เมื่อต้นเดือนสิงหาคม 2566 ที่ผ่านมา เครดิตบูโร เปิดเผยว่า หนี้เสียไทยในไตรมาส 2 กลับมาพุ่งทะลุ 1 ล้านล้านบาทอีกครั้ง และยังมีแนวโน้มสูงขึ้น ซึ่งการมาแรงของสินเชื่ออย่าง ‘ซื้อก่อนผ่อนทีหลัง’ อาจเป็นหนึ่งในปัจจัยให้คนไทยสร้างหนี้เพิ่มหนี้มากขึ้น
ด้วยข้อจำกัดด้านการสมัครบัตรเครดิตและการทำเรื่องขอสินเชื่อ ทำให้เกิดรูปแบบการชำระเงินแบบใหม่ที่เรียกว่า ‘Buy Now Pay Later’ (BNPL) หรือ ‘ซื้อก่อนจ่ายทีหลัง’ ที่กำลังได้รับความนิยมในกลุ่มธุรกิจอีคอมเมิร์ซ (E-Commerce) และเอื้อให้คนไทยสร้างหนี้เพิ่มมากขึ้น
Buy Now Pay Later หรือ BNPL คือ รูปแบบการชำระเงินแบบหนึ่ง ที่เราจะได้สินค้าหรือบริการก่อน แล้วค่อยจ่ายเงินหรือเลือกเป็นแบ่งจ่ายทีหลัง โดยส่วนมากการชำระเงินแบบก้อนเดียวของ Buy Now Pay Later จะไม่เสียดอกเบี้ย แต่สำหรับการผ่อนชำระเป็นงวด ๆ บางครั้งอาจมีดอกเบี้ย แต่จะเป็นดอกเบี้ยในอัตราที่ต่ำ หรืออาจไม่เสียค่าดอกเบี้ยในการผ่อนชำระเลย ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขที่บริษัทกำหนดไว้
ซึ่งการสมัครที่ไม่ยุ่งยากและซับซ้อน แค่ใช้เอกสารยืนยันตัวตนหรือการตรวจสอบประวัติทางการเงินนิดหน่อย สิ่งนี้เองทำให้ Buy Now Pay Later เติบโตอย่างก้าวกระโดดในเวลาไม่กี่ปี และมีฐานลูกค้ารายใหญ่ของอีคอมเมิร์ซอย่างกลุ่มคนเจน ‘มิลเลนเนียล’ (Millennials) และ ‘เจนแซด’ (Gen Z) ที่ต้องการซื้อของแบบผ่อนชำระ แต่คุณสมบัตืไม่ถึงเกณฑ์การขออนุมัติสินเชื่อ ซึ่งการมี Buy Now Pay Later กระตุ้นให้คนกลุ่มนี้ตัดสินใจซื้อสินค้าง่ายขึ้น ถือเป็นโอกาสเพิ่มรายได้ของภาคธุรกิจในเวลาเดียวกัน
มีการเปิดเผยตัวเลขไตรมาส 2 ของหนี้ครัวเรือนไทย 2566 ผลปรากฎว่ามีคนไทยกว่า 1 ใน 3 แบกหนี้ครัวเรือนที่ยังเดินหน้าเพิ่มขึ้นต่อเนื่องมาอยู่ที่ 15.96 ล้านล้านบาท คิดเป็น 90.6% ของ GDP ด้วยหนี้ครัวเรือนมหาศาล
ข้อมูลจากเครดิตแห่งชาติ (เครดิตบูโร) กล่าวว่า ปัจจัยแรกมาจากหนี้เสียในช่วงโควิด-19 ที่ปัจจุบันมีลูกหนี้ทั้งหมด 4.9 ล้านบัญชี คิดเป็นหนี้ทั้งสิ้นราว 3.7 แสนล้านบาท หรือคิดเป็นจำนวนคนที่ 3.4 ล้านคน ที่เป็นหนี้เสียหรือประสบภัยการเงิน ในช่วงโควิด-19 จากก่อนหน้า กลุ่มนี้ถือเป็นลูกหนี้ที่ชำระดีมาโดยตลอด
อีกปัจจัยมาจากพฤติกรรมการใช้จ่ายที่เข้าขั้นแย่ หนี้ส่วนใหญ่เป็นหนี้ที่ไม่สร้างรายได้ในอนาคต หนี้เสียที่เกิดขึ้น 1 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นหนี้เสียจากรถยนต์ 2 แสนล้านบาท หนี้เสียบ้าน 1.8 แสนล้านบาท และหนี้เกษตรกรอีกราว 6-8 หมื่นล้านบาท และหนี้เสียที่มากที่สุด คือ หนี้เสียสินเชื่อบุคคล กู้เป็นก้อนผ่อนเป็นงวดสูงถึง 2.5 แสนล้านบาท จากการ ‘กู้ไปก่อนผ่อนทีหลัง’
ซึ่งการมีสินเชื่ออันหอมหวานอย่าง Buy Now Pay Later ก็จะยิ่งกระตุ้นให้คนใช้เงินเยอะเกินตัว และคิดน้อยลงมากขึ้น จนกลายเป็น ‘กับดักหนี้’ ที่ไม่รู้จบ และอาจกระทบต่อภาคเศรษฐกิจมากกว่าที่คิด
ประเภทหนี้เสียทั้งหมดแบ่งออกเป็น 4 กลุ่มใหญ่ คือ
ซึ่งปัญหานี้ทั้งหมดนี้ต้องรีบแก้โดยด่วน โดยเฉพาะประเทศไทยที่กำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ทำให้รัฐบาลต้องมีภาระกับเงินสวัสดิการที่เพิ่มมากขึ้นในอนาคต แต่ขณะที่คนกลุ่มวัยทำงานสร้างรายได้น้อยลงแต่สร้างหนี้เสียมากขึ้น ก็อาจส่งผลกระทบระยะยาวต่อการเติบโตของเศรษฐกิจ และเสถียรภาพระบบการเงินประเทศได้
Cookie | Duration | Description |
---|---|---|
cookielawinfo-checkbox-analytics | 11 months | This cookie is set by GDPR Cookie Consent plugin. The cookie is used to store the user consent for the cookies in the category "Analytics". |
cookielawinfo-checkbox-functional | 11 months | The cookie is set by GDPR cookie consent to record the user consent for the cookies in the category "Functional" |
cookielawinfo-checkbox-necessary | 11 months | This cookie is set by GDPR Cookie Consent plugin. The cookies is used to store the user consent for the cookies in the category "Necessary". |
cookielawinfo-checkbox-others | 11 months | This cookie is set by GDPR Cookie Consent plugin. The cookie is used to store the user consent for the cookies in the category "Other". |
cookielawinfo-checkbox-performance | 11 months | This cookie is set by GDPR Cookie Consent plugin. The cookie is used to store the user consent for the cookies in the category "Performance". |
viewed_cookie_policy | 11 months | The cookie is set by the GDPR Cookie Consent plugin and is used to store whether or not user has consented to the use of cookies. It does not store any personal data. |