักระยะสั้น-กลาง หันไปนิยมห้องพักที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากกว่า หรือเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวแบบครอบครัวมากขึ้น 

กลุ่มธุรกิจที่เป็น “ดาวร่วง” ต่อเนื่องสองปีซ้อน

ส่วนธุรกิจในกลุ่มเฝ้าระวัง มีทั้งธุรกิจที่อยู่ในกลุ่มเฝ้าระวัง 2 ปีต่อเนื่อง 2566 และ 2567 คือ 

  • ธุรกิจหอพักนักศึกษา 

นั่นก็เป็นเพราะว่า ทางเลือกของที่พักในรูปแบบอื่น ๆ มากขึ้น ทำให้นักศึกษาส่วนใหญ่เลือกพักห้องเช่าแบบอพาร์ทเม้นท์และคอนโดมิเนียมเพิ่มมากขึ้น

 

ผู้เขียน

ACU PAY Thailand

ACU PAY Thailand

ให้ทุกเรื่องการเงินเป็นเรื่องง่าย เริ่มต้นวันดีๆ ไปกับเรา MAKE A GREAT DAY WITH ACU PAY

บทความที่เกี่ยวข้อง

เพื่อนๆ สามารถติดตาม ACU PAY Thailand ผ่านช่องทางการติดตามอื่นๆ ได้ที่