fbpx
Search
Close this search box.

แก๊งคอลเซนเตอร์มีหนาว!
กฎหมายปราบอาชญากรรมออนไลน์ มีผลบังคับใช้แล้ว

กรี๊ด…ดีใจมาก แก๊งพี่คอลเซ็นเตอร์ โทรมาไม่เว้นวัน โทรมาไม่มีหยุด คนที่รู้ทันก็เอาตัวรอดได้ แต่คนที่ไม่รู้ ก็ตกเป็นเหยื่อมากมาย ตอนนี้มีกฎหมาบปราบอาชญากรรมออกมาสักที งานนี้แก๊งคอลฯ มีหนาวแน่นอนค่า

สรุปสาระสำคัญ พระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. 2566 ดังนี้

มาตรา 4 เมื่อมีเหตุอันควรสงสัยเกี่ยวกับการกระทําความผิดอาชญากรรมเทคโนโลยี สถาบันการเงิน ผู้ให้บริการ เครือข่ายโทรศัพท์/อินเทอร์เน็ตและผู้ให้บริการอื่นที่เกี่ยวข้องสามารถเปิดเผยแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกันได้ สะดวกรวดเร็ว ผ่านระบบ/กระบวนการที่มีประสิทธิภาพ เพื่อให้หน่วยงานรัฐ เช่น ตํารวจ สามารถนําข้อมูล ดังกล่าวไปใช้ประโยชน์ในการจัดการอาชญากรรมทางเทคโนโลยีได้ทันท่วงที

โดยที่ผ่านมาธนาคาร ไม่มีอํานาจในการเปิดเผยแลกเปลี่ยนข้อมูลของ ประชาชน ทําให้ไม่สามารถช่วยแก้ไขปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ พ.ร.ก. นี้ จะสร้างระบบให้หน่วยงานต่างๆ ทํางานร่วมกันได้อย่างสะดวก รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

มาตรา 5 เมื่อมีเหตุอันควรสงสัยเกี่ยวกับการกระทําความผิดฯ ตํารวจ DSI หรือ ปปง. สามารถขอรับข้อมูลที่เกี่ยวข้องจากผู้ให้บริการโทรศัพท์/อินเทอร์เน็ตได้สะดวกรวดเร็วขึ้นแก้ปัญหาเดิมที่ติดขัดกฎระเบียบต่างๆ ทําให้แก้ปัญหาให้ประชาชนได้ไม่ทันท่วงที พ.ร.ก. นี้ จะช่วยลดขั้นตอนและระยะเวลาในการขอข้อมูลที่รวดเร็วขึ้น

มาตรา 6 หากมีเหตุอันควรสงสัยว่า บัญชีใดเกี่ยวข้องกับการกระทําความผิดฯ ธนาคารสามารถระงับการทําธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับบัญชีดังกล่าวได้ทันที (ระงับไว้ได้ไม่เกิน 7 วัน) และสามารถแจ้งต่อให้ธนาคารอื่นระงับ ธุรกรรมที่เกี่ยวข้องได้ด้วย นอกจากนี้ หากตํารวจ หรือ ปปง. เป็นผู้พบเหตุฯ ก็สามารถแจ้งธนาคารให้ระงับการทําธุรกรรมได้ทันทีเช่นกัน ทั้งนี้ หากพ้น 7 วันแล้ว ไม่มีหลักฐานเอาผิดได้ให้ธนาคารยกเลิกการระงับการทําธุรกรรมดังกล่าว

โดยที่ผ่านมาธนาคารตํารวจ และ ปปง. จะสามารถระงับบัญชีได้ก็ต่อเมื่อมีผู้เสียหายแจ้งความ และมีขั้นตอนต่างๆ ทําให้ไม่สามารถระงับบัญชีต้องสงสัยได้ทันท่วงที พร้อมทั้งการทํางานเชิงรุกเพื่อตรวจจับและระงับบัญชีต้องสงสัยได้ก่อนเกิดเหตุ ซึ่งเป็นการตัดช่องทางกระทําความผิดของอาชญากร

มาตรา 7 หากประชาชนซึ่งเป็นผู้เสียหายเป็นผู้แจ้งว่า บัญชีใดอาจเกี่ยวข้องกับการกระทําความผิดธนาคารสามารถระงับบัญชีนั้นได้ทันที (ระงับไว้ได้ไม่เกิน 7 วัน) และธนาคารสามารถแจ้งข้อมูลต่อให้ธนาคารอื่นทราบเพื่อระงับบัญชีอื่นที่เกี่ยวข้องต่อไป โดยประชาชนผู้เสียหายต้องไปแจ้งความภายในภายใน 72 ชั่วโมง เพื่อเป็นหลักฐาน และพนักงานสอบสวนจะต้องดําเนินการเกี่ยวกับบัญชีดังกล่าวภายใน 7 วัน หากไม่มีคําสั่งให้ ะงับการทําธุรกรรมไว้ต่อไปให้ธนาคารยกเลิกการระงับการทําธุรกรรมของบัญชีนั้น

โดยการแจ้งระงับบัญชีต้องสงสัยแบบเดิมมีขั้นตอนมาก ต้องรอให้ประชาชนแจ้งความร้องทุกข์ และมีคําสั่งจากเจ้าหน้าที่ตํารวจให้ระงับบัญชีหรือการทําธุรกรรมนั้นเสียก่อน ทําให้ธนาคารไม่สามารถระงับบัญชีต้องสงสัยได้ทันท่วงที

มาตรา 8 สามารถแจ้งธนาคารทางโทรศัพท์หรือทางอิเล็กทรอนิกส์ก็ได้ (ไม่ต้องทําหนังสือเป็นทางการหรือกรอก แบบฟอร์ม) นอกจากนี้การแจ้งความเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสามารถแจ้งที่กองบัญชาการตํารวจ สืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือสถานีตํารวจใดก็ได้ทั่วประเทศ (ไปที่สถานีตํารวจ หรือแจ้งทาง ระบบอิเล็กทรอนิกส์ก็ได้)

มาตรา 9 การเปิดหรือยอมให้ผู้อื่นใช้บัญชีเงินฝากหรือหมายเลขโทรศัพท์ของตนเอง (เพื่อใช้กระทําความผิด) มีโทษจําคุก 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 300,000 บาท

มาตรา 10 และ 11 การเป็นธุระจัดหาหรือโฆษณาเพื่อให้มีการซื้อ ขาย เช่า ยืม บัญชีเงินฝาก/หมายเลขโทรศัทพ์     (เพื่อใช้กระทําความผิด) มีโทษจําคุก 2 – 5 ปี หรือปรับ 200,000 – 500,000 บาท

เป็นอย่างไรบ้างคะ พระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. 2566 คงจะลดขั้นตอนดำเนินการจากเดิมไปเยอะมาก จะได้สกัดพวกแก๊งคอลฯ ได้อย่างทันท่วงที 

โดยสามารถอ่านพรบ.ฉบับเต็มได้ที่ 140A018N0000000000100.pdf (soc.go.th)



บทความที่เกี่ยวข้อง

เพื่อนๆ สามารถติดตาม ACU PAY Thailand ผ่านช่องทางการติดตามอื่นๆ ได้ที่