ปก : 8 นิสัยขัดขวางความมั่งคั่ง

ความมั่งคั่ง (Weath) คือสิ่งที่หลายคนขวนขวายด้วยการทำงานหนัก ออมเงินเพื่อให้มีเงินมากพอไว้ใช้จ่ายและเป็นที่ยอมรับของคนในสังคม แต่หลายครั้งการออมที่เราทำทุกวัน ทำไมถึงไม่สร้างความมั่งคั่งให้ตัวเองสักที บางครั้งนี้อาจเป็นสัญญาณเตือนว่า คุณกำลังมีนิสัยการใช้เงินที่ขัดขวางความมั่งคั่งนั้นอยู่ ซึ่งครั้งนี้ ACU PAY จะมาบอก 8 นิสัยที่ทำแล้วไม่ดีต่อสถานะการเงิน ทำให้ไม่ถึงเป้าหมายการเงินที่ตั้งไว้ 

โดยคำแนะนำนี้มาจากอดีตพนักงานแบงก์และนักเขียนการเงินของ ทิม เด็นนิ่ง จาก bussiness insider ซึ่งหลัก ๆ แล้วผู้เขียนกล่าวว่า การมีความคิดด้านการเงินที่ไม่ถูกต้องจะทำให้คุณอยู่นิ่งกับที่ สิ่งที่จะหลีกเลี่ยงความจนได้นั่นก็คือ การบอกเลิกการฝากเงินในบัญชีธนาคาร การรูดบัตรเครดิตไม่คิด การเริ่มลงมือกับการลงทุน แทนการรอเวลาที่เหมาะสม และหาวิธีลดหย่อนภาษี จะมีอะไรบ้าง ลองเช็กไปพร้อมกันเลย

1. ตกหลุม(รัก)กับการฝากเงิน
   เรย์ ดาลิโอ มหาเศรษฐีผู้ก่อตั้งกองทุนเฮดจ์ฟันด์บริดจ์วอเตอร์ แอสโซซิเอทส์  (Bridgewater Associates) เคยกล่าวว่าในปี 2020 ว่า “ในสถานการณ์เศรษฐกิจปัจจุบันนี้ การถือเงินสด คือ การถือขยะ” เพราะการถือเงินสดระยะยาวนั้น ค่าเงินจะด้อยค่าลงตามสภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอย เมื่อเทียบกับสินทรัพย์อื่น ๆ เช่น ทอง ที่ดิน อสังหาริมทรัพย์
   จริงอยู่ที่การออมเงินคือตัวช่วยเป็นเงินสำรองในการใช้ชีวิต แต่การมีเงินสดออมเงินในบัญชีมากเกินไป เป็นสัญญาณเตือนของความกลัวอย่างหนึ่ง โดยผู้เขียนกล่าวว่า เขาก็เคยเป็นคนขี้กลัว ที่ชอบออมเงินในบัญชีแต่ไม่เคยกล้าที่จะลงทุน ซื้ออสังหา หรือลงทุนเงินไปกับการพัฒนาตัวเอง ทำให้เขายังอยู่ที่เดิมในขณะที่คนรอบตัวมีเงินเพิ่มขึ้น แม้จะมีเงินเดือนน้อยก็ตาม 

2. อย่าคิดว่าเงินไม่สำคัญ
   หลายคนชอบบอกว่า เงินไม่สำคัญ มีเงินเยอะซื้อความสุขไม่ได้ ซึ่งคนส่วนใหญ่ที่พูดแบบนี้ได้มักเป็นคนที่มีเงินมากพอจนเห็นว่าเงินไม่สำคัญ หากมองในความเป็นจริง ทุกวันนี้ทุกอย่างในโลกล้วนขับเคลื่อนด้วยสิ่งที่เรียกว่า “เงิน” อาจจะจริงที่เงินอาจไม่ได้ทำให้มีความสุขไปทุกอย่าง แต่อย่างน้อยการมีเงินก็ไม่ได้ทำให้ทุกข์ การมีเงินช่วยให้สามารถใช้ชีวิตทุกวันด้วยความมั่นคงปลอดภัย อิ่มท้อง นอนหลับสบายกว่าตอนไม่มีเงินแน่นอน ดังนั้นเปลี่ยนความคิดและเปิดใจให้กับเงินที่สามารถซื้อความสบายให้กับคุณ

3. ตกหลุมพรางบัตรเครดิตอย่างไม่ทันตั้งตัว
   ความจริงแล้ว บัตรเครดิตไม่ได้น่ากลัว แต่การที่ไม่มีวินัยคือสิ่งที่น่ากลัวที่สุด เพราะการรูดก่อนค่อยจ่าย ทำให้ใครหลายต่อหลายคนตกหลุมพรางหนี้บัตรเครดิตมาแล้วนับไม่ถ้วน ดังนั้นก่อนรูดทุกครั้ง ต้องมั่นใจว่าชำระคืนได้ และที่สำคัญห้ามลืมและจ่ายช้าเด็ดขาด ถ้าไม่มั่นใจว่าจะชำระคืนได้ ให้พิจารณาให้รอบคอบอีกที เพราะไม่อย่างนั้นสภาพการเงินของคุณจะลดลงหรือติดหนี้ไม่มีวันสิ้นสุด

4. หวังพึ่งแต่แรงใจในการเก็บเงิน แต่แรงไฟก็อาจหมดไปได้ง่าย
   ผู้เขียนเล่าว่า เขาเป็นคนขี้เกียจไม่มีแรงใจในการเก็บเงิน ควบคุมใจตัวเองไม่ค่อยได้ มีเท่าไหร่ก็ใช้หมด เก็บไม่อยู่ แต่เมื่อ 10 ปีก่อน เขาได้ตั้งหักเงินบัญชีอัตโนมัติ ทันทีที่เงินเดือนออกเงินส่วนนั้นจะเข้าไปอยู่ในบัญชีลงทุนที่เขาสร้างไว้ทันที และนั่นเป็นการตัดสินใจที่ดีที่สุดในชีวิตของเขา ทำให้เขาได้ลงทุนเพิ่มถึง 6 หลักเพราะเงินที่หักเข้าบัญชีนั้น ดังนั้นใช้การตั้ง หักบัญชีอัตโนมัติ ในแอปพลิเคชันธนาคารกันดู

5. ใช้เวลานานเกินไปกับการรอเวลาลงทุน
   เด็นนิ่งเล่าว่า การหาจังหวะเหมาะสมในตลาดการลงทุน คือการแพ้ตั้งแต่ยังไม่ได้ลงเล่นเกม บางคนบอกว่าราคาอสังหาริมทรัพย์จะตกลงเรื่อย ๆ บ้างก็บอกว่าคริปโตจะกลับมาพุ่งอีกครั้ง หรือบางนักลงทุนก็วิเคราะห์ว่าหุ้นกูเกิ้ล ไมโครซอฟต์จะพุ่งอีกครั้งเมื่อเอไอเข้ามามีบทบาทเพิ่มมากขึ้น แต่ใครจะรู้ เพราะอนาคตคือความไม่แน่นอน ไม่มีใครคาดการณ์ถูกทุกอย่าง เพียงแต่ถ้าเราไม่เริ่มลงทุนสักที เงินที่รอลงทุนนั้นจะหายไปกับสิ่งของอย่างอื่นแทนแน่นอน ดังนั้นเริ่มต้นศึกษาการลงทุนตั้งแต่ตอนนี้เลย เหมือนที่เขาชอบพูดว่า การลงทุนสม่ำเสมอในระยะยาว ย่อมดีกว่าการลงทุนแบบรอจังหวะตลาด

6. (พยายาม)ใช้ชีวิตแบบลักชูรี่
   ในยุคที่ผู้คนต่างซื้อสินค้าฟุ่มเฟือยตามกระแส ซื้อมาถ่ายรูปลงโซเชียลมีเดียให้คนอื่นเห็น ซึ่งบางครั้งสิ่งที่เห็นในโซเชียลก็อาจไม่เป็นเรื่องจริงเสมอไป บางคนอาจเช่ารถซูเปอร์คาร์เท่ ๆ เช่าบ้านหรู มาเพื่อถ่ายรูปเฉย ๆ การพยายามที่จะซื้อของตามคนอื่น ไม่ใช่เรื่องที่ดีนัก ทางที่ดีซื้อของที่จำเป็นต้องใช้ มีสติในการซื้อทุกครั้ง

7. โฟกัสค่าใช้จ่ายที่ใช้
   เด็นนิ่งเล่าว่า เขาเห็นคนส่วนใหญ่ยืนกรานที่ยังจะประหยัดเงินด้วยการออมเงิน ใช้คูปองส่วนลด ไปหาเพื่อนให้เลี้ยงข้าว หรือการหักดิบเงินเข้มงวดกับการใช้จ่ายมากจนเกินไป นั่นเป็นวิธีที่ผิด ถ้าคุณมีเงินใช้ไม่มากพอ หาหนทางที่จะทำให้เงินเพิ่มดีกว่า เพิ่มคุณค่าให้ตัวเอง ด้วยการพัฒนาสกิลหรือทักษะ โฟกัสกับการพัฒนาตัวเองเพื่อหาทางได้เงินเพิ่ม ไม่ใช่โฟกัสที่รายจ่ายอย่างเดียว  

8. ไม่รู้จักการลดหย่อนภาษี
   ทุกคนต่างจ่ายภาษี แต่ถ้าจ่ายภาษีเหมือนกันแต่น้อยกว่า แถมถูกกฎหมายด้วย จะช่วยประหยัดภาระค่าใช้จ่ายได้เยอะ ซึ่งเราสามารถเลือกลดหย่อนได้หลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น ลดหย่อนภาษีสมรส บุตร มารดาบิดา กองทุนรวม SSF RMF หรือบริจาคให้กับมูลนิธิต่าง ๆ เท่านี้เราก็เสียภาษีได้อย่างฉลาด เพิ่มความมั่งคั่งให้เราได้แล้ว

เพียงแค่เราเปลี่ยนนิสัยการใช้เงิน ก็จะช่วยให้ความมั่งคั่งเกิดขึ้นได้ไม่ยาก เหมือนกับที่คนเคยพูดไว้ว่า เงินซื้อเวลาได้ และเราทุกคนสามารถซื้อเวลาได้ในจำนวนเงินที่มากขึ้นกว่านั้นได้