ในทุก ๆ ปีจะมีการจ่ายภาษีประจำปี จะมีคำที่เราต่างคุ้นเคยนั่นก็คือ การลดหย่อนภาษี ยิ่งเรามีค่าลดหย่อนเยอะ ก็อาจทำให้เราเสียภาษีน้อยลง หรือมีเงินคืนภาษีกลับมาอีกด้วย แล้วสำหรับมือใหม่ที่ยังไม่เคยลดหย่อนภาษี สงสัยไหมว่าทำไมเราต้องลดหย่อนภาษี แล้วมีภาษีอะไรบ้างที่สามารถลดหย่อนได้ เดี๋ยว ACU PAY จะสรุปให้ฟัง
ความหมายของ “ค่าลดหย่อน” หรือ “ค่าลดหย่อนภาษี” คือ รายการที่กฎหมายกำหนดไว้ให้นำไปหักออกจากเงินได้เพิ่มขึ้นหลังจากที่หักค่าใช้จ่ายแล้ว ซึ่งมาจากวิธีการคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาที่เรียกว่า วิธีคำนวณภาษีจากเงินได้สุทธิ ดังนี้
รายได้ (ต่อปี) – ค่าใช้จ่าย – ค่าลดหย่อน = เงินได้สุทธิ
เงินได้สุทธิ x อัตราภาษี = เงินภาษีที่ต้องจ่าย
ข้อดีที่สุดในเรื่องการลดหย่อนภาษี คือ การมีเงินเก็บมากขึ้น อย่างการซื้อบ้าน ประกันชีวิต ประกันสุขภาพของเรา หรือประกันสุขภาพให้พ่อแม่ ทางสรรพากรก็ให้สิทธิเราลดหย่อนได้ รวมถึงการลงทุน SSF หรือ RMF
นอกจากลดหย่อนภาษีให้ถูกต้องแล้ว การลดหย่อนภาษีให้เข้ากับไลฟ์สไตล์และความจำเป็นของแต่ละคน ก็ทำให้เราสามารถได้รับประโยชน์จากเงินที่จ่ายไปให้คุ้มค่า
การลดหย่อนกองทุน SSF และ RMF มีเงื่อนไขแตกต่างกันออกไปในแต่ละปี ซึ่งถ้าหากทำผิดเงื่อนไข แน่นอนว่าจะมีค่าปรับด้วย โดยทางสรรพากรจะมีค่าปรับสูงถึง 1.5% ต่อเดือน เทียบได้กับค่าปรับบัตรเครดิตเลย เพราะแบบนี้ เราควรศึกษาเรื่องการลดหย่อนภาษีให้ดี จะได้ช่วยลดโอกาสปวดหัวและไม่ต้องเสียค่าปรับให้วุ่นวายทีหลัง
1. ค่าลดหย่อนภาษีส่วนตัว และครอบครัว
2. ค่าลดหย่อนภาษี จากการซื้อประกัน การออมเงิน และการลงทุน
3. ลดหย่อนภาษีด้วยเงินบริจาค
4. ลดหย่อนภาษีเพิ่มเติมผ่านมาตรการรัฐ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ
เมื่อเรารู้แล้วว่าทำไมต้องลดหย่อนภาษีและค่าใช้จ่ายไหนสามารถลดหย่อนได้บ้าง ก็อย่าลืมวางแผนภาษีให้ดี ว่าเราจะเลือกลดหย่อนภาษีผ่านช่องทางไหน อาจเลือกลงทุนในกองทุนรวม บริจาค หรือซื้อประกันชีวิตประกันสุขภาพ ก็สามารถเลือกได้ตามไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของแต่ละคน และต้องศึกษาให้ดี เพื่อระวังค่าปรับที่อาจเจอถ้าเราทำผิดเงื่อนไข