Red Ocean และ Blue Ocean กลยุทธ์การทำธุรกิจ

สำหรับคนที่เริ่มทำธุรกิจ หนึ่งในเทคนิคที่ช่วยวางแผนธุรกิจที่ได้รับความนิยมมาช้านาน นั่นคือ ‘กลยุทธ์น่านน้ำ’ (Ocean Strategy) โดยมหาสมุทรที่มักจะถูกหยิบยกมาพูดถึงบ่อยครั้งก็คือ Red และ Blue Ocean

เพราะทั้งสองน่านน้ำนี้ เป็นเหมือนกับพื้นฐานในการทำธุรกิจหรือการตลาดเลยก็ว่าได้ ซึ่งความแตกต่างของน่านน้ำนี้จะมีอะไรบ้าง ตามมาเลย

Red Ocean Strategy คืออะไร

Red Ocean คือ พื้นที่ทางธุรกิจที่มีการแข่งขันสูงที่สุด มีคู่แข่งที่มีการนำเสนอสินค้าหรือลักษณะทางธุรกิจที่คล้ายกัน โดยกลยุทธ์ Red Ocean จะเป็นการทำการตลาดแบบที่เน้น “ราคา” เป็นหลัก โดยผู้เล่นแต่ละคนมีความแตกต่างของแบรนด์น้อย ลูกค้ามีความจงรักภักดีต่อแบรนด์น้อย ใครเสนอราคาที่ถูกกว่า ลูกค้าก็พร้อมที่จะเปลี่ยนใจไปหาเจ้าใหม่

ซึ่งธุรกิจที่ใช้กลยุทธ์ Red Ocean มักจะเป็นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสินค้าที่ใช้ในการอุปโภคบริโภคเป็นประจำ FMCG (Fast Moving Consumer Goods) ทำให้มีโอกาสในการเติบโตช้า และได้กำไรไม่มากพอสมควร เพราะเป็นสินค้าที่มีทั่วไปในตลาด และต้องแข่งขันกับสินค้าที่คล้ายคลึงกันอยู่ตลอด

กลยุทธ์น่านน้ำสีแดง เปรียบเหมือนกับ สนามรบที่มีการแข่งขันกันอย่างดุเดือด ต่างฝ่ายต่างเสียเลือดเนื้อมากมาย จนทะเลกลายเป็นสีแดงนั่นเอง

ธุรกิจที่ใช้กลยุทธ์ Red Ocean มีอะไรบ้าง

ร้านเสื้อผ้าที่ลดราคากระหน่ำในช่วงเทศกาลต่าง ๆ ให้ถูกลงจากคู่แข่ง
ร้านกาแฟที่ทำโปรโมชั่นซื้อ 1 แถม 1

Blue Ocean Strategy คืออะไร

Blue Ocean คือ พื้นที่ทางธุรกิจที่เน้นการแข่งขันในการสร้างความต้องการ (Demand) ใหม่ ๆ ขึ้นมาให้กับผู้บริโภค ผ่านการสร้างสินค้าใหม่ หรือสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าที่มีอยู่แล้ว ซึ่งถือเป็นตลาดที่มีการแข่งขันไม่สูงมาก และมีคู่แข่งน้อย แต่การใช้กลยุทธ์นี้จะต้องอาศัยความรอบคอบในการสำรวจตลาด และเรียนรู้พฤติกรรมของลูกค้า เพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ตรงกลุ่ม

ซึ่งธุรกิจที่ใช้กลยุทธ์ Blue Ocean จะไม่ต้องไปแข่งขันในตลาดที่มีคู่แข่งเป็นจำนวนมาก แต่จะเป็นการเปลี่ยนความต้องการที่มีอยู่เดิมจากตลาด Red Ocean ให้มีความต้องการใหม่ ในตลาดใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อน สร้างฐานลูกค้าที่มั่งคง ทำให้มีการเติบโตที่มั่นคงและได้ผลกำไรสูง

ธุรกิจที่ใช้กลยุทธ์ Blue Ocean มีอะไรบ้าง

บริษัท Apple ในยุคสตีฟ จ็อบส์ เป็น CEO (iPod, iPhone, iPad, Macbook Air)
Netflix ที่เปลี่ยนพฤติกรรมผู้บริโภคจากเช่าหนังเป็นแผ่นที่ร้าน Blockbuster ให้สามารถดูหนังออนไลน์ผ่านแอป Netflix ได้ที่บ้าน จ่ายค่า subscription เป็นรายเดือนแทน

ความแตกต่างของ Red Ocean กับ Blue Ocean

ตลาด : Red Ocean จะเป็นการแข่งขันในตลาดที่มีคนทำมาก่อนแล้วในตลาด ในส่วนของ Blue Ocean จะแข่งขันในตลาดที่ไม่เคยมีใครลองทำมาก่อน
การแข่งขัน : Red Ocean จะมีจำนวนคู่แข่งจำนวนมาก เพราะมีสินค้าและบริการที่เหมือน ๆ กัน ส่วน Blue Ocean มักจะมีคู่แข่งน้อย หรือไม่มีมาก่อน
ความต้องการ : Red Ocean จะเน้นความต้องการในปัจจุบันในตอนนี้ อย่างพวกสินค้าอุปโภคบริโภค ส่วน Blue Ocean จะมุ่งสร้างความต้องการใหม่แทน
จุดมุ่งหมาย : Red Ocean โอกาสที่จะชนะในน่านน้ำนี้คือการทำให้เติบโตมั่นคง ได้ผลกำไรสูง ส่วน Blue Ocean จะเน้นการตอบสนองความต้องการของสินค้า บริการหรือลูกค้าสูงที่สุด

อ้างอิงจาก