จากงานวิจัยหลายๆงาน แสดงให้เห็นถึงความลับของกาแฟที่ซ่อนอยู่ไม่ได้มีประโยชน์แค่ทำให้หายง่วง วันนี้เราได้รวบรวม 9 ประโยชน์ของกาแฟที่มีอยู่ในตัวกาแฟ มีอะไรบ้างไปดูกันเลย
ข้อแรกซึ่งเป็นข้อที่หลายๆ คนรับและรู้สึกได้อยู่แล้วหลังดื่มกาแฟ เพราะอย่างที่เรารู้กันนะครับกาแฟมีคาเฟอีนที่เป็นสารกระตุ้นระบบประสาทส่วนกลางเป็นส่วนที่ต่อต้านกับความเหนื่อยล้า และเพิ่มระดับพลังงาน
เพราะคาเฟอีนไปขัดขวางตัวรับของสารสื่อประสาทที่เรียกว่าอะดีโนซีน และเพิ่มระดับของสารสื่อประสาทอื่นๆ ในสมองของคุณที่ควบคุมระดับพลังงานของคุณ รวมทั้งโดปามีน
มีงานค้นคว้าเล็กๆงานหนึ่ง พบว่าการดื่มกาแฟเพิ่มเวลาในการหมดแรงระหว่างออกกำลังกายด้วยการปั่นจักรยาน 12% และลดระดับความเหนื่อยล้าของผู้เข้าร่วมอย่างมีนัยสำคัญ การศึกษาอื่นมีการค้นพบที่คล้ายคลึงกัน โดยรายงานว่าการดื่มกาแฟก่อนและระหว่างตีกอล์ฟช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ เพิ่มระดับพลังงาน และลดความรู้สึกเมื่อยล้า
สรุป กาแฟเป็นตัวกระตุ้นที่ช่วยเพิ่มพลังงานและลดความเหนื่อยล้าโดยการเปลี่ยนระดับของสารเคมีบางชนิดในสมอง
เบาหวานประเภทที่ 2 พบได้ในผู้ป่วยโรคเบาหวานร้อยละ 90 เกิดจากภาวะดื้ออินซูลิน (insulin resistance) ส่งผลให้อินซูลินซึ่งทำหน้าที่ลดระดับน้ำตาลในเลือดทำงานได้ไม่ดีระดับน้ำตาลในเลือดจึงเพิ่มสูงขึ้น
งานวิจัยบางชิ้นชี้ให้เห็นว่าการดื่มกาแฟเป็นประจำอาจสัมพันธ์กับความเสี่ยงที่ลดลงในการเป็นเบาหวานชนิดที่ 2 ในระยะยาว
อันที่จริง จากผลการศึกษา 30 ชิ้นพบว่าผู้ที่ดื่มกาแฟแต่ละแก้วต่อวันเชื่อมโยงกับความเสี่ยงที่ลดลง 6% ในการเป็นเบาหวานชนิดที่ 2 อาจเป็นเพราะความสามารถของกาแฟในการรักษาการทำงานของเซลล์เบตาในตับอ่อน ซึ่งมีหน้าที่ในการผลิตอินซูลินเพื่อควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
นอกจากนี้ยังอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระและอาจส่งผลต่อความไวของอินซูลิน การอักเสบ และการเผาผลาญ ซึ่งทั้งหมดนี้เกี่ยวข้องกับการพัฒนาของโรคเบาหวานประเภท 2
สรุป การบริโภคกาแฟเป็นประจำอาจเชื่อมโยงกับความเสี่ยงที่ลดลงของโรคเบาหวานประเภท 2 ในระยะยาว
สรุป งานวิจัยบางชิ้นชี้ให้เห็นว่าการดื่มกาแฟสามารถช่วยป้องกันโรคอัลไซเมอร์ โรคพาร์กินสัน และความจำเสื่อม
จากการวิจัยบางชิ้น กาแฟสามารถเปลี่ยนแปลงการสะสมไขมันและช่วยส่งเสริมสุขภาพของลำไส้ ซึ่งทั้งสองอย่างนี้อาจเป็นประโยชน์สำหรับการควบคุมน้ำหนัก ตัวอย่างเช่น ผลการศึกษา 12 เรื่องสรุปว่าการบริโภคกาแฟที่สูงขึ้นอาจสัมพันธ์กับไขมันในร่างกายที่ลดลง โดยเฉพาะในผู้ชาย ในการศึกษาอื่น ปริมาณกาแฟที่เพิ่มขึ้นเชื่อมโยงกับไขมันในร่างกายที่ลดลงในผู้หญิง
นอกจากนี้ ผลการศึกษาชิ้นหนึ่งพบว่าผู้ที่ดื่มกาแฟ 1-2 แก้วต่อวันมีโอกาสออกกำลังได้เต็มที่และเป็นไปตามแผนมากกว่า 17% เมื่อเทียบกับผู้ที่ดื่มกาแฟน้อยกว่าหนึ่งแก้วต่อวัน
ซึ่งการออกกำลังกายและสามารถทำได้ตรงตามแผนจะช่วยส่งเสริมการควบคุมน้ำหนักได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
สรุป กาแฟสามารถช่วยควบคุมน้ำหนักและสัมพันธ์กับการลดไขมันในร่างกาย งานวิจัยชิ้นหนึ่งยังพบว่าผู้ที่ดื่มกาแฟมีแนวโน้มที่จะออกกำลังกายได้มากขึ้น
การศึกษาบางชิ้นพบว่าการดื่มกาแฟอาจสัมพันธ์กับความเสี่ยงที่ลดลงของ ภาวะ ซึมเศร้าจากผลการศึกษา 7 ชิ้น พบว่ากาแฟแต่ละแก้วที่บริโภคต่อวันมีความสัมพันธ์กับความเสี่ยงที่ลดลงถึง 8% ของภาวะซึมเศร้า
และยังมีการศึกษาอื่นๆ พบว่าการดื่มกาแฟอย่างน้อย 4 แก้วต่อวันมีความสัมพันธ์กับความเสี่ยงต่อภาวะซึมเศร้าที่ลดลงอย่างมีนัยะสำคัญ เมื่อเทียบกับการดื่มกาแฟเพียงวันละแก้ว
ยิ่งไปกว่านั้น มีการศึกษาหนึ่งเรื่อง ในกว่า 200,000 คนพบว่าการดื่มกาแฟมีความสัมพันธ์กับความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตโดยการฆ่าตัวตายลดลง
สรุป ผลการศึกษาหลายชิ้นพบว่ากาแฟมีความสัมพันธ์กับความเสี่ยงที่ลดลงของภาวะซึมเศร้าและอาจส่งผลกับความเสี่ยงที่ลดลงของการเสียชีวิตโดยการฆ่าตัวตาย
ตัวอย่างเช่น มีงานวิจัยชิ้นหนึ่งพบว่าการดื่มกาแฟมากกว่าสองแก้วต่อวันสัมพันธ์กับอัตราการเกิดแผลเป็นที่ตับและมะเร็งตับที่ลดลงในผู้ที่เป็นโรคตับ
และยังมีงานวิจัยอื่น ๆ แสดงให้เห็นว่ายิ่งคนดื่มกาแฟมากเท่าไร ความเสี่ยงของการเสียชีวิตจากโรคตับเรื้อรังก็จะลดลง การดื่มกาแฟหนึ่งแก้วต่อวันมีความเสี่ยงลดลง 15% ในขณะที่การดื่มกาแฟ 4 แก้วต่อวันเชื่อมโยงกับความเสี่ยงที่ลดลง 71%
ผลการศึกษาล่าสุดอีกชิ้นหนึ่งพบว่าการบริโภคกาแฟเกี่ยวข้องกับความฝืดของตับที่ลดลง ซึ่งเป็นการวัดที่บุคลากรทางการแพทย์ใช้เพื่อประเมินการเกิดพังผืด การก่อตัวของเนื้อเยื่อแผลเป็นในตับ
สรุป การดื่มแฟอาจสัมพันธ์กับความเสี่ยงที่ลดลงของการเสียชีวิตจากโรคตับเรื้อรัง ตลอดจนภาวะอื่นๆ เช่น แผลเป็นที่ตับและมะเร็งตับ
งานวิจัยบางชิ้นแสดงให้เห็นว่าการดื่มกาแฟอาจเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพของหัวใจ อันที่จริง มีงานวิจัยชิ้นหนึ่งพบว่าการดื่มกาแฟ 3-5 แก้วต่อวัน สัมพันธ์กับความเสี่ยงที่ลดลง 15% ของการเกิดโรคหัวใจ
มีผลการศึกษาอีก 21 ชิ้นแสดงให้เห็นว่าการดื่มกาแฟ 3-4 แก้วต่อวันมีความเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดสมอง ลดลงถึง 21%
และยิ่งไปกว่านั้น การศึกษาหนึ่ง ใน 21,000 คน ยังพบอีกว่าการดื่มกาแฟที่เพิ่มขึ้นสัมพันธ์กับความเสี่ยงที่ลดลงของภาวะหัวใจล้มเหลวเป็นอย่างมาก
อย่างไรก็ตาม โปรดทราบว่าคาเฟอีนอาจส่งผลต่อระดับความดันโลหิต ดังนั้นผู้ที่มีโรคความดันโลหิต อาจจำเป็นต้องจำกัดหรือลดปริมาณคาเฟอีนลง
สรุป งานวิจัยบางชิ้นแสดงให้เห็นว่าการดื่มกาแฟสามารถสัมพันธ์กับความเสี่ยงที่ลดลงของโรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง และภาวะหัวใจล้มเหลว
งานวิจัยบางชิ้นชี้ให้เห็นว่ากาแฟสามารถช่วยยืดอายุขัยได้ ตัวอย่างเช่น จากการศึกษางานวิจัย 40 ชิ้นสรุปว่าการดื่มกาแฟ 2-4 ถ้วยต่อวันมีความสัมพันธ์กับความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตที่ลดลง โดยไม่คำนึงถึงปัจจัยต่างๆ เช่น อายุ สถานะน้ำหนัก และการบริโภคแอลกอฮอล์
ในทำนองเดียวกัน การศึกษาอื่นใน 1,567 คน พบว่าการดื่มกาแฟที่มีคาเฟอีนสัมพันธ์กับความเสี่ยงที่ลดลงของการเสียชีวิตหลังจากติดตามผล 12 และ 18 ปี นอกจากนี้ การดื่มกาแฟอย่างน้อยวันละหนึ่งแก้วยังสัมพันธ์กับความเสี่ยงที่ลดลงของการเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งอีกด้วย และที่น่าสนใจคือ การศึกษาในหลอดทดลองชิ้นหนึ่งพบว่ากาแฟสามารถยืดอายุขัยของยีสต์ได้อย่างมีนัยะสำคัญโดยการป้องกันอนุมูลอิสระและความเสียหายของดีเอ็นเอ
อย่างไรก็ตาม จำเป็นต้องมีการวิจัยเพิ่มเติมเพื่อพิจารณาว่าสิ่งนี้สามารถนำไปใช้กับมนุษย์ได้หรือไม่
สรุป กาแฟอาจสัมพันธ์กับความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตที่ลดลง โดยไม่คำนึงถึงปัจจัยอื่นๆ เช่น อายุ สถานะน้ำหนัก หรือการบริโภคแอลกอฮอล์ แต่ก็ยังคงจำเป็นที่จะต้องมีการวิจัยเพิ่มเติม
กาแฟมักถูกใช้เป็นตัวช่วย ergogenic โดยนักกีฬาที่ต้องการเพิ่มประสิทธิภาพและเพิ่มแรงสาร ergogenic เรียกอีกอย่างว่าสารเพิ่มประสิทธิภาพ
จากผลการศึกษางานวิจัย 9 ชิ้นรายงานว่าการดื่มกาแฟก่อนออกกำลังกายช่วยเพิ่มความอดทนและลดการรับรู้ถึงการออกแรงและยังมีการศึกษา ในผู้สูงอายุ 126 คนพบว่าการดื่มกาแฟสัมพันธ์กับสมรรถภาพทางกายที่ดีขึ้นและการเดินเร็วขึ้น แม้หลังจากที่นักวิจัยปรับปัจจัยต่างๆ เช่น อายุ ไขมันหน้าท้อง และระดับการออกกำลังกาย
นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่าการบริโภคคาเฟอีนในระดับปานกลางอาจช่วยเพิ่มพละกำลัง อย่างไรก็ตาม ผลลัพธ์ที่ได้ก็หลากหลาย ดังนั้น นักวิจัยยังตั้งข้อสังเกตว่าคาเฟอีนอาจส่งผลต่อผู้คนต่างกัน
สรุป กาแฟสามารถช่วยเสริมสมรรถภาพทางกายและความอดทนเมื่อดื่มก่อนออกกำลังกาย อย่างไรก็ตาม การศึกษาบางชิ้นได้ผลลัพธ์ที่หลากหลาย
กาแฟเป็นเครื่องดื่มยอดนิยมที่นักวิจัยได้ศึกษาอย่างกว้างขวางถึงประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย รวมถึงความสามารถในการเพิ่มระดับพลังงาน ส่งเสริมการควบคุมน้ำหนัก เพิ่มประสิทธิภาพการกีฬา และป้องกันโรคเรื้อรัง
แต่อย่าลืมว่า บางคนอาจจะต้องจำกัดการบริโภค รวมทั้งผู้ที่ตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร เด็กและวัยรุ่น และผู้ที่มีภาวะสุขภาพบางอย่าง
อย่างไรก็ตาม การดื่มกาแฟในปริมาณที่พอเหมาะ-กินให้เหมาะสมกับช่วงเวลา— ไม่ควรสามถึงสี่แก้วต่อวัน — มีประโยชน์ต่อสุขภาพหลายประการและโดยทั่วไปถือว่าปลอดภัยสำหรับผู้คนส่วนใหญ่
Reference : healthline