fbpx
Search
Close this search box.

“ฮีทสโตรกในสุนัข” ภัยร้ายจากอากาศร้อน ที่คนรักสัตว์ควรรู้

ฮีทสโตรกในสุนัข
ใครเป็นทาสน้องหมา ชูมือขึ้น… ฮีทสโตรกในสุนัข ภัยร้ายจากอากาศร้อน ที่เจ้าของอย่างเราอาจจะไม่รู้ วันนี้เอซียู เพย์จะพาทุกคนไปดูว่าฮีทสโตรกในสุนัข เกิดขึ้นจากอะไร มีอาการอย่างไร ถ้าพร้อมแล้ว ไปดูกันเลย

เนื้อหา

“ฮีทสโตรก (Heat Stroke)” หรือ “โรคลมแดด” โรคนี้เกิดจากอากาศที่มีอุณหภูมิสูง ไม่ว่าจะคนหรือสัตว์เลี้ยงต่างก็เสี่ยงต่ออาการเจ็บป่วยได้เช่นกัน โดยเฉพาะกับสัตว์เลี้ยงแสนรักของคุณที่พูดไม่ได้ อย่างเช่นน้องหมาที่อาจเสี่ยงต่ออาการ ฮีทสโตรกที่อาจอันตรายจนถึงขั้นเสียชีวิตได้

ภาวะอุณหภูมิร่างกายสูงในสุนัข คือภาวะที่ร่างกายมีอุณหภูมิสูงขึ้นกว่าระดับปกติ โดยทั่วไป อุณหภูมิร่างกายสุนัขจะอยู่ที่ประมาณ 103 องศาฟาเรนไฮต์ หรือประมาณ 39 องศาเซลเซียส โดยที่ไม่ได้เกิดขึ้นจากการเป็นไข้ มักเกิดจากการที่สุนัขอยู่ในที่ๆ มีอุณหภูมิสูงเป็นระยะเวลานานๆ ภาวะขาดน้ำ โดยเฉพาะสถานที่ที่ปิดทึบและมีอุณหภูมิสูงกว่า 41 องศาเซลเซียส จะทำให้สุนัขมีโอกาสเป็นโรคลมแดดได้ง่าย ถือว่าเป็นภาวะที่อันตรายมากเพราะจะทำให้อวัยวะหลายส่วนล้มเหลวรวมไปถึงเสียชีวิต

โดยปกติสุนัขและแมวจะมีต่อมเหงื่อบริเวณฝ่าเท้าและจมูก การระบายความร้อนจึงต้องอาศัยการหายใจและการหอบเป็นหลัก หากร่างกายของพวกสัตว์เหล่านี้ไม่สามารถระบายความร้อนได้ทัน ก็จะเกิดภาวะฮีทสโตรก ขึ้นได้

ฮีทสโตรกในสุนัข อาการเป็นอย่างไร?

การรับรู้หรือสังเกตอาการได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ จะช่วยบรรเทาความรุนแรงของโรคได้ โดยอาการฮีทสโตรกในสุนัขมีลักษณะดังนี้

  • หอบหนักและหายใจลำบาก มักจะเป็นสัญญาณแรกของอาการฮีทสโตรกในสุนัข หากพบว่าน้องหมาหอบหนักหรือหายใจเร็วกว่าปกติ ควรจับตาดูอย่างใกล้ชิด
  • น้ำลายไหลมากผิดปกติ มีลักษณะที่เหนียวขึ้น น้องหมามีน้ำลายไหลเป็นเรื่องปกติ แต่หากมากจนผิดปกติถือเป็นอาการที่น่ากังวล 
  • ง่วงและซึม หากน้องหมามีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป ดูเหนื่อยล้าหรือเซื่องซึม นี่อาจเป็นสัญญาณเตือนของปัญหาสุขภาพ
  • หมดสติหรืออาเจียน อาการเหล่านี้เป็นอาการที่รุนแรง ควรได้รับการดูแลรักษาในทันที
  • สีเหงือกเปลี่ยน เหงือกควรมีสีแดงอมชมพู หากสีซีดหรือสีคล้ำ แสดงว่าน้องหมาอาจกำลังป่วย
  • มีอาการชัก กล้ามเนื้อสั่นเกร็ง หมดสติ หรืออาจรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต

ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดฮีทสโตรกในสุนัข

  • มีประวัติว่าเคยเป็นโรคหัวใจมาก่อน
  • อยู่ในช่วงลูกสุนัข หรือเป็นสุนัขที่มีอายุเยอะแล้ว
  • มีภาวะอ้วน
  • มีปัญหาด้านการหายใจ หายใจได้ไม่ดี หรือปอดทำงานได้ไม่สมบูรณ์
  • เป็นสุนัขพันธุ์หน้าสั้น เช่น ปั๊ก หรือ อิงลิช บูลด็อก และเฟร้นช์ บูลด๊อก
  • เป็นสุนัขพันธุ์ที่มีขนหนา เช่น ไซบีเรียนฮัสกี้ , อลาสกัน มาลามิวท์ , เซนต์เบอร์นาร์ด , ปอมเมอร์เรเนียน
  • มีภาวะขาดน้ำ ได้รับน้ำไม่เพียงพอ

วิธีการปฐมพยาบาลโรคฮีทสโตรก เบื้องต้น

สิ่งที่สำคัญของการช่วยปฐมพยาบาลให้กับสัตว์เลี้ยงที่กำลังเป็นภาวะฮีทสโตรก คือ การระบายความร้อนชองร่างกายให้ลดลง แต่อย่าให้ลดลงเร็วจนเกินไป เพราะอาจอันตรายแทน โดยมีคำแนะนำจากสัตว์แพทย์ดังนี้

  1. ถ้าสัตว์เลี้ยงของเราอยู่ในที่อากาศร้อน หรือสถานที่แออัด ควรนำสัตว์เลี้ยงออกมายังบริเวณที่อากาศถ่ายเทได้สะดวก และปลดปลอกคอ สายจูง หรือเสื้อผ้าของน้องหมา เพื่อให้การหายใจสะดวกขึ้น และช่วยระบายความร้อน
  2. ใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดตัว บริเวณต่าง ๆ เช่น รักแร้ ขาหนีบ หรือใต้ฝ่าเท้า เพื่อช่วยระบายความร้อน ระวังอย่าใช้น้ำที่เย็นจนเกินไป เพราะอาจจะทำให้เกิดอาการช็อคได้ ทางที่ดีควรใช้น้ำที่อุณหภูมิห้องจะดีที่สุด
  3. นวดบริเวณขาเพื่อกระตุ้นระบบไหลเวียนเลือดเมื่อปฐมพยาบาลเสร็จควรรีบนำสัตว์เลี้ยงไปโรงพยาบาลเพื่อให้สัตวแพทย์ได้ทำการตรวจวินิจฉัยและรักษาอย่างละเอียด

ฮีทสโตรกในสัตว์เลี้ยง เรื่องที่เหล่าคนรักสัตว์ต่างเป็นกังวล เพราะหน้าร้อนแบบนี้ กับครเราที่ว่าร้อนสุด ๆ แล้ว น้องหมาน้องแมว หรือเจ้าสัตว์เลี้ยงขนปุย นั้นร้อนยิ่งกว่า เพราะนอกจากจะมีขนปกคลุมทั่วร่างกายที่ทำให้ร้อนได้ง่าย จนเกิดภาวะฮีทสโตรกได้อีกด้วย

ไม่ว่าจะอย่างไร หน้าร้อนแบบนี้ เราควรใส่ใจกับน้องหมาหรือสัตว์เลี้ยงของเราให้มากๆนะคะ คอยสังเกตอาการ และควรหลีกเลี่ยงสถานที่แออัดหรือสถานที่ที่ทำให้น้องหมาเกิดอาการร้อนเกินไป จะได้ไม่ทำให้น้องหมาของเราเป็นโรคฮีทสโตรก 

ผู้เขียน

ACU PAY Thailand

ACU PAY Thailand

ให้ทุกเรื่องการเงินเป็นเรื่องง่าย เริ่มต้นวันดีๆ ไปกับเรา MAKE A GREAT DAY WITH ACU PAY

บทความที่เกี่ยวข้อง

เพื่อนๆ สามารถติดตาม ACU PAY Thailand ผ่านช่องทางการติดตามอื่นๆ ได้ที่