fbpx
Search
Close this search box.

ผักตบชวา จากวัชพืชไร้ค่า สู่บะหมี่หยกชวา

ถ้าพูดถึงผักตบชวา คงไม่มีใครไม่รู้จัก ภาพที่นึกถึงคงเป็นภาพผักตบชวาที่ลอยอยู่ในน้ำจำนวนมาก บางคนอาจจะมองไม่เห็นประโยชน์ของผักตบชวา แต่วันนี้เอซียู เพย์ จะพาไปดูว่าจากผักตบชวาไร้ค่า สามารถนำมาแปรรูปเป็นบะหมี่หยกชวาเพื่อสร้างรายได้ ได้อย่างไรบ้าง และสามารถนำไปใช้ประโยชน์อะไรได้บ้าง ถ้าพร้อมแล้ว ไปดูกันเลยยยย

เนื้อหา

ผักตบชวาถูกนำเข้ามาในประเทศไทยในปี พ.ศ. 2444 ในสมัยรัชกาลที่ 5 โดยนำเข้ามาจากประเทศอินโดนีเซีย เป็นไม้ประดับสวยงาม โดยเจ้านายฝ่ายใน ที่ตามเสด็จประพาสประเทศอินโดนีเซีย ได้เห็นพืชชนิดนี้ มีดอกสวย จึงนำกลับมาปลูกที่ประเทศไทย เลี้ยงไว้หน้าสนามวังสระปทุม ใส่อ่างดินไว้ จนกระทั่งวันหนึ่งเกิดน้ำท่วมวังสระปทุมขึ้น จึงทำให้ผักตบชวาหลุดลอยและได้กระจายไปตามแม่น้ำลำคลองทั่วไป จนแพร่พันธุ์อย่างกว้างขวางมาจนถึงปัจจุบันนี้ 

ผักตบชวา เป็นพืชลอยน้ำที่ใครหลายคนรู้จักกันดี และมองว่ามันคือพืชไร้ค่าเต็มแหล่งน้ำไทย แต่จริงๆแล้วเป็นพืชต่างถิ่น มีต้นกำเนิดอยู่ที่อเมริกาใต้ โดยเฉพาะบราซิล จัดได้ว่าเป็นพืชรุกรานแหล่งน้ำไทย เพราะผักตบชวามีความสามารถเติบโตและขยายพันธ์ุเร็วมาก ทนทานต่อสภาพแวดล้อมในรูปแบบต่างๆ โดยใน 1 เดือน ผักตบชวา 1 ต้น สามารถขยายพันธุ์ได้มากถึง 1000 ต้น และมีอายุขัยได้มากถึง 15 ปี   

ผักตบชวานำไปแปรรูปสร้างได้อย่าง บะหมี่หยกชวา

การกระจายพันธุ์อย่างรวดเร็วของผักตบชวา ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศ ในเมื่อแก้ไขยาก คนไทยจึงมีไอเดียดี นำมาแปรรูปทำเป็นผลิตภัณฑ์ ช่วยทำให้คนได้มีรายได้ ซึ่งที่ผ่านมาคนไทยนำผักตบชวาไปแปรรูปหลากหลาย เช่น ปุ๋ย สานถักทอ เป็น กระเป๋า ตะกร้า และเสื้อผ้า ล่าสุดมีการนำผักตบชวาไปแปรรูปเป็นเส้นบะหมี่ ที่เรียกว่า “บะหมี่หยกชวา” 

กศน.ตำบลหนองน้ำใส อำเภอภาชี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ร่วมกับ กลุ่มวิสาหกิจชุมชน ได้แปรรูปผักตบชวาให้กลายเป็นบะหมี่หยกชวา รับประทานได้ ผ่านมาตรฐานความปลอดภัย ไม่มีสารเคมีที่ตกค้าง นอกจากอร่อยแล้ว ยังมีสรรพคุณเป็นยาแก้พิษในร่างกาย ช่วยขับลม และระบายความร้อนในร่างกายได้ดี 

บะหมี่หยกชวา กินได้จริงใช่ไหม?

ทานได้ แม้ว่าจะอยู่ทั่วแหล่งน้ำไทย ดูเหมือนไร้ค่า แต่จริงๆแล้ว ผักตบชวามีเส้นใยอาหารสูง มีวิตามินและแร่ธาตุหลายชนิด เช่น วิตามิน A, C และแร่ธาตุต่าง ๆ เช่น แคลเซียม แมกนีเซียม ฟอสฟอรัส เป็นต้น 

ข้อเสียของผักตบชวา

อาจเป็นอุปสรรคต่อการเดินเรือ อุปสรรคต่อการเจริญพันธุ์ของปลาท้องถิ่น เช่น เป็นแหล่งเพาะพันธ์ุศัตรูพืช สัตว์มีพิษ และการชลประทาน เช่น ลดอัตราการการไหลของน้ำได้ เป็นต้น 

ดูข้อเสียกันไปแล้ว ต่อไปไปดูสรรพคุณของผักตบชวากันบ้างดีกว่า ว่าจะมีอะไรบ้าง ไปกันเลย.. 

ผักตบชวา มีสรรพคุณอย่างไร

  1. ส่วนของลำต้นของผักตบชวา มีรสจืด มีสรรพคุณช่วยแก้พิษหรือขับพิษภายในร่างกายได้ ช่วยขับลม รักษาแผลอักเสบด้วยการนำมาตำให้พอแหลกๆ แล้วใช้ทาหรือพอกบริเวณแผล
  2. ป็นอาหารที่รสชาติอร่อยและมีคุณค่าทางสารอาหาร โดยส่วนที่นิยมนำมากินคือ ยอดอ่อน ใบอ่อน และดอกอ่อน ซึ่งจะลวกหรือต้มเป็นผักจิ้มกินกับน้ำพริก ใส่ลงในแกงอย่างแกงส้มก็ได้ และยังพบว่าในประเทศญี่ปุ่นก็ชอบกินผักตบชวาเป็นอาหาร แต่ต้องมาจากสภาพแวดล้อมที่ดี ไม่มีสารพิษเจือปน 
  3. ผักตบชวามีคุณสมบัติที่ช่วยระบายความร้อนในร่างกาย 
  4. เป็นยาตามหมอแผนโบราณ ช่วยบรรเทาอาการปวดเข่า ปวดข้อได้เป็นอย่างดี ใช้ผักตบชวาสะอาดมาล้าง หั่นเป็นชิ้นเล็ก ตากจนแห้งและบดเป็นผง นำมาละลายกับน้ำให้ข้นนิดหน่อย พอกตามส่วนต่างๆ ของร่างกายที่มีอาการปวด เช่น หัวเข่า ข้อศอก ข้อเท้า ข้อมือ ฯลฯ มีสรรพคุณลดอาการปวด ระบายลมที่ค้างตามข้อได้ดี 
  5. ผักตบชวาประกอบด้วยสารอาหารทางโภชนาการที่มีประโยชน์และร่างกาย ได้แก่ พลังงาน น้ำ โปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมัน และใยอาหาร
  6. ผักตบชวามีประโยชน์ในการช่วยเพาะเห็ด เพราะมีคุณสมบัติช่วยให้ความชุ่มชื้นได้ดี นำไปตากแดดให้แห้ง พอแห้งแล้ว นำมาใช้เพาะเห็ดแทนฟางข้าวได้ ช่วยให้เราได้กินเห็ดที่มีประโยชน์และผู้ผลิตก็มีรายได้ด้วย 
  7. ผักตบชวามีประโยชน์ใช้เป็นอาหารสัตว์ เพราะมีสารอาหารต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อคนเราแล้ว ยังมีประโยชน์ต่อสัตว์ได้ ซึ่งนำไปเป็นอาหารให้สัตว์ อย่างเช่น หมู  วัว ควาย แกะ แพะและไก่ แต่ควรระวังผักตบชวาที่มาจากแหล่งน้ำสกปรกมีมลพิษ เพราะหากสัตว์กินเข้าไปก็อาจเกิดการสะสมของสารพิษและทำให้เกิดอันตรายต่อสัตว์ได้ 
  8. ผักตบชวาสามารถนำมาแปรรูปเป็นเครื่องใช้ต่างๆอย่างเครื่องจักสาน เสื่อ รองเท้าแตะกระเป๋า ตะกร้า เป็นต้น 

โดยการใช้ใบอ่อนของผักตบชวา ที่มีทั้งไฟเบอร์และคลอโรฟิลล์สูง เป็นประโยชน์ของร่างกาย การนำใบอ่อนของผักตบชวามาทำเป็นเส้นบะหมี่นั้น เริ่มจากการปั่นใบอ่อนให้ละเอียด ผสมกับแป้งสาลี ไข่ไก่ และเกลือ จากนั้นนำมานวดและเข้าเครื่องผลิตเป็นเส้นบะหมี่สด ทั้งสะอาด ถูกสุขอนามัย มีกลิ่นหอม และมีรูปร่างหน้าตาน่ากิน

นอกจากนี้ ส่วนประกอบของผักตบชวายังสามารถนำไปประกอบอาหารได้อีกหลากหลายเมนู เช่น แกงส้มไหลผักตบชวา ส้มตำไหลผักตบชวา และน้ำพริกชวาเสวย เป็นต้น 

การนำส่วนประกอบของผักตบชวามาสร้างสรรค์เป็นเมนูอาหารหรือการแปรรูปผักตบชวา นอกจากจะแก้ไขปัญหาผักตบชวาที่ขยายพันธุ์เร็วเกินไปแล้ว ยังเป็นการสร้างอาชีพและรายได้ให้แก่ชุมชน ซึ่งตลาดนั้นมีทั้งในไทยและในต่างประเทศ ส่งออกผักตบชวาไปยังประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย เรียกได้ว่าสร้างรายได้ ได้ดีมาก ๆ 

เป็นอย่างไรกันบ้างคะ… กับผักตบชวา ที่สามารถนำมาแปรรูปได้ทั้งอาหารและเครื่องใช้ต่าง ๆ อย่างเครื่องจักสาน กระเป๋า ตะกร้า ถึงจะเคยถูกมองว่าเป็นพืชไร้ค่า แต่ตอนนี้กลับเป็นพืชที่สามารถสร้างรายได้ให้กับใครหลาย ๆ คน และยังมีสรรพคุณหลายอย่าง มีใครที่เคยลองทานบะหมี่หยกชวาหรือได้ใช้กระเป๋า ตะกร้า ที่ทำจากผักตบชวาแล้วบ้างคะ รสชาติเป็นยังไง สามารถแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้น๊าา 

ผู้เขียน

ACU PAY Thailand

ACU PAY Thailand

ให้ทุกเรื่องการเงินเป็นเรื่องง่าย เริ่มต้นวันดีๆ ไปกับเรา MAKE A GREAT DAY WITH ACU PAY

บทความที่เกี่ยวข้อง

เพื่อนๆ สามารถติดตาม ACU PAY Thailand ผ่านช่องทางการติดตามอื่นๆ ได้ที่