“เช็งเม้ง” เป็นเทศกาลที่ชาวจีนไหว้บรรพบุรุษ ณ ที่ฝังศพหรือฮวงซุ้ยในช่วงเดือน 3 ของจีน ซึ่งคำว่า “เช็ง” แปลว่า สะอาด บริสุทธิ์ ส่วนคำว่า “เม้ง” แปลว่า แสงสว่าง
คำว่า “เช็งเม้ง” เป็นสำเนียงมาจากจีนแต้จิ๋ว โดยสำเนียงภาษาจีนกลางจะออกเสียงว่า “ชิงหมิง” (Qingming) ซึ่งในสมัยก่อนคำว่า “เช็งเม้ง” ไม่ได้หมายถึงวันหรือเทศกาลใด เทศกาลหนึ่ง แต่ “เช็งเม้ง” หมายถึง ช่วงเวลาที่กำลังจะเปลี่ยนจากฤดูหนาวเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิของจีน ถือเป็นช่วงเวลาที่อากาศดีสดใส
จริง ๆ แล้วเช็งเม้งแบ่งออกมาจาก 2 เทศกาล นั่นก็คือ เทศกาลกินเย็น (หานสือเจี๋ย) กับ เทศกาลเฉลิมฉลองการเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิ (ซ่างสื้อเจี๋ย)
สำหรับเทศกาลกินเย็น เป็นเทศกาลทานอาหารกันแบบเย็น ๆ ไม่ใช้ไฟในการทำ เพราะในสมัยก่อน ไฟ ถือเป็นสิ่งสำคัญ ทั้งการให้ความอบอุ่น หุงหาอาหาร โดยทุกหมู่บ้านจะมีการจุดไฟไว้กลางชุมชน ชาวบ้านคนไหนอยากใช้ไฟก็ให้มาต่อไฟจากกลางชุมชน แต่ชาวจีนมีความเชื่อกันว่า ของเก่าเป็นสิ่งไม่ดี การจุดไฟทิ้งไว้ตลอดเวลาย่อมไม่ดี จึงมีการดับไฟและจุดไฟขึ้นมาใหม่ทุก 2-3 ครั้งต่อปี
แต่การจะดับไฟและจุดไฟที่สำคัญต่อชุมชนขึ้นใหม่ ต้องมีฤกษ์ยามที่ดี ซึ่งในช่วงเวลาเช็งเม้งนี้ เป็นเวลาที่เหมาะเพราะมีอากาศดี ไม่หนาวหรือร้อนเกินไป เลยมีเทศกาลกินเย็นขึ้นนั่นเอง
ส่วน เทศกาลเฉลิมฉลองการเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิ เชื่อกันว่า วิญญาณจะจำศีลอยู่ในช่วงฤดูหนาว เราจึงต้องมีการปลุกวิญญาณขึ้นมา เพื่อบอกให้ขึ้นมารับเครื่องเซ่นไหว้ที่ลูกหลานส่งมาให้นั่นเอง
แม้ว่าตอนแรกจะแบ่งเป็น 2 เทศกาลแต่ด้วยยุคสมัยที่เปลี่ยนไป 2 เทศกาลนี้จึงค่อย ๆ รวมกันกลายเป็นเทศกาลใหม่ที่ชื่อว่า “เช็งเม้ง” โดยเริ่มอย่างเป็นทางการในสมัยราชวงศ์ถัง และแพร่หลายสู่คนทั่วไปในสมัยราชวงศ์ซ่ง จนกลายมาเป็นเช็งเม้งที่ลูกหลานชาวจีนจะมากราบไหว้บรรพบุรุษกันในปัจจุบันนั่นเอง
เนื่องจากเทศกาลเช็งเม้ง อยู่ในช่วงที่มีบรรยากาศแจ่มใส อากาศสดชื่นใบไม้ผลิดอก ออกผลกัน ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นของอากาศอบอุ่นในฤดูใบไม้ผลิและเป็นจุดเริ่มต้นของการทำงานในฟาร์ม ชาวจีนในสมัยนั้นจึงถือเป็นช่วงเวลาที่เหมาะกับการไปไหว้บรรพบุรุษ ณ ที่ฝังศพ แทนการไหว้ป้ายวิญญาณในบ้าน
เท่านั้นยังไม่พอ เมื่อไหว้เสร็จก็จะต้องออกเที่ยวชมธรรมชาติ ที่เรียกว่า “เที่ยวสันต์” ที่ออกเที่ยวกันตั้งแต่ช่วงก่อน-หลังเช็งเม้ง 10 วัน เป็นกิจกรรมที่มีมาตั้งแต่ราชวงศ์ซ่ง (พ.ศ. 1503-1822) และที่นิยมของประชาชนทั่วไป
นับจากนั้นเป็นต้นมา เมื่อชาวจีนได้มีการอพยพออกสู่โพ้นทะเล ไปตั้งรกรากใหม่ ที่มีสภาพภูมิอากาศแตกต่างไปจากเมืองจีน อย่างเช่น ประเทศไทย ที่มีอากาศร้อนเป็นส่วนใหญ่ ทำให้การ “ไหว้เช็งเม้ง” ในประเทศนี้ ต้องอดทนกับสภาพแดดที่ร้อนตับแตกด้วยเช่นกัน
อย่างที่กล่าวไป “วันเช็งเม้ง” คือการรำลึกถึงคุณความดีที่บรรพบุรุษของเราได้กระทำไว้ ได้ดูแลเรา ลำบากเพื่อให้เรามีความเป็นอยู่ที่ดี เป็นแบบอย่างการดำเนินชีวิต “เราสบาย เพราะพ่อแม่ บรรพบุรุษลำบาก” ซึ่งการไหว้บรรพบุรุษยังเป็นการพบปะสังสรรค์กันพร้อมหน้าของญาติพี่น้อง สร้างความสามัคคี นอกจากนี้ยังเป็นการเตือนสติให้กับตนเอง ถึงความตายที่ต้องเกิดขึ้นกับทุกคน และเป็นธรรมดาของมนุษย์ ที่มีการเกิดและสูญเสีย
และทั้งหมดนี้คือประวัติ ความเป็นมา และความสำคัญของ “เทศกาลเช็งเม้ง” วันไหว้บรรพบุรุษของชาวจีน และชาวไทยเชื้อสายจีน ทำให้เรารู้ถึงเหตุผลที่ว่า ทำไมวันไหว้บรรพบุรุษนี้ ต้องไหว้ในช่วงหน้าร้อนนั่นเอง
ให้ทุกเรื่องการเงินเป็นเรื่องง่าย เริ่มต้นวันดีๆ ไปกับเรา MAKE A GREAT DAY WITH ACU PAY