ปัญหา “หนี้นอกระบบ” เป็นปัญหาหยั่งลึกที่อยู่คู่กับสังคมไทยมานาน ซึ่งครั้งนี้รัฐบาลได้วางแผนที่จะแก้ปัญหาหนี้นอกระบบที่เป็นวาระแห่งชาติ เพื่อฟื้นฟูสภาพความเป็นอยู่ และความมั่นคงให้กับคนไทย โดยทางรัฐบาลนำโดย นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ฝ่ายปกครอง กระทรวงการคลัง และตำรวจ เข้ามาช่วยแก้ปัญหาในครั้งนี้ โดยรายละเอียดจะมีดังนี้
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า หนี้นอกระบบเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบ ต่อประชาชนที่เป็นรากฐานสำคัญของระบบเศรษฐกิจ ทำให้ต้องเจอกับความเปราะบางที่เกิดขึ้นจากหนี้สิน ที่ใช้เท่าไรก็ไม่มีวันหมด จนพวกเขาไม่สามารถแม้แต่จะฝัน ปิดโอกาสการต่อยอดไปหลายอย่าง ไม่สามารถเติบโตได้อย่างเต็มศักยภาพ ส่งผลกระทบเป็นโดมิโน่ไปยังทุกภาคส่วน
ปัญหาหนี้ครั้งนี้ทางรัฐบาลได้รับความร่วมมือจากหลายฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายปกครอง ที่อยู่ใกล้ชิดกับประชาชน และฝ่ายตำรวจ ที่ช่วยกำกับดูแลบังคับใช้กฎหมาย จะมาทำงานร่วมกัน แก้ไขทั้งเรื่องหนี้ และมีเรื่องของความสัมพันธ์ในระดับชุมชนที่ละเอียดอ่อน
โดยภาครัฐจะรับบทบาทเป็นตัวกลางสำคัญในการไกล่เกลี่ย ดูแลทั้งเจ้าหนี้และลูกหนี้อย่างเป็นธรรม ตั้งแต่ต้นกระบวนการจนถึงการปิดหนี้ การทำสัญญา ที่หลายครั้งไม่เป็นธรรมตามกฎหมาย มีดอกเบี้ยที่ไม่เป็นธรรม และกระบวนการทวงหนี้ที่ใช้ความรุนแรง ต้องจัดให้ทำสัญญาที่เป็นธรรมและเป็นไปตามกฎหมาย
เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2566 ที่ผ่านมา จากข้อมูลของสำนักการสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง เมื่อเวลา 15.30 น. การลงทะเบียนหนี้นอกระบบล่าสุดมีมูลหนี้รวม 5,851.294 ล้านบาท ประชาชนลงทะเบียนแล้ว 98,667 ราย โดยเป็นการลงทะเบียนผ่านระบบออนไลน์ 87,561 ราย และการลงทะเบียน ณ ศูนย์อำนวยการแก้ไขหนี้นอกระบบ 11,106 ราย รวมจำนวนเจ้าหนี้ 69,093 ราย
มีพื้นที่/จังหวัดที่มีผู้ลงทะเบียนมากที่สุด 5 ลำดับแรก ได้แก่
ขณะที่จังหวัดที่มีผู้ลงทะเบียนน้อยที่สุด 5 ลำดับแรก ได้แก่
ประชาชนที่ยังไม่ได้ลงทะเบียน สามารถลงทะเบียนได้ทั้งทางออนไลน์ที่ https://debt.dopa.go.th หรือวอร์คอินได้ ณ ที่ว่าการอำเภอ หรือสำนักงานเขตทั่วประเทศ โดยสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนศูนย์ดำรงธรรม โทร. 1567 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชนในพื้นที่ ระยะเวลาตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2566 – 29 กุมภาพันธ์ 2567
นอกจากหนี้นอกระบบแล้ว แนวทางช่วยเหลือลูกหนี้จากรัฐบาลยัง ครอบคลุมอีกหลากหลายกลุ่มด้วยกัน เช่น การพักหนี้เกษตรกร หนี้กยศ. หนี้ครู หนี้ข้าราชการ หนี้บัตรเครดิต หนี้เช่าซื้อรถยนต์ ต่อไปนี้
อย่างไรก็ตามรัฐบาลระบุว่า แนวทางแก้หนี้ข้างต้นทั้งหมดนั้นเป็นเพียงการแก้ไขปัญหาที่ปลายเหตุ ในระยะเร่งด่วน เพื่อต่อลมหายใจให้ลูกหนี้ทุกกลุ่ม ส่วนในระยะยาว ต้องแก้ปัญหาในระดับโครงสร้าง
ไม่ว่าจะเป็น การให้บริการสินเชื่อให้เหมาะสม เป็นธรรม, มีมาตรการคุ้มครองผู้บริโภคที่เหมาะสม และป้องกันปัญหาการก่อหนี้เกินตัว ซึ่งการให้สินเชื่อ จะพิจารณาข้อมูลอื่นนอกเหนือจากประวัติการชำระสินเชื่อ เช่น ประวัติการชำระค่าน้ำ หรือค่าไฟของลูกหนี้ ซึ่งจะช่วยให้ประชาชนเข้าถึงสินเชื่อในระบบได้ง่ายขึ้น
การผลักดันให้สหกรณ์ออมทรัพย์และสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน รายงานข้อมูลเครดิตไปยัง NCB เพื่อให้ผู้ให้สินเชื่อทุกรายสามารถประเมินความสามารถในการชำระหนี้ของลูกหนี้ และการจัดการบุริมสิทธิในการตัดเงินเดือนของลูกหนี้ที่เป็นธรรมกับทุกฝ่าย เพื่อชำระหนี้กับผู้ให้สินเชื่อได้อย่างเหมาะสม