fbpx
Search
Close this search box.

NFT เป็นอย่างไรบ้างในช่วงหมีครองตลาด

NFT เป็นอย่างไรบ้างในช่วงหมีครองตลาด

          ในช่วงช่วงตลาดหมีปฏิเสธไม่ได้ว่าสินทรัพย์หลายๆตัวค่อนข้างที่จะแดงไม่ว่าจะเป็น ตลาดหุ้น ตลาดคริปโทฯ หรือแม้แต่ทองคำเองก็ตาม แต่อีกหนึ่งสินทรัพย์ที่เราจะมองข้ามไม่ได้เลยคือ ตลาด NFT ตอนนี้เป็นอย่างไรบ้างมาดูกันครับ

สารบัญ

       หากเรามองในภาพใหญ่ NFT นั้นก็เป็นสินทรัพย์ที่อยู่ในวงการของตลาดคริปโทฯรูปแบบหนึ่ง ซึ่งเป็นการเน้นสะสม ในรูปของงานศิลปะ 

การซื้อขาย NFT ช่วงนี้เป็นอย่างไร

       ข้อมูลจาก TheBlock พบว่าปริมาณการซื้อขาย NFT ของบล็อกเชนอันดับหนึ่งอย่าง Ethereum นั้น ได้มีมูลค่าการซื้อขายลดลงจากจุดสูงสุดที่ 1.66 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือถ้าคิดเป็นเงินไทยประมาณ 6 หมื่นล้านบาท ในช่วงสัปดาห์ของเดือนพฤษภาคม

       และปัจจุบันมีปริมาณการซื้อขายอยู่ที่ 80.52 ล้านดอลลาร์สหรัฐหรือประมาณ 3 พันล้านบาท หรือลดลงกว่า 95% และ NFT หลายๆ คอลเลคชั่น แม้จะเป็นตัวที่มี Market Cap อันดับต้นๆ ก็ยังคงมีราคา Floor Price ลดลงมากกว่า 80-90% ในช่วงที่ผ่านมาเช่นกัน

ตลาด NFT จะไปต่อได้หรือไม่

ต้องบอกก่อนว่า NFT มีสิ่งหนึ่งที่แตกต่างออกไปจากหลายๆสินทรัพย์ในวงการคริปโท คือ

คนไทยยอมรับคริปโทมากแค่ไหน

       ประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 2 ของโลกโดยมีผู้ใช้อินเทอร์เน็ตมากกว่า 9.9% ที่เป็นเจ้าของสกุลเงินดิจิทัล นอกจากนี้ BitKub การแลกเปลี่ยน crypto ที่โดดเด่นในประเทศไทยมีการเติบโต 600% ในปี 2020

ความโปร่งใส ในการตรวจสอบ

       เนื่องจากการที่บล็อกเชนนั้นมีความกระจายศูนย์และโปร่งใส ทุกๆ ธุรกรรมอย่างการซื้อ การขาย การเสนอราคา หรือแม้แต่ข้อมูลสำคัญอย่างเจ้าของสินทรัพย์ในอดีต เจ้าของสินทรัพย์ปัจจุบัน หรือแม้แต่ประวัติการฉ้อโกงของ NFT จะถูกบันทึกอยู่ในบล็อกเชนอยู่ตลอดเวลา และไม่ว่าใครก็สามารถเข้าไปดูได้ ซึ่งหากโกงจริงก็ไม่เป็นผลดีมานักต่อราคาที่จะนำมาเขาต่อ

ความเป็นเจ้าของในสินทรัพย์ดิจิทัล หรือ Digital Ownership

       การที่เราแสดงอะไรก็ตามบนโซเชียลมีเดียก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะเป็นเจ้าของสิ่งนั้นอย่างแท้จริง ตัวอย่างเช่นการแสดงความเป็นเจ้าของของสิ่งของบางอย่างการทำงานที่สุดก็คือการโพสต์ผ่านโซเซียลมีเดีย เช่นการถ่ายรูปนาฬิกาหรู ถ่ายรูปคู่กับรถหรูต่างๆ หรือแม้แต่เงิน ลงโซเชียลมีเดีย ซึ่งในความเป็นจริงเราไม่รู้เลยว่าใครเป็นเจ้าสินทรัพย์นั้นจริงๆ อาจจะยืมนาฬิกามาถ่าย หรือเช่าเงินมาถ่ายก็ได้ หรือเป็นเจ้าของจริงๆก็ได้ กลับมาในฝั่งของ NFT สิ่งที่ NFT ทำได้คือ สามารถที่จะปิดช่องว่างในส่วนนี้ได้อย่างเรียบเนียน อย่างเช่นทวิตเตอร์ในปัจจุบันที่มีการเปิดให้ผู้คนสามารถพิสูจน์ความเป็นเจ้าของรูปโปรไฟล์ NFT ของตัวเอง แล้วจากนั้นกรอบของรูปโปรไฟล์เราจะเป็นทรงหกเหลี่ยมที่ใครก็ สามารถมาดูได้ว่าเราเป็นเจ้าของสินทรัพย์นี้จริงๆ

ความเป็นเจ้าของในสินทรัพย์ดิจิทัล หรือ Digital Ownership

       เราจะสังเกตได้จากข้อ 1 และ ข้อ 2 ที่กล่าวมาเพราะว่าสินทรัพย์ที่เอาไว้แสดงฐานะทางสังคมในปัจจุบันไม่ว่าจะเป็น ของแบรนด์เนม เช่นกระเป๋าแบรนด์ Chanel หรือ Gucci ที่ผู้คนมักนิยมซื้อเพื่อคุณค่าในแบรนด์มากกว่าซื้อเพื่อคาดหวังคุณค่าในการใช้งาน หรืออย่างงานศิลปะระดับโลก หรืออื่นๆ นั้นยังคงขาดคุณสมบัติของทั้งสองสิ่งนั้น และการดราม่า หรือถูกหลอกขายของปลอมก็จะไม่มีอีกต่อไปเพราะเราสามารถตรวจสอบได้ถึงที่มาที่ไปได้อย่างละเอียด

       ปัจจุบันการโซเซียลมีเดียก็เติบโตได้อย่างต่อเนื่อง และนำพาผู้คนไปอบู่บนโลกออนไลน์มากขึ้นการประกาศ หรือการบอกกล่าวแต่ละครั้งบนโซเซียลก็มีคนรับรุ้มากกว่าโลกความเป็นจริง เพราะฉะนั้น NFT จึงเป็นสิ่งที่แสดงฐานะบนโซเซียลมีเดียได้ดี โดยที่เราไม่จำเป็นต้องเอ่ยปากสักคำว่า ใครเป็นเจ้าของ

สรุป NFT จะรอดไหมในช่วงตลาดหมี

       เวลานี้จะเป็นสิ่งที่พิสูจน์ถึงความสามารถของ NFT ได้อย่างดีว่าเป็นสินทรัพย์ที่จะได้ไปต่อหรือไม่ แต่หากเรามองจากคุณสมบัติทั้ง 3 ที่กล่าวมา ยังไม่มีสินทรัพย์ใดที่มีคุณสมบัติใกล้เคียงกับความเป็น NFT ได้ จึงอยากสรุปว่า NFT ณ เวลานี้เป็นเพียงแค่คลื่นขาลงหนึ่งลูก ที่เราหันลงมามองในช่วง 5-10 ปีข้างหน้า

บทความที่เกี่ยวข้อง

เพื่อนๆ สามารถติดตาม ACU PAY Thailand ผ่านช่องทางการติดตามอื่นๆ ได้ที่