fbpx
Search
Close this search box.

รู้ก่อนสมัคร สินเชื่อส่วนบุคคล vs สินเชื่อกดเงินสด ต่างกันอย่างไร

สินเชื่อส่วนบุคคล บัตรกดเงินสด

หลายคนที่กำลังหมุนเงินไม่ทัน ก็คงไปพึ่งการกู้อย่างสินเชื่อ หรือ ถอนเงินก้อนใช้จากพวกบัตรกดเงินสด แล้วรู้หรือไม่ว่าผลิตภัณฑ์ทางการเงินแบบไหน เหมาะกับเรา ซึ่งครั้งนี้ ACU PAY จะพามาทำความรู้จักสินเชื่อ 2 รูปแบบ นั่นก็คือ สินเชื่อส่วนบุคคล และ สินเชื่อกดเงินสดต่างกันอย่างไร

ทำความรู้จัก สินเชื่อส่วนบุคคล และ บัตรกดเงินสด

สินเชื่อส่วนบุคคล และ บัตรกดเงินสด ต่างเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ธนาคารหรือสถาบันการเงินเป็นผู้จัดทำ ซึ่งหลายคนคงมีข้อสงสัยว่าระหว่างบัตรกดเงินสดกับสินเชื่อส่วนบุคคล ต่างกันอย่างไร ทั้งในเรื่องของรูปแบบสินเชื่อ อัตราดอกเบี้ย การชำระเงินคืน

สินเชื่อส่วนบุคคล บัตรกดเงินสด

สินเชื่อส่วนบุคคล

สินเชื่อส่วนบุคคล (Personal Loan) คือ สินเชื่อที่ออกโดยผู้ให้บริการสินเชื่อ ทั้งธนาคารและสถาบันการเงินที่ไม่ใช่ธนาคาร ในรูปแบบเงินสดเป็นเงินก้อน เมื่อได้รับการอนุมัติจะมีการโอนเงินเข้าบัญชีธนาคาร เป็นทางเลือกสำหรับคนที่มีความต้องการและมองหาเงินก้อนใหญ่มาใช้จ่าย เช่น ค่ารักษาพยาบาล ค่าซ่อมบ้าน ค่าใช้จ่ายภายในครอบครัวต่าง ๆ โดยสามารถแบ่งเป็น 2 ประเภท ได้แก่

สินเชื่อส่วนบุคคลที่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน เป็นสินเชื่อที่ผู้กู้ต้องนำหลักทรัพย์ เช่น ที่ดิน บ้าน อาคาร ที่มีมูลค่ามากกว่าหรือเท่ากับวงเงินสินเชื่อที่ขอมาค้ำประกันวงเงินกู้  

สินเชื่อส่วนบุคคลที่ไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน เป็นสินเชื่อที่ผู้กู้ไม่จำเป็นต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน เพียงแค่แสดงหลักฐานรายได้เท่านั้น แต่มักคิดดอกเบี้ยแพงกว่าสินเชื่อแบบมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน

  • เหมาะกับใคร  

สินเชื่อส่วนบุคคลเหมาะกับพนักงานที่มีรายได้ประจำ เช่น พนักงานบริษัท ข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ ที่มีรายได้ตั้งแต่ 15,000 บาทขึ้นไป กู้ไปใช้จ่ายตามวัตถุประสงค์ที่ต้องการ รวมทั้งผู้ประกอบการ หรือเจ้าของกิจการ ที่ต้องการกู้ไปเสริม เพื่อใช้ในการลงทุน เพิ่มสภาพคล่องทางธุรกิจ หรือขยายกิจการ 

  • อัตราดอกเบี้ย

สำหรับอัตราดอกเบี้ยไม่เกิน 25% ต่อปี การคำนวณดอกเบี้ยเป็นแบบลดต้นลดดอก (Effective Rate) แต่สำหรับสินเชื่อส่วนบุคคลที่มีทะเบียนรถเป็นหลักประกันต้องคิดอัตราดอกเบี้ยไม่เกิน 24% ต่อปี

  • การคิดดอกเบี้ย

คิดดอกเบี้ยตั้งแต่วันที่ธนาคารโอนเงินเข้ามาในบัญชีของผู้ขอสินเชื่อ แต่ถ้าเรายิ่งชำระในแต่ละงวดมากเท่าไร ก็จะทำให้งวดต่อ ๆ ไปดอกเบี้ยลดลงเท่านั้น

  • รูปแบบการชำระเงิน

เป็นไปตามสัญญาเงินกู้ที่ตกลงกับธนาคารไว้ โดยมีกำหนดการชำระคืนชัดเจน เริ่มที่ 12 – 60 เดือน (ขึ้นอยู่กับผู้กู้เลือกระยะเวลาในการชำระคืน) ทำให้สามารถกำหนดระยะเวลาและวางแผนการชำระสินเชื่อส่วนได้ แต่หากมีเงินก้อนก็สามารถนำมาโปะได้เช่นเดียวกัน

บัตรกดเงินสด

บัตรกดเงินสด คือ สินเชื่อในรูปแบบบัตรที่มีวงเงินจากธนาคารหรือสถาบันการเงิน ที่ออกให้กับผู้ขอสินเชื่อ เพื่อนำไปกดเงินสดผ่านตู้ ATM ตามวงเงินที่ได้รับอนุมัติในบัตรกดเงิน โดยไม่เสียค่าธรรมเนียมการกดเงิน และผู้ถือบัตรจะสามารถเบิกถอนเงินสดกี่ครั้งก็ได้ โดยไม่มีการกำหนดขั้นต่ำในการกดเงินสด แต่จำนวนเงินที่กดได้ต้องไม่เกินวงเงินที่ได้รับอนุมัติจากธนาคารหรือสถาบันการเงิน

โดยส่วนมากบัตรกดเงินสดจะไม่สามารถนำรูดซื้อสินค้าหรือบริการได้ ยกเว้นบัตรกดเงินสดบางใบที่สามารถนำมารูดผ่อนสินค้าหรือบริการได้ ซึ่งขึ้นอยู่กับโปรโมชั่นและเงื่อนไขของร้านค้าและสถาบันการเงินนั้น

  • เหมาะกับใคร

เหมาะกับคนที่ต้องการเสริมสภาพคล่องหรือต้องการใช้เงินสดในช่วงที่เร่งด่วน โดยไม่ต้องมีหลักทรัพย์หรือผู้ค้ำประกัน เช่น ค่ารักษาพยาบาล ค่าซ่อมบ้าน ค่าซ่อมรถ หรือผู้ที่ต้องการเงินสดใช้จ่ายอเนกประสงค์ หรือโอกาสพิเศษต่าง ๆ เช่น ค่าเทอมลูก ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเช่าบ้าน เพราะบัตรกดเงินสดสามารถกดเงินออกมาใช้ได้ทุกวันผ่านตู้ ATM ที่มีให้บริการทั่วประเทศ ตลอด 24 ชั่วโมง

  • อัตราดอกเบี้ย

สำหรับอัตราดอกเบี้ยสูงสุด ไม่เกินร้อยละ 28% ต่อปี เนื่องจากบัตรกดเงินสดเป็นสินเชื่อบุคคลที่ไม่ต้องมีผู้ค้ำประกันหรือมีทรัพย์สินเป็นหลักประกัน ทำให้อัตราดอกเบี้ยของบัตรกดเงินสดสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยของสินเชื่อประเภทอื่นเล็กน้อย

  • การคิดดอกเบี้ย

สำหรับการคิดดอกเบี้ย และค่าธรรมเนียม จะคิดตั้งแต่วันที่และคิดตามยอดที่เรากดเงินออกมาใช้เท่านั้น

  • รูปแบบการชำระเงิน

วิธีการชำระคล้ายกับบัตรเครดิต เมื่อถึงรอบบิล ผู้กู้สามารถชำระหนี้ยอดเต็มจำนวน หรือเลือกชำระขั้นต่ำเหมือนบัตรเครดิตก็ได้ และเมื่อชำระแล้วก็จะได้วงเงินกลับคืนมา ทำให้สามารถกดเงินสดมาใช้จ่ายได้อีกครั้ง

สินเชื่อส่วนบุคคล ต่างกับ บัตรกดเงินสด อย่างไร

ทั้งนี้สินเชื่อส่วนบุคคลและบัตรกดเงินสด ต่างมีข้อดีข้อเสียแตกต่างออกไป

ข้อดีของ “สินเชื่อส่วนบุคคล” : วงเงินอนุมัติจะค่อนข้างสูง แต่มักไม่เกิน 5 เท่าของเงินเดือน มีระยะการผ่อนที่ยาวนานสูงสุด 60 – 72 เดือน ขึ้นอยู่กับแต่ละธนาคาร อัตราดอกเบี้ยต่ำกว่าบัตรกดเงินสด

ข้อเสียของ “สินเชื่อส่วนบุคคล” : ควรใช้เมื่อมีความจำเป็น เพราะธนาคารจะคิดดอกเบี้ยทันทีที่วงเงินได้รับการอนุมัติ และโอนเข้าบัญชีของเรา อาจมีค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ในการกู้ต่าง ๆ  

ข้อดีของ “บัตรกดเงินสด” : ใช้ง่าย สะดวกสบาย เพียงแค่นำบัตรไปกดเงินสดออกจากตู้ ATM นอกจากนี้ยังคิดดอกเบี้ย และค่าธรรมเนียมตามจำนวนเงินที่กดมาใช้จริง ไม่กำหนดวงเงินขั้นต่ำในการถอนเงิน และไม่มีค่าธรรมเนียมในการกดเงิน

ข้อเสียของ “บัตรกดเงินสด” : ความสะดวกในการใช้งานอาจก่อหนี้เกินตัว และการใช้บัตรกดเงินสดยังมีอัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่าสินเชื่อส่วนบุคคล ซ้ำยังต้องมีวินัยในการชำระคืน และชำระให้ครบทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย 

ภาระการชำระหนี้

ซึ่งภาระการชำระจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อมีการเบิกถอนเงินสดออกมาใช้ แต่ถ้าไม่มีการใช้งานบัตรก็จะไม่มีภาระหนี้เกิดขึ้น อีกทั้งโดยปกติแล้วบัตรกดเงินสดจะไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ในการรักษาสถานภาพบัตร ดังนั้น การมีบัตรกดเงินสดเก็บไว้ก็สามารถช่วยให้อุ่นใจได้ในระดับหนึ่งหากมีเหตุจำเป็นต้องใช้เงินสดในอนาคต

ข้อดีของ "สินเชื่อบุคคล"

  • วงเงินอนุมัติค่อนข้างสูง แต่มักจะไม่เกิน 5 เท่าของเงินเดือน 
  • คิดดอกเบี้ยจะคิดเป็นรายวัน แบบลดต้นลดดอก
  • ธนาคารกำหนดการผ่อนชำระเป็นงวดๆ ชัดเจน ขึ้นอยู่กับธนาคารกำหนด โดยระยะเวลาสูงสุดที่ผ่อนชำระได้นานถึง 72 เดือน
  • อัตราดอกเบี้ยต่ำกว่าบัตรกดเงินสด

ข้อควรระวังของการใช้ "สินเชื่อบุคคล"

  • ขอสินเชื่อเมื่อมีความจำเป็นต้องใช้เงินจริงๆ เท่านั้น เพราะสินเชื่อบุคคลธนาคารจะคิดดอกเบี้ยทันทีเมื่ออนุมัติวงเงิน และโอนเงินเข้าบัญชีของเรา 
  • การขอสินเชื่อบุคคลจะมีค่าใช้จ่ายในส่วนของค่าธรรมเนียมต่างๆ ด้วย
  • ต้องมีวินัยในการชำระคืนค่างวด เพราะสินเชื่อบุคคล ธนาคารจะคำนวณเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยให้เราจ่ายเป็นงวดๆ ทุกเดือน เราต้องมั่นใจว่าจะมีรายได้เพียงพอที่จะสามารถจ่ายคืนค่างวดได้ตรงตามกำหนดเวลา

ข้อดีของ "บัตรกดเงินสด"

  • ใช้ง่าย สะดวกสบาย เพียงแค่นำบัตรไปกดเงินสดออกจากตู้ ATM 
  • คิดดอกเบี้ย และค่าธรรมเนียมตามจำนวนเงินที่กดมาใช้จริง
  • ไม่กำหนดวงเงินขั้นต่ำในการถอนเงิน
  • ไม่มีค่าธรรมเนียมในการกดเงิน

ข้อควรระวังของการใช้ "บัตรกดเงินสด"

  • ความสะดวกในการใช้ อาจทำให้เราเพลิดเพลินไปกับการใช้จ่ายจนเกิดหนี้สินเกินตัว 
  • อัตราดอกเบี้ยสูงกว่าสินเชื่อบุคคลประเภทอื่น เพราะเป็นการกดเงินสดมาใช้ล่วงหน้าโดยไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกันต้องมีวินัยในการชำระคืน เพราะการชำระคืนของบัตรกดเงินสด สามารถเลือกชำระแบบขั้นต่ำ หรือเลือกชำระทั้งจำนวน (เงินต้น พร้อมดอกเบี้ย) ได้

บทความที่เกี่ยวข้อง

เพื่อนๆ สามารถติดตาม ACU PAY Thailand ผ่านช่องทางการติดตามอื่นๆ ได้ที่