fbpx
Search
Close this search box.

ต่างชาติแห่ลงทุนในไทยปี 66 พุ่ง 3.8 หมื่นล้าน
ภายใน 4 เดือนแรก

กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยตัวเลขนักลงทุนต่างชาติช่วงเดือนมกราคม – เมษายน 4 เดือนแรก ทำเม็ดเงินทะลุกว่า 3.8 หมื่นล้านบาท ประเทศที่ลงทุนเป็นอันดับ 1 ได้แก่ ญี่ปุ่น โดยลงทุนเม็ดเงินไปกว่า 1.4 หมื่นล้านบาท รองลงมาเป็น สิงคโปร์ และสหรัฐอเมริกา

นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว รายงานว่าในเดือนเม.ย. 66 มีการอนุญาตให้คนต่างชาติประกอบธุรกิจในประเทศไทย จำนวน 43 ราย เป็นการลงทุนผ่านช่องทางการขอรับใบอนุญาตประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว จำนวน 13 ราย และการขอหนังสือรับรองการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว จำนวน 30 ราย เงินลงทุนทั้งสิ้น 5,654 ล้านบาท จ้างงานคนไทย 487 คน ส่วนใหญ่เป็นคนต่างชาติจากญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา และสิงคโปร์

จากข้อมูลในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2566 (ม.ค. – เม.ย.) มีการได้อนุญาตให้ต่างชาติเข้ามาลงทุนประกอบธุรกิจในไทย ภายใต้ พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 จำนวน 217 ราย เพิ่มขึ้น 11% เป็นการลงทุนผ่านช่องทางการขอรับใบอนุญาตประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว จำนวน 69 ราย และการขอหนังสือรับรองการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว จำนวน 148 ราย เม็ดเงินลงทุนทั้งสิ้น 38,702 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6% และมีการจ้างงานคนไทย 2,419 คน เพิ่มขึ้น 6%

โดยชาวต่างชาติที่เข้ามาลงทุน 5 อันดับแรก ได้แก่ ญี่ปุ่น 55 ราย (คิดเป็น  25%) เงินลงทุน 14,024 ล้านบาท สิงคโปร์ 35 ราย (คิดเป็น 16%) เงินลงทุน 4,854 ล้านบาท สหรัฐฯ 34 ราย (คิดเป็น 15%) เงินลงทุน 1,725 ล้านบาท จีน 14 ราย (คิดเป็น 6%) เงินลงทุน 11,230 ล้านบาท สมาพันธรัฐสวิส 11 ราย (คิดเป็น 5%) เงินลงทุน 1,692 ล้านบาท และ อื่น ๆ 68 ราย (คิดเป็น 33%) เงินลงทุน 5,177 ล้านบาท โดยธุรกิจส่วนใหญ่เป็นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ นโยบายการส่งเสริมการลงทุนเพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ

ส่วนการลงทุนในพื้นที่ เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ของนักลงทุนต่างชาติ ในช่วง 4 เดือน มีนักลงทุนต่างชาติสนใจลงทุนในพื้นที่ EEC จำนวน 43 ราย (คิดเป็น 20%) ของจำนวนนักลงทุนทั้งหมด มีมูลค่าการลงทุนในพื้นที่ EEC จำนวน 7,521 ล้านบาท (คิดเป็น 19%) ของเงินลงทุนทั้งหมด เป็นนักลงทุนจากประเทศญี่ปุ่น 17 ราย ลงทุน 2,816 ล้านบาท จีน 8 ราย ลงทุน 725 ล้านบาท ฮ่องกง 3 ราย ลงทุน 2,920 ล้านบาท และประเทศอื่น ๆ อีก 15 ราย ลงทุน 1,058 ล้านบาท

นอกจากนี้ น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า แม้จะเจอสถานการณ์โควิด-19 แต่นักลงทุนยังคงขยายแผนลงทุนในไทยต่อเนื่อง โดยประเทศไทยได้ให้สิทธิประโยชน์จูงใจแก่นักลงทุน ประกอบกับความพร้อมเรื่องวัตถุดิบที่มีอย่างเพียงพอ และมีอุตสาหกรรมสนับสนุนพร้อม ทั้งด้านการสื่อสาร ระบบขนส่งและโลจิสติกส์ ทำให้ต่างชาติมีความเชื่อมั่นศักยภาพของประเทศไทยและยังเป็นเป้าหมายการลงทุนของต่างชาติ

ขอบคุณข้อมูลจาก ข่าวหุ้นและข่าวสด

บทความที่เกี่ยวข้อง

เพื่อนๆ สามารถติดตาม ACU PAY Thailand ผ่านช่องทางการติดตามอื่นๆ ได้ที่