fbpx
Search
Close this search box.

เครื่องสำอางหมดอายุใช้ต่อได้หรือเปล่า ?

สาว ๆ หลายคนคงจะประสบปัญหาเครื่องสำอางใช้ไม่ทันกันมาเยอะเลยใช่ไหม ซึ่งถึงบางอันหมดจะอายุไปแล้ว แต่ก็เห็นว่ามันยังใช้ได้ปกติหนิ แล้วแบบนี้เราควรใช้อยู่ หรือควรโละทิ้งให้มันจบ ๆ วันนี้เอซียูเพย์จะมาตอบคำถามนี้กันค่ะ 

เครื่องสำอางหมดอายุ ใช้ต่อได้ไหม ?

เครื่องสำอางทุกอย่างล้วนมีวันสิ้นอายุขัย ไม่ว่าจะทั้งแกะใช้แล้ว หรือยังไม่ได้แกะในกล่อง โดยปกติเครื่องสำอางที่หมดอายุ มักเป็นแหล่งสะสมของสารปนเปื้อนและแบคทีเรียจำนวนมาก และเติบโตอย่างรวดเร็ว ซึ่งพวกแบคทีเรียนี้เอง ที่จะสร้างความเสียหายให้กับผิวของเรา ถึงแม้ว่าเครื่องสำอางยังดูดีเหมือนใช้งานได้ปกติ แต่ตัดใจทิ้งไปดีกว่า เพื่อความปลอดภัยของสุขภาพผิวและหน้าของเราเอง

เครื่องสำอางหมดอายุอันตรายยังไง?

ผลค้างเคียงของการใช้เครื่องสำอางหมดอายุ มักมีอาการแพ้ รู้สึกระคายเคืองผิว อาจมีอาการคัน หน้าเป็นผื่นแดง และเกิดปัญหาสิว ซึ่งอาจเกิดจากเชื้อโรค แบคทีเรีย หรือจุลินทรีย์ที่มาจากครีมหรือเครื่องสำอางเสื่อมสภาพนั่นเอง โดยเฉพาะเครื่องสำอางใกล้เคียงกับบริเวณตา อย่างพวก อายไลเนอร์ มาสคาร่า หรืออายแชโดว์ที่หมดอายุแล้ว อาจส่งผลให้เกิดตาอักเสบเพราะติดเชื้อได้เลยทีเดียว

วิธีอ่านฉลากเครื่องสำอาง ดูยังไง ?

วิธีการดูฉลากเครื่องสำอางว่าหมดอายุตอนไหน ให้ลองพลิกกล่อง มองหาคำว่า MFG / MFD หมายถึง วันที่ผลิต ย่อมาจาก Manufacturing Date / Manufactured Date) ส่วน EXP / EXD หมายถึง วันหมดอายุ ย่อมาจาก Expiry Date / Expiration Date ซึ่งมักติดบริเวณกล่องผลิตภัณฑ์ 

แต่ส่วนใหญ่เครื่องสำอางมันจะใช้คำว่า Period After Opening (PAO) หรือ ช่วงเวลาวันหมดอายุหลังจากเริ่มเปิดใช้ ซึ่งมักจะมีสัญลักษณ์รูปบรรจุภัณฑ์เปิดฝาและมีตัวเลขกำกับบอกว่าใช้ได้กี่เดือน เช่น 6M หมายถึงใช้ได้ 6 เดือนหลังเปิดใช้ หรือ 12M หมายถึง ใช้ได้ 12 เดือนหลังเปิดใช้

วิธีสังเกตเครื่องสำอางหมดอายุ

ถ้าเราไม่แน่ใจว่าเครื่องสำอางหมดอายุไปแล้วรึยัง ให้เราลองสังเกตที่เนื้อผลิตภัณฑ์ ตามนี้เลย

  1. รองพื้น อายุใช้งาน 6 เดือน

    ถ้ารองพื้นเริ่มแยกชั้น เป็นน้ำมันออกมา ไม่เป็นเนื้อเดียวกันแบบเมื่อก่อน แสดงว่ารองพื้นอันนี้หมดอายุแล้ว ถ้ายังใช้ต่อไป น้ำมันที่แยกตัวออกมา จะไปอุดตันรูขุมขนของเรา ทำให้เกิดสิวจากการแพ้เครื่องสำอาง อาจเกิดตุ่มหนองอักเสบได้ ซึ่งการแยกชั้นของรองพื้นเกิดจากความร้อนและความชื้น ลองเขย่าขวดรองพื้นดู ถ้าลองแล้วเนื้อไม่เข้ากันเหมือนปกติ ก็ทิ้งซะดีกว่า

  2. มาสคาร่า อายุใช้งาน 3 – 6 เดือน

    มาสคาร่าที่ยังไม่ได้แกะใช้ สามารถอยู่นานถึง 2 ปี แต่โดยทั่วไปแล้ว มาสคาร่าควรเปลี่ยนมาสคาร่าทุก 3 – 6 เดือน ถ้ายังใช้มาสคาร่านานกว่านั้น เวลาปัดมาสคาร่าจะเป็นผง หล่นใต้ตาหรือเข้าตาเราได้ ซึ่งไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก

    เหตุผลที่ควรเปลี่ยนเร็วก็เพราะว่า โดยปกติขนตาของเราจะทำหน้าป้องกันเศษฝุ่น หรือสิ่งแปลกปลอมที่ปนมากับอากาศ กันไม่ให้เข้าไปในตาของเรา ดังนั้นการที่ปัดมาสคาร่าทุกครั้ง สิ่งสกปกที่สะสมในขนตาของเราก็จะปนเปื้อนลงไปในมาสคาร่าด้วย

    นอกจากนี้วิธีเช็กมาสคาร่าหมดอายุสามารถทำได้ด้วยการ ดมกลิ่น ใช่ค่ะ ถ้าดมแล้วกลิ่นแปลก ๆ หรือกลิ่นที่เปลี่ยนไป ก็ควรซื้อมาสคาร่าอันใหม่มาใช้ดีกว่า

  3. บลัชออน อายุใช้งาน 1 ปีหรือมากกว่านั้น
    แป้งอัดแข็งพวกนี้สามารถใช้ได้นานหลายปีเลยทีเดียว เพราะแบคทีเรียไม่สามารถเข้าไปเติบโตในนั้นได้ ทำให้เราสามารถเก็บได้นานถึง 3 – 4 ปีได้เลยทีเดียว โดยวิธีที่จะรักษาบลัชออนให้ใช้นาน แนะนำว่าให้หาปลายมีดสะอาดมาขูดชั้นที่สัมผัสกับความมันหน้าเราบ่อย ๆ ออก จะทำให้สีกลับมาติดทนขึ้น แต่ถ้าบลัชออนแห้งแตกเป็นแผ่น ก็ควรจะซื้อใหม่ดีกว่า
  4. ครีมบลัช อายุใช้งาน 1 – 2 ปี

    สำหรับครีมบลัชที่เป็นแบบต้องใช้นิ้วสัมผัสกับเนื้อครีมบ่อย ๆ แนะนำให้เปลี่ยน ปีละครั้ง เพราะอาจแบคทีเรียอาจก่อตัวมาทำร้ายผิวของเราได้ ส่วนถ้าเป็นครีมบลัชแบบแท่งและแบบอื่น ๆ นั้นสามารถยืดอายุได้ถึง 2 ปี ถ้าใช้ทิชชูเปียกแอลกอฮอล์ เช็ดทำความสะอาดตรงแท่งหัวครีมบลัชอย่างน้อยเดือนละครั้ง

    อย่างไรก็ตามผลิตภัณฑ์พวกครีมจะทำให้เกิดการระคายผิวและเกิดการอุดตันได้ง่าย ทางที่ดีก็ควรเปลี่ยนต่อปีดีกว่า

  5. ลิปสติก อายุใช้งาน 1 ปี
    จำไว้ว่าริมฝีปากคือส่วนที่บางที่สุดของร่างกาย และไวต่อแบคทีเรียมาก ลิปสติกก็เป็นเครื่องสำอางที่สัมผัสแบคทีเรียและไวรัสได้ง่าย อาจเกิดการอักเสบบริเวณผิวหนังหรือเป็นเริมบริเวณปากได้ ดังนั้นลิปสติกควรใช้แค่ 1 ปี เกินกว่านั้นควรซื้อใหม่
  6. อายไลน์เนอร์ อายุใช้งาน 3 – 6 เดือน

    ให้สังเกตว่า ถ้ามีอาการคัน บริเวณรอบดวงตา บวม แดง หรือเกิดการอักเสบ นั่นแสดงว่าอายไลน์เนอร์นี้หมดอายุแล้ว ซึ่งผลิตภัณฑ์ที่ใช้ใกล้บริเวณดวงตา ควรระมัดระวัง ยิ่งถ้าอายไลน์เนอร์เริ่มสีไม่ติด แห้ง และใช้ไม่ได้แบบเดิม ก็ทิ้งดีกว่า 

เครื่องสำอางอื่น ๆ มีอายุใช้งานโดยประมาณ ตามนี้เลย

  • แป้งฝุ่น 2 ปี 
  • แป้งอัดแข็ง 1 ปี
  • อายแชโดว์เนื้อฝุ่น 2 ปี
  • อายแชโดว์เนื้อครีม 1 ปี 
  • แชมพู 2 ปี 
  • เจลอาบน้ำ 2 ปี 
  • ยาทาเล็บ 1 ปี
  • น้ำหอม 2 – 5 ปี 

 

ทิ้งเครื่องสำอางยังไงให้เกิดประโยชน์?

เครื่องสำอางชนิดขวดพลาสติกสามารถนำไปรีไซเคิลได้ โดยแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ

  1. ขวดพลาสติกใส
    เช่น ขวดโทนเนอร์ คลีนซิ่ง สังเกตใต้ขวดจะมีรอยนูน สัญลักษณ์ PET 1 หรือ PETE 1 หรือพลาสติกเบอร์ 1 ถ้ามีสัญลักษณ์นี้สามารถนำส่งไปรีไซเคิลให้เป็นเส้นใยพลาสติก ขายต่อได้ราคาดีด้วย
  2. ขวดพลาสติกขุ่น
    เช่น ขวดครีมกันแดด ครีมทาผิว จะมีสัญลักษณ์ PP 5 ถ้ามี สามารถส่งไปรีไซเคิลเป็นเครื่องมือต่าง ๆ มากมาย

เครื่องสำอางหมดอายุที่ยังเหลือ สามารถบริจาคให้กับมูลนิธิต่าง ๆ ไว้ใช้แต่งหน้าศพ และช่วยเหลือผู้เสียชีวิตที่ไร้ญาติได้ โดยมีองค์กรหรือมูลนิธิที่ขอรับบริจาคเครื่องสำอางหมดอายุ เช่น โครงการพาคนรักกลับบ้าน จ. ลพบุรี และทีมจิตอาสาแต่งหน้าศพ
ทีนี้เริ่มเปิดกรุเครื่องสำอางของคุณออกมาเช็กวันหมดอายุได้แล้วนะ ยิ่งถ้าสภาพสีและกลิ่น แปลก ๆ ไม่เหมือนเดิม แล้วอ่านฉลากเห็นว่าหมดอายุแล้ว ก็ควรตัดใจทิ้งไปได้เลยดีกว่า อย่านำมาใช้เลย หน้าพังใช้ค่ารักษาแพงกว่าซื้อเครื่องสำอางใหม่อีกนะ

บทความที่เกี่ยวข้อง

เพื่อนๆ สามารถติดตาม ACU PAY Thailand ผ่านช่องทางการติดตามอื่นๆ ได้ที่