fbpx
Search
Close this search box.

หุ้น Meta ร่วงอย่างต่อเนื่อง หลังกำไรหายไปเกินครึ่ง!

Meta หรือที่รู้จักในนาน Facebook ได้หันมาลงทุนทำ Reels ของFacebook และ Instagram

ต้องยอมรับเลยว่าช่วงนี้หันไปทางไหนก็จะเห็นแต่คนเล่น Tiktok ดู Tiktok ซึ่งทำให้ Meta หรือที่รู้จักในนาม Facebook ได้หันมาลงทุนทำ Reels ของFacebook และ Instagram แต่ล่าสุดเมื่อวันที่ 27 ตุลาคมที่ผ่านมาราคาหุ้นของ Meta บริษัทแม่ของFacebook และ Instagram ล่วงอย่างหนักลงลึกกว่า 19 เปอร์เซ็น หรือตีค่าเสียหายเป็นมูลค่ากว่า 3.1 ล้านล้านบาทภายในวันเดียว และถือว่าหุ้น Meta ตกต่ำที่สุดในรอบ 6 ปี…

Meta คืออะไร

       เป็นบริษัทแม่ที่ถูกเปลี่ยนชื่อจากชื่อเดิมคือ “Facebook” ทำหน้าที่เป็นบริษัทแม่ค่อยดูแลบริษัทอย่าง Facebook , Instagram และ WhatsApp โดยมีชื่อเต็มว่า Metaverse ที่หมายถึงจักรวาลสุดล้ำแห่งโลกอนาคต แต่ก็มีหลายคนเหมือนกันนะคะที่ออกมาแซวมาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ว่า Meta ในภาษาฮีบรูจริงๆแล้วแปลว่า ตาย!

หุ้น Meta ล่วงลงมากว่า 19 เปอร์เซ็นภายในวันเดียว

       หลังจากที่บริษัทประกาศผลประกอบการไตรมาสล่าสุด และคาดการณ์ผลประกอบการณ์ในไตรมาสหน้า แต่แล้วก็ไม่เป็นไปตามคาด ซึ่งผลลัพธ์ที่ออกมาน่าผิดหวังมาก เนื่องในไตรมาสที่ 3 ของปี 2022 (กรกฎาคม – กันยายน 2022) Meta กวาดรายได้ไปทั้งหมด 1,045,095 ล้านบาท เป็นที่น่าตกใจ เพราะลดลงมาถึง 4 เปอร์เซ็น เมื่อเทียบกับปีที่แล้วก่อนหน้า โดยสาเหตุหลัก คือ 

  • มีการแข่งขันที่สูงขึ้นอย่างแอปพิเคชัน Tiktok
  • และการชะลอตัวในวงกว้างสำหรับการจ่ายด้านโฆษณาออนไลน์ เนื่องจากเศรษฐกิจถดถอย และบริษัทหลายๆที่ต่างตัดงบการตลาดและแคมเปญสำหรับโปรโมทโฆษณาออก เพื่อลดค่าใช้จ่าย
  • มีความท้าทายจากนโยบานของ IOS จาก Apple ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงกับธุรกิจโฆษณาของ Meta

และที่สำคัญ Meta ถือเป็นบริษัทที่มีรายได้หดตัวถึง 2 ไตรมาสติดต่อกัน ซึ่ง Meat จะต้องเผชิญกับภาวะรายได้หดตัวติดต่อกันถึง 3 ไตรมาส ซึ่งมีไตรมาสที่ 4 ร่วมด้วย ทั้งนี้ Meta ได้ออกมาคาดการณ์ว่าไตรมาสที่ 4 บริษัทจะมีรายได้อยู่ประมาณ 1,131,300 ล้านบาท – 1,225,575 ล้านบาท  แต่ทางด้านผู้ใช้งาน Facebook มีผู้ใช้งานเพิ่มในไตรมาสที่ 3 อยู่ที่ 2,958 ล้านบัญชี เพิ่มขึ้นจากเดิม 0.8 เปอร์เซ็น ในขณะที่รายได้หดตัว แตบัญชีผู้ใช้งานเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้นทุนรวมไปถึงค่าใช้จ่ายของ Meta กลับเพิ่มขึ้นถึง 19 เปอร์เซ็น หรือ 831,506 ล้านบาท จึงทำให้ไตรมาสนี้มีกำไรเหลือเพียง 165,735 ล้านบาท ลดลงจากเดิม 52 เปอร์เซ็น เมื่อเทียบจากปีที่แล้ว ความกังวลยังไม่จบเพียงเท่านั้นนอกจากรายได้ที่ลดลง และต้นทุนที่เพิ่มขึ้นแล้ว ทำให้นักลงทุนที่กำลังจะลงทุนใน Meta มีความกังวลในธุรกิจ  Metaverse ด้วย

ในส่วนของการบริหารงาน

       ทาง Meta กำลังพยายามดำเนินงานให้มีประสิทธิภาพเพิ่มมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น การปรับโครงสร้างองค์กร ลดขนาดทีมให้เลือกเฉพาะจำเป็น หรือจะเป็นการเพิ่มพนังงานเฉพาะส่วนที่สำคัญเท่านั้น ทั้งนี้มาร์ก ซักเคอร์เบิร์กได้บอกอีกว่า Reels ฟีเจอร์ของ Facebook และ Instagram สำคัญอย่างมาก เพราะไว้ใช้ต่อกรกับ Tiktok และรายได้ที่มาจาก Reels บน Facebook และ Instagram ตอนนี้รวมกันอยู่ที่ 113,130 ล้านบาทต่อปี เชื่อว่าสามารถชนะคู่แข่งอย่าง Tiktok ได้

บทความที่เกี่ยวข้อง

เพื่อนๆ สามารถติดตาม ACU PAY Thailand ผ่านช่องทางการติดตามอื่นๆ ได้ที่