fbpx
Search
Close this search box.

จะกู้เงินต้องเสียค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง?

จะกู้เงินต้องเสียค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง?

การกู้เงินแต่ละครั้ง นอกจากภาระค่าใช้จ่ายอย่าง ค่าดอกเบี้ยและเงินต้น ที่ต้องใช้จากเงินที่เรายืมมาแล้ว ยังมีค่าใช้จ่ายแฝงเพิ่มเติมจากการกู้ขอสินเชื่อบ้าน อีกหลายอย่างที่เราอาจคาดไม่ถึง ซึ่งวันนี้ ACU PAY เลยรวบรวมค่าใช้จ่ายแฝงเพิ่มเติมฝนการกู้ว่ามีอะไรบ้างมาฝากกัน

กู้เงินต้องเสียค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง?

  • ค่าประเมินราคาหลักประกัน

เป็นค่าใช้จ่ายที่มีฐานเฉลี่ยอยู่ที่ 2,000 – 5,000 บาท / แปลง ขึ้นอยู่กับมูลค่าและที่ตั้งของหลักประกัน (บ้านหรือห้องชุดที่เราจะซื้อ) ซึ่งค่าใช้จ่ายนี้ถ้าเกิดกู้ไม่ผ่านก็จะไม่มีการคืนเงินส่วนนี้ ดังนั้นถ้าต้องการยื่นกู้หลายธนาคารก็จำเป็นที่ต้องเตรียมเงินสำรองไว้จ่ายค่าใช้จ่ายส่วนนี้ไว้

  • ค่าตรวจสอบข้อมูลเครดิต

ถึงหลายธนาคารไม่คิดค่าตรวจสอบข้อมูลเครดิตกับลูกค้า แต่ถ้ามีการคิดเกิดขึ้น อาจต้องเสียค่าใช้จ่ายในการตรวจสอบที่ศูนย์ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ ค่าบริการ 100 บาท / ครั้ง หรือยื่นแบบออนไลน์ และไปรษณีย์ มีค่าบริการ 150 บาท / ครั้ง

  • ค่าให้บริการสินเชื่อ

อัตราค่าให้บริการสินเชื่อโดยทั่วไปอยู่ที่ 0.25% ของวงเงินกู้ แต่หลายธนาคารมักมีโปรโมชั่นยกเว้นค่าใช้จ่ายส่วนนี้

  • ค่าอากรแสตมป์

อัตรามาตรฐานอยู่ที่ 0.05% ของวงเงินกู้ โดยธนาคารทำหน้าที่เป็นเพียงผู้รับจ่ายและนำเสนอต่อให้หน่วยราชการ

  • ค่าตรวจงวดงาน

กรณีกู้เงินปลูกบ้าน เป็นค่าใช้จ่ายที่เรียกเก็บครั้งละ 500 – 1,000 บาท / ครั้ง ขึ้นอยู่กับวงเงินกู้ และทำเลที่ตั้งหลักประกัน

  • ค่าธรรมเนียมจดจำนอง

โดยคิดที่ 1% ของมูลค่าจำนองและกำหนดอัตราสูงสุดไว้ไม่เกิน 200,000 บาท (ยกเว้นกรณีหลักประกันเป็นคอนโดมิเนียม) ธนาคารจะทำหน้าที่รับจ่ายและนำส่งให้หน่วยราชการเช่นกัน ในบางช่วงภาครัฐอาจมีการประกาศลดค่าธรรมเนียมการจดจำนอง เพื่อช่วยแบ่งเบาประชาชนและกระตุ้นเศรษฐกิจ

  • ค่าประกันอัคคีภัย

เป็นการประกันภาคบังคับที่เกิดขึ้นในระหว่างที่หลักประกันยังจำนองอยู่กับธนาคาร โดยค่าเบี้ยประกันคิดเป็นรายปี ประมาณ 0.101 – 0.45% ของทุนประกันภัย (ไม่รวมค่าที่ดิน) ส่วนใหญ่มักกำหนดต่อประกัน 3 ปีครั้ง

  • ค่าปรับไถ่ถอนก่อนกำหนด

ช่วงระยะเวลายกเว้นค่าปรับการไถ่ถอน (Grace Period) ส่วนใหญ่กำหนดระยะเวลาไว้ที่ 3 หรือ 5 ปี ปี ส่วนค่าปรับส่วนใหญ่คิด 3% ของยอดเงินกู้คงเหลือ

  • ค่าติดตามทวงหนี้

เมื่อเกิดกรณีผิดนัดชำระหรือมีหนี้ค้างชำระ บางธนาคารจะมีการคิดค่าใช้จ่ายในการติดตามทวงถามหนี้ด้วย โดยคิดอัตราค่าบริการสูงสุด 1,000 บาท / ครั้ง

  • ค่าปรับดอกเบี้ยผิดนัดชำระหนี้

เมื่อเกิดการผิดนัดชำระหนี้ นอกจากต้องเสียค่าติดตามหนี้แล้ว ก็ยังมีค่าปรับดอกเบี้ยผิดนัดด้วย ซึ่งจะขึ้นอยู่กับสัญญาและข้อตกลงที่คุณได้ทำไว้กับผู้ให้บริการ โดยปกติแล้วจะมีอัตราร้อยละตามที่ระบุไว้ในสัญญา แต่ไม่เกิน 15% ต่อปีของยอดหนี้ที่ค้างชำระ

  • ค่าเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ย

ถึงได้รับการอนุมัติเงินกู้แล้ว เราสามารถขอเปลี่ยนอัตราดอกเบี้ยได้ รวมทั้งระหว่างอยู่ในช่วงการผ่อน แทนที่จะรีไฟแนนซ์ไปธนาคารใหม่ เราก็อาจขอลดดอกเบี้ยได้ (Retention) แต่ส่วนใหญ่จะมีค่าใช้จ่าย เฉลี่ยตั้งแต่ 0.25 – 1.0% ของยอดหนี้คงค้าง

และนี่คือ ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในการกู้สินเชื่อบ้าน มีทั้งค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายต่าง ๆ รวมถึงค่าปรับที่อาจเกิดขึ้นได้หลังกู้สินเชื่อผ่านแล้ว ซึ่งอัตราค่าใช้จ่ายทั้งหมดนี้นั้นขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละธนาคาร ในบางที่อาจมีค่าใช้จ่ายอื่น ๆ อีกขึ้นอยู่กับธนาคารนั้น

บทความที่เกี่ยวข้อง

เพื่อนๆ สามารถติดตาม ACU PAY Thailand ผ่านช่องทางการติดตามอื่นๆ ได้ที่