เปิดเงื่อนไข นโยบายเงินดิจิทัล 10,000 บาท ทำได้จริงหรือ?

หลังจาก นายเศรษฐา ทวีสิน จากพรรคเพื่อไทย ได้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของประเทศไทย ก็มีเสียงในโลกออนไลน์มากมายเกี่ยวกับนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยเงินดิจิทัล 10,000 บาท ที่เคยประกาศไว้ในช่วงหาเสียง จะได้ใช้สิทธิ์ตอนไหน และจะได้ใช้จริงหรือไม่ ซึ่งวันนี้ ACU PAY จะพามาเปิดเงื่อนไขสำคัญของนโยบายเงินดิจิทัล 10,000 บาท ว่าใครมีสิทธิ์และใช้อย่างไรบ้าง

เงินดิจิทัล 10,000 บาท คืออะไร

เงินดิจิทัล 10,000 บาท คือ กระเป๋าเงินดิจิทัล (Digital wallet) ที่มีจำนวนเงิน 10,000 บาท รวมงบประมาณทั้งหมด 560,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างเร่งด่วนของพรรคเพื่อไทย โดยทางพรรคได้ใช้นโยบายเงินดิจิทัลสำหรับหาเสียงในช่วงก่อนเลือกตั้งประจำปี 2566 หวังกระจายรายได้สู่ชุมชนและกระตุ้นเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ โดยมีการใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนมาช่วยยืนยันความปลอดภัย ซึ่งล่าสุดพรรคเพื่อไทยได้สัญญาเดินหน้านโยบายดิจิทัล 10,000 บาท ต้นปี 2567 นี้

ใครบ้างมีสิทธิ์ได้รับเงินดิจิทัล 10,000 บาท

คนไทยอายุ 16 ปีขึ้นไป
คนที่ได้รับสวัสดิการอื่นๆก็รับเงินดิจิทัลได้ เช่น ผู้พิการ คนชรา
ไม่ต้องลงทะเบียนเพราะระบบผูกกับบัตรประชาชน

เงื่อนไขการใช้เงินดิจิทัล 10,000 บาท

ใช้จ่ายในรัศมี 4 กิโลเมตรตามที่อยู่ทะเบียนบ้าน (แต่สามารถปรับเปลี่ยนรัศมีได้ตามลักษณะภูมิประเทศ)
สามารถใช้ซื้ออาหาร น้ำดื่ม ยารักษาโรค หรือเครื่องมือทำกิน ตามร้านค้าในชุมชน
ไม่สามารถใช้ซื้อสินค้าออนไลน์ และสินค้าที่เกี่ยวกับอบายมุข
สามารถใช้ผ่านแอปพลิเคชันบนมือถือ หรือกรณีไม่มีสมาร์ทโฟนสามารถใช้ผ่านเลขบัตรประจำตัวประชาชนและโค้ดสำหรับการใช้จ่าย
ไม่สามารถถอนเป็นเงินสดได้
จำกัดระยะเวลาใช้ภายใน 6 เดือน ใช้จ่ายครั้งเดียวหรือทยอยจ่ายก็ได้

ที่มาของเงิน 560,000 ล้านบาท ในโครงการเงินดิจิทัล

พรรคเพื่อไทยคาดว่าจะเริ่มใช้นโยบายดังกล่าวภายในครึ่งแรกของปี 67 โดยงบประมาณที่ใช้ในโครงการนี้ประมาณ 560,000 ล้านบาท จะถูกนำมาจาก 4 ส่วนหลักคือ

260,000 ล้านบาท จากภาษีที่เก็บได้เพิ่มขึ้นจากการขยายตัวของเศรษฐกิจประเทศ จากการ ประมาณของสำนักงานงบประมาณ
100,000 ล้านบาท จากภาษีนิติบุคคลและมูลค่าเพิ่มที่ได้จากโครงการนี้ โดยคาดการณ์จากเงิน ดิจิทัลที่แจกไปจะมีการซื้อขายหมุนเวียนในเศรษฐกิจมากกว่า 2.7 รอบ
110,000 ล้านบาท จากการบริหารจัดการงบประมาณเดิมที่ไร้ประสิทธิภาพ
90,000 ล้านบาท จากการบริหารงบประมาณสวัสดิการที่ซ้ำซ้อน

ประโยชน์ที่ได้จากนโยบายเงินดิจิทัล

ทางพรรคเชื่อว่านโยบายนี้จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้กับคนในชุมชน โดยเชื่อว่าการจ่ายเงินก้อนใหญ่จะทำให้ประชาชนมองเรื่องการลงทุนประกอบธุรกิจมากกว่าซื้อของใช้ในชีวิตประจำวันทั่วไป และการใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนในการเก็บข้อมูล ทำให้เกิดความโปร่งใสมากขึ้น ปลอดภัยมากขึ้น

ข้อกังวลเกี่ยวกับนโยบายเงินดิจิทัล

ทั้งนี้ฝั่งนักวิเคราะห์มีความกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงในการเกิดเงินเฟ้อที่อาจเกิดขึ้นจากนโยบายเงินดิจิทัลนี้ อีกทั้งยังรวมถึงความไม่ชัดเจนในด้านกฎหมายเงินดิจิทัล และปัญหาความโปร่งใสและความเป็นส่วนตัวของเทคโนโลยีของบล็อกเชน

ในส่วนของรายละเอียดโครงการเงินดิจิทัล 10,000 บาท ตอนนี้ยังไม่มีรายละเอียดแน่ชัดเกี่ยวกับการใช้งานของบล็อกเชน เพราะต้องรอการจัดตั้งรัฐบาลให้เสร็จสิ้นก่อน แต่ทางพรรคเพื่อไทยได้ออกมายืนยันเมื่อวันที่ ที่ผ่านมาแล้วว่า โครงการนี้จะยังดำเนินการต่อแน่นอน และประชาชนจะได้ใช้งานในต้นปี 2567 นี้