fbpx
Search
Close this search box.
ประโยชน์ของกาแฟ

เปิดโปง 9 ความลับประโยชน์ของกาแฟที่ไม่ได้มีดีแค่แก้ง่วง

       จากงานวิจัยหลายๆงาน แสดงให้เห็นถึงความลับของกาแฟที่ซ่อนอยู่ไม่ได้มีประโยชน์แค่ทำให้หายง่วง วันนี้เราได้รวบรวม 9 ประโยชน์ของกาแฟที่มีอยู่ในตัวกาแฟ มีอะไรบ้างไปดูกันเลย

มีดีมากกว่าแค่ทำให้รอดชีวิต

  1. ช่วยเพิ่มพลังงานในการใช้ชีวิต
  2. ช่วยลดความเสี่ยงของการเป็นเบาหวานประเภทที่ 2 
  3. ช่วยบำรุงสมอง
  4. ช่วยในการคุมน้ำหนัก
  5. ลดความเสี่ยงในการเป็นโรคซึมเศร้า
  6. ป้องกันภาวะตับแข็งได้
  7. ช่วยบำรุงหัวใจ
  8. ช่วยทำให้อายุยืนขึ้น
  9. ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเล่นกีฬา

1. ช่วยเพิ่มพลังงานในการใช้ชีวิต ?

     ข้อแรกซึ่งเป็นข้อที่หลายๆ คนรับและรู้สึกได้อยู่แล้วหลังดื่มกาแฟ เพราะอย่างที่เรารู้กันนะครับกาแฟมีคาเฟอีนที่เป็นสารกระตุ้นระบบประสาทส่วนกลางเป็นส่วนที่ต่อต้านกับความเหนื่อยล้า และเพิ่มระดับพลังงาน 

     เพราะคาเฟอีนไปขัดขวางตัวรับของสารสื่อประสาทที่เรียกว่าอะดีโนซีน และเพิ่มระดับของสารสื่อประสาทอื่นๆ ในสมองของคุณที่ควบคุมระดับพลังงานของคุณ รวมทั้งโดปามีน 

     มีงานค้นคว้าเล็กๆงานหนึ่ง พบว่าการดื่มกาแฟเพิ่มเวลาในการหมดแรงระหว่างออกกำลังกายด้วยการปั่นจักรยาน 12% และลดระดับความเหนื่อยล้าของผู้เข้าร่วมอย่างมีนัยสำคัญ การศึกษาอื่นมีการค้นพบที่คล้ายคลึงกัน โดยรายงานว่าการดื่มกาแฟก่อนและระหว่างตีกอล์ฟช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ เพิ่มระดับพลังงาน และลดความรู้สึกเมื่อยล้า

สรุป กาแฟเป็นตัวกระตุ้นที่ช่วยเพิ่มพลังงานและลดความเหนื่อยล้าโดยการเปลี่ยนระดับของสารเคมีบางชนิดในสมอง

2. ช่วยลดความเสี่ยงของการเป็นเบาหวานประเภทที่ 2 ?

     เบาหวานประเภทที่ 2 พบได้ในผู้ป่วยโรคเบาหวานร้อยละ 90 เกิดจากภาวะดื้ออินซูลิน (insulin resistance) ส่งผลให้อินซูลินซึ่งทำหน้าที่ลดระดับน้ำตาลในเลือดทำงานได้ไม่ดีระดับน้ำตาลในเลือดจึงเพิ่มสูงขึ้น

     งานวิจัยบางชิ้นชี้ให้เห็นว่าการดื่มกาแฟเป็นประจำอาจสัมพันธ์กับความเสี่ยงที่ลดลงในการเป็นเบาหวานชนิดที่ 2 ในระยะยาว 

     อันที่จริง จากผลการศึกษา 30 ชิ้นพบว่าผู้ที่ดื่มกาแฟแต่ละแก้วต่อวันเชื่อมโยงกับความเสี่ยงที่ลดลง 6% ในการเป็นเบาหวานชนิดที่ 2 อาจเป็นเพราะความสามารถของกาแฟในการรักษาการทำงานของเซลล์เบตาในตับอ่อน ซึ่งมีหน้าที่ในการผลิตอินซูลินเพื่อควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด 

     นอกจากนี้ยังอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระและอาจส่งผลต่อความไวของอินซูลิน การอักเสบ และการเผาผลาญ ซึ่งทั้งหมดนี้เกี่ยวข้องกับการพัฒนาของโรคเบาหวานประเภท 2 

สรุป   การบริโภคกาแฟเป็นประจำอาจเชื่อมโยงกับความเสี่ยงที่ลดลงของโรคเบาหวานประเภท 2 ในระยะยาว

3. ช่วยบำรุงสมอง ?

แม้ว่าผลการศึกษาจะออกมาหลากหลาย แต่งานวิจัยบางชิ้นแนะนำว่ากาแฟอาจช่วยป้องกันความผิดปกติของระบบประสาทบางชนิด เช่นโรคอัลไซเมอร์ และโรคพาร์กินสัน จากการลองอ่านผลการศึกษา 13 ชิ้น ผู้ที่บริโภคคาเฟอีนเป็นประจำมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคพาร์กินสันลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ยิ่งไปกว่านั้น การบริโภคคาเฟอีนยังช่วยชะลอการลุกลามของโรคพาร์กินสันเมื่อเวลาผ่านไป จากการศึกษาเชิงสังเกตอีก 11 เรื่องในกว่า 29,000 คนยังพบว่ายิ่งดื่มกาแฟมากเท่าไร ความเสี่ยงต่อโรคอัลไซเมอร์ก็ลดลง นอกจากนี้ ผลการศึกษาหลายชิ้นได้แสดงให้เห็นว่าการดื่มกาแฟอาจสัมพันธ์กับการช่วยลดความเสี่ยงที่ทำให้เกิดภาวะสมองเสื่อม และความจำเสื่อมได้

สรุป งานวิจัยบางชิ้นชี้ให้เห็นว่าการดื่มกาแฟสามารถช่วยป้องกันโรคอัลไซเมอร์ โรคพาร์กินสัน และความจำเสื่อม

4. ช่วยในการคุมน้ำหนัก ?

     จากการวิจัยบางชิ้น กาแฟสามารถเปลี่ยนแปลงการสะสมไขมันและช่วยส่งเสริมสุขภาพของลำไส้ ซึ่งทั้งสองอย่างนี้อาจเป็นประโยชน์สำหรับการควบคุมน้ำหนัก ตัวอย่างเช่น ผลการศึกษา 12 เรื่องสรุปว่าการบริโภคกาแฟที่สูงขึ้นอาจสัมพันธ์กับไขมันในร่างกายที่ลดลง โดยเฉพาะในผู้ชาย ในการศึกษาอื่น ปริมาณกาแฟที่เพิ่มขึ้นเชื่อมโยงกับไขมันในร่างกายที่ลดลงในผู้หญิง 

     นอกจากนี้ ผลการศึกษาชิ้นหนึ่งพบว่าผู้ที่ดื่มกาแฟ 1-2 แก้วต่อวันมีโอกาสออกกำลังได้เต็มที่และเป็นไปตามแผนมากกว่า 17% เมื่อเทียบกับผู้ที่ดื่มกาแฟน้อยกว่าหนึ่งแก้วต่อวัน 

     ซึ่งการออกกำลังกายและสามารถทำได้ตรงตามแผนจะช่วยส่งเสริมการควบคุมน้ำหนักได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

สรุป กาแฟสามารถช่วยควบคุมน้ำหนักและสัมพันธ์กับการลดไขมันในร่างกาย งานวิจัยชิ้นหนึ่งยังพบว่าผู้ที่ดื่มกาแฟมีแนวโน้มที่จะออกกำลังกายได้มากขึ้น

5. ช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคซึมเศร้า ?

     การศึกษาบางชิ้นพบว่าการดื่มกาแฟอาจสัมพันธ์กับความเสี่ยงที่ลดลงของ ภาวะ ซึมเศร้าจากผลการศึกษา 7 ชิ้น พบว่ากาแฟแต่ละแก้วที่บริโภคต่อวันมีความสัมพันธ์กับความเสี่ยงที่ลดลงถึง 8% ของภาวะซึมเศร้า

     และยังมีการศึกษาอื่นๆ พบว่าการดื่มกาแฟอย่างน้อย 4 แก้วต่อวันมีความสัมพันธ์กับความเสี่ยงต่อภาวะซึมเศร้าที่ลดลงอย่างมีนัยะสำคัญ เมื่อเทียบกับการดื่มกาแฟเพียงวันละแก้ว 

     ยิ่งไปกว่านั้น มีการศึกษาหนึ่งเรื่อง ในกว่า 200,000 คนพบว่าการดื่มกาแฟมีความสัมพันธ์กับความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตโดยการฆ่าตัวตายลดลง 

สรุป ผลการศึกษาหลายชิ้นพบว่ากาแฟมีความสัมพันธ์กับความเสี่ยงที่ลดลงของภาวะซึมเศร้าและอาจส่งผลกับความเสี่ยงที่ลดลงของการเสียชีวิตโดยการฆ่าตัวตาย

6. ป้องกันภาวะตับแข็งได้ ?

     ตัวอย่างเช่น มีงานวิจัยชิ้นหนึ่งพบว่าการดื่มกาแฟมากกว่าสองแก้วต่อวันสัมพันธ์กับอัตราการเกิดแผลเป็นที่ตับและมะเร็งตับที่ลดลงในผู้ที่เป็นโรคตับ

     และยังมีงานวิจัยอื่น ๆ แสดงให้เห็นว่ายิ่งคนดื่มกาแฟมากเท่าไร ความเสี่ยงของการเสียชีวิตจากโรคตับเรื้อรังก็จะลดลง การดื่มกาแฟหนึ่งแก้วต่อวันมีความเสี่ยงลดลง 15% ในขณะที่การดื่มกาแฟ 4 แก้วต่อวันเชื่อมโยงกับความเสี่ยงที่ลดลง 71%

     ผลการศึกษาล่าสุดอีกชิ้นหนึ่งพบว่าการบริโภคกาแฟเกี่ยวข้องกับความฝืดของตับที่ลดลง ซึ่งเป็นการวัดที่บุคลากรทางการแพทย์ใช้เพื่อประเมินการเกิดพังผืด การก่อตัวของเนื้อเยื่อแผลเป็นในตับ 

สรุป การดื่มแฟอาจสัมพันธ์กับความเสี่ยงที่ลดลงของการเสียชีวิตจากโรคตับเรื้อรัง ตลอดจนภาวะอื่นๆ เช่น แผลเป็นที่ตับและมะเร็งตับ

7. ช่วยบำรุงหัวใจ ?

     งานวิจัยบางชิ้นแสดงให้เห็นว่าการดื่มกาแฟอาจเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพของหัวใจ อันที่จริง มีงานวิจัยชิ้นหนึ่งพบว่าการดื่มกาแฟ 3-5 แก้วต่อวัน สัมพันธ์กับความเสี่ยงที่ลดลง 15% ของการเกิดโรคหัวใจ 

     มีผลการศึกษาอีก 21 ชิ้นแสดงให้เห็นว่าการดื่มกาแฟ 3-4 แก้วต่อวันมีความเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดสมอง ลดลงถึง 21% 

และยิ่งไปกว่านั้น การศึกษาหนึ่ง ใน 21,000 คน ยังพบอีกว่าการดื่มกาแฟที่เพิ่มขึ้นสัมพันธ์กับความเสี่ยงที่ลดลงของภาวะหัวใจล้มเหลวเป็นอย่างมาก

     อย่างไรก็ตาม โปรดทราบว่าคาเฟอีนอาจส่งผลต่อระดับความดันโลหิต ดังนั้นผู้ที่มีโรคความดันโลหิต อาจจำเป็นต้องจำกัดหรือลดปริมาณคาเฟอีนลง

สรุป งานวิจัยบางชิ้นแสดงให้เห็นว่าการดื่มกาแฟสามารถสัมพันธ์กับความเสี่ยงที่ลดลงของโรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง และภาวะหัวใจล้มเหลว

8. ช่วยทำให้อายุยืนขึ้น ?

     งานวิจัยบางชิ้นชี้ให้เห็นว่ากาแฟสามารถช่วยยืดอายุขัยได้ ตัวอย่างเช่น จากการศึกษางานวิจัย 40 ชิ้นสรุปว่าการดื่มกาแฟ 2-4 ถ้วยต่อวันมีความสัมพันธ์กับความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตที่ลดลง โดยไม่คำนึงถึงปัจจัยต่างๆ เช่น อายุ สถานะน้ำหนัก และการบริโภคแอลกอฮอล์ 

     ในทำนองเดียวกัน การศึกษาอื่นใน 1,567 คน พบว่าการดื่มกาแฟที่มีคาเฟอีนสัมพันธ์กับความเสี่ยงที่ลดลงของการเสียชีวิตหลังจากติดตามผล 12 และ 18 ปี นอกจากนี้ การดื่มกาแฟอย่างน้อยวันละหนึ่งแก้วยังสัมพันธ์กับความเสี่ยงที่ลดลงของการเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งอีกด้วย และที่น่าสนใจคือ การศึกษาในหลอดทดลองชิ้นหนึ่งพบว่ากาแฟสามารถยืดอายุขัยของยีสต์ได้อย่างมีนัยะสำคัญโดยการป้องกันอนุมูลอิสระและความเสียหายของดีเอ็นเอ

     อย่างไรก็ตาม จำเป็นต้องมีการวิจัยเพิ่มเติมเพื่อพิจารณาว่าสิ่งนี้สามารถนำไปใช้กับมนุษย์ได้หรือไม่

สรุป กาแฟอาจสัมพันธ์กับความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตที่ลดลง โดยไม่คำนึงถึงปัจจัยอื่นๆ เช่น อายุ สถานะน้ำหนัก หรือการบริโภคแอลกอฮอล์ แต่ก็ยังคงจำเป็นที่จะต้องมีการวิจัยเพิ่มเติม

9. ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเล่นกีฬา ?

     กาแฟมักถูกใช้เป็นตัวช่วย ergogenic โดยนักกีฬาที่ต้องการเพิ่มประสิทธิภาพและเพิ่มแรงสาร ergogenic เรียกอีกอย่างว่าสารเพิ่มประสิทธิภาพ

     จากผลการศึกษางานวิจัย 9 ชิ้นรายงานว่าการดื่มกาแฟก่อนออกกำลังกายช่วยเพิ่มความอดทนและลดการรับรู้ถึงการออกแรงและยังมีการศึกษา ในผู้สูงอายุ 126 คนพบว่าการดื่มกาแฟสัมพันธ์กับสมรรถภาพทางกายที่ดีขึ้นและการเดินเร็วขึ้น แม้หลังจากที่นักวิจัยปรับปัจจัยต่างๆ เช่น อายุ ไขมันหน้าท้อง และระดับการออกกำลังกาย 

     นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่าการบริโภคคาเฟอีนในระดับปานกลางอาจช่วยเพิ่มพละกำลัง อย่างไรก็ตาม ผลลัพธ์ที่ได้ก็หลากหลาย ดังนั้น นักวิจัยยังตั้งข้อสังเกตว่าคาเฟอีนอาจส่งผลต่อผู้คนต่างกัน 

สรุป กาแฟสามารถช่วยเสริมสมรรถภาพทางกายและความอดทนเมื่อดื่มก่อนออกกำลังกาย อย่างไรก็ตาม การศึกษาบางชิ้นได้ผลลัพธ์ที่หลากหลาย

     กาแฟเป็นเครื่องดื่มยอดนิยมที่นักวิจัยได้ศึกษาอย่างกว้างขวางถึงประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย รวมถึงความสามารถในการเพิ่มระดับพลังงาน ส่งเสริมการควบคุมน้ำหนัก เพิ่มประสิทธิภาพการกีฬา และป้องกันโรคเรื้อรัง

     แต่อย่าลืมว่า บางคนอาจจะต้องจำกัดการบริโภค รวมทั้งผู้ที่ตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร เด็กและวัยรุ่น และผู้ที่มีภาวะสุขภาพบางอย่าง 

     อย่างไรก็ตาม การดื่มกาแฟในปริมาณที่พอเหมาะ-กินให้เหมาะสมกับช่วงเวลา— ไม่ควรสามถึงสี่แก้วต่อวัน — มีประโยชน์ต่อสุขภาพหลายประการและโดยทั่วไปถือว่าปลอดภัยสำหรับผู้คนส่วนใหญ่

Reference : healthline

บทความที่เกี่ยวข้อง

เพื่อนๆ สามารถติดตาม ACU PAY Thailand ผ่านช่องทางการติดตามอื่นๆ ได้ที่