การอาบน้ำถือเป็นกิจวัตรประจำวันที่คนไทยอย่างเราขาดไม่ได้อย่างแน่นอน เพราะอากาศประเทศไทยมีแต่ร้อนและร้อนมากกก ซึ่งการอาบน้ำบางคนก็ชอบอาบน้ำเย็น บางคนถึงร้อนแค่ไหนก็ชอบอาบน้ำอุ่น แล้วรู้ไหมว่าประโยชน์ของการอาบน้ำเย็นกับน้ำอุ่นมีอะไรบ้าง แล้วแตกต่างกันยังไง เดี๋ยว เอซียูเพย์ จะมาบอกให้ฟัง
การอาบน้ำเย็นเป็นสิ่งที่คนไทยคุ้นชินเป็นอย่างดี แต่รู้ไหมว่าอาบน้ำเย็นก็มีประโยชน์เหมือนกัน ในศาสตร์ตะวันตก มีการใช้ “Ice Bathing” ในวงการกีฬา หรือก็คือ การนอนแช่ในน้ำเย็น 10 – 15 องศาเซลเซียส เพื่อลดอาการบาดเจ็บ และฟื้นฟูกล้ามเนื้ออีกด้วย
การอาบน้ำอุณหภูมิปกติ หรือค่อนข้างเย็น จะสร้างความสดชื่น ตื่นตัวได้เร็วหลังจากอาบน้ำได้เป็นอย่างดี สร้างความชุ่มชื้นกับผิว ดูเปล่งปลั่งอิ่มน้ำ เนียนเรียบ แถมยังช่วยระบบเผาผลาญไขมันและเสริมสร้างภูมิคุ้มกันในร่างกายได้อีกด้วย
การอาบน้ำเย็นไม่เหมาะกับคนที่ป่วยหรือภูมิคุ้มกันตก เพราะอาจส่งผลให้ร่างกายอ่อนแอมากขึ้น เนื่องจากอาจทำให้ระบบหมุนเวียนเลือดผิดปกติ อุณหภูมิร่างกายลดลงรวดเร็ว สามารถถึงขั้นช็อกหมดสติได้
บางคนถึงอากาศร้อนขนาดไหนก็ยังเลือกที่จะอาบน้ำอุ่น เพราะอาบแล้วรู้สึกสบายตัวผ่อนคลาย น้ำอุ่นยังสามารถชำระสิ่งสกปรกบนผิวหนังได้ดีขึ้น เพราะน้ำอุ่นจะช่วยเปิดรูขุมขนได้กว้างกว่าอาบน้ำเย็น
การอาบน้ำอุ่นอุณหภูมิระหว่าง 27 – 37 องศาเซลเซียส นั้นจะช่วยผ่อนคลายความเครียดได้ดี ช่วยบรรเทาความปวดเมื่อย ผ่อนกล้ามเนื้อของร่างกายได้ และช่วยเรื่องการนอนหลับให้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้การอาบน้ำอุ่นสำหรับผู้หญิงในช่วงก่อนหรือมีประจำเดือน จะช่วยเรื่องระบบไหลเวียนของเลือด และบรรเทาอาการปวดเกร็ง ปวดท้องได้ดี
ไม่ควรที่จะอาบนานจนเกินไป เพราะจะทำให้ผิวแห้งได้ง่าย แตกกร้าน ไม่แนะนำให้ผู้มีความดันผิดปกติ และผู้สูงอายุอาบน้ำอุ่น และผู้ที่เพิ่งออกกำลังกายเสร็จ เพราะจะทำให้สูญเสียน้ำมากขึ้น
จะเห็นได้ว่าการอาบน้ำเย็นและน้ำอุ่นก็มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไป ซึ่งเราสามารถอาบน้ำทั้งสองแบบควบคู่กันได้ โดยแนะนำให้อาบตามนี้
สุดท้ายแล้วไม่ว่าจะอาบน้ำอุ่นหรือน้ำเย็น เราก็ต้องสำรวจสภาพร่างกายหรือสภาพอากาศร่วมด้วย เพื่อให้การอาบน้ำดีต่อสุขภาพ และเพื่อป้องกันอาการช็อกหมดสติ วูบฉับพลันระหว่างอาบน้ำ เราควรเอาปลายเท้าโดนน้ำก่อนเป็นอย่างแรก เพื่อให้ร่างกายได้ปรับอุณหภูมิตัวเองก่อนเริ่มอาบน้ำทุกครั้ง