หลังจากค่าไฟได้มีการปรับขึ้นลงมาตลอดในช่วงปี 66 ที่ผ่านมากนี้ ล่าสุดทางกกพ. เคาะขึ้นค่าไฟ งวดใหม่มกราคม – เมษายน 67 เฉลี่ยสูงถึง 4.68 บาท/หน่วย หลังเปิดรับฟังความเห็นไว้ 3 ทางเลือก เพื่อลดผลกระทบประชาชน แต่ต้องปรับให้สะท้อนต้นทุนบางส่วน
ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 13 กันยายน 2566 นายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน ได้มีมติเห็นชอบตรึงค่าไฟจากเดิมที่ตามปกติจะต้องจ่ายที่ 4.45 บาทต่อหน่วย ในรอบบิลเดือนกันยายนถึงธันวาคม 2566 ให้เหลือ 4.10 บาท/หน่วย และต่อมา 18 กันยายน 2566 การกระทรวงพลังงาน สามารถเจรจาทำให้ค่าไฟฟ้าลดลงมาอีกที่ 3.99 บาท/หน่วย
ล่าสุดเมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2566 ที่ผ่านมา คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) มีมติเห็นชอบให้ปรับค่า Ft ขายปลีก งวดเดือนมกราคม – เมษายน 2567 เท่ากับ 89.55 สตางค์/หน่วย ส่งผลให้อัตราค่าไฟฟ้าเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 69.07 สตางค์ต่อหน่วย รวมกับค่าไฟฟ้าฐานที่ 3.78 บาท/หน่วย ทำให้ค่าไฟฟ้าทุกประเภทเฉลี่ยรวมอยู่ที่ 4.68 บาท/หน่วย (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) จากปัจจุบัน
โดยทาง กกพ. ให้เหตุผลว่าเหตุผลในการปรับราคาค่าไฟฟ้า จากงวดกันยายน – ธันวาคม เฉลี่ยรวมที่ 3.99 บาท/หน่วยมา อยู่ที่ 4.68 บาท/หน่วย (ไม่รวมภาษีมูลค่า) เพื่อปรับให้สะท้อนต้นทุนค่าเชื้อเพลิงที่เพิ่มขึ้น และคืนต้นทุนค่าเชื้อเพลิงที่ กฟผ. รับภาระไว้บางส่วน เพื่อให้ กฟผ. มีสภาพคล่องในการดำเนินงาน และชำระคืนเงินกู้เท่าที่จำเป็น
นอกจากนี้ กกพ. ขอเชิญชวนประชาชนผู้ใช้ไฟฟ้าร่วมกันประหยัดการใช้ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ไฟฟ้าได้ง่าย ๆ 5 ป. ได้แก่ ‘ปลด’ หรือถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าลดการใช้ไฟฟ้าเมื่อใช้งานเสร็จ ‘ปิด’ หรือดับไฟเมื่อเลิกใช้งาน ‘ปรับ’ อุณหภูมิเครื่องปรับอากาศให้อยู่ที่ 26 องศา ‘เปลี่ยน’ มาใช้อุปกรณ์ประหยัดไฟเบอร์ 5 และ ‘ปลูก’ เพื่อเป็นร่มเงาลดอุณหภูมิให้กับตัวบ้าน จะสามารถช่วยลดการนำเข้าเชื้อเพลิงราคาแพง เพื่อลดภาระค่าครองชีพของตัวเองและภาระโดยรวมของชาติ
อ้างอิงตัวเลขและแถลงของสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กล่าวว่า ตัวเลขผลผลิตมวลรวมในประเทศ (GDP) ไตรมาสที่ 3 ของปี 2566 เติบโตเพียง 1.5% ตํ่ากว่าที่คาดการณ์ไว้ แตกต่างจากไตรมาสที่ 2 และไตรมาสแรก ของปี 2566 ที่ 1.8% และ 2.6% ตามลำดับ แสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจไทยยังไม่ฟื้นตัวดีหนัก
ซึ่งการขึ้นค่าไฟในช่วงต้นปี 2567 แน่นอนว่าส่งผลกระทบต่อประชาชนทั่วไป ทำให้ประชาชนมีกำลังซื้อลดลง ส่งผลให้เศรษฐกิจชะลอตัวลง อาจส่งผลต่อรายได้ของคนทำงานลดลง ส่งผลเป็นวงจรที่ซ้ำเติมกัน นอกจากนี้ภาคธุรกิจส่วนใหญ่ใช้ไฟฟ้าเป็นปัจจัยการผลิตสำคัญ การขึ้นค่าไฟจะส่งผลให้ต้นทุนการผลิตของภาคธุรกิจเพิ่มขึ้น ส่งผลต่อความสามารถในการแข่งขันของภาคธุรกิจลดลง ส่งผลให้เศรษฐกิจชะลอตัวลงได้
Cookie | Duration | Description |
---|---|---|
cookielawinfo-checkbox-analytics | 11 months | This cookie is set by GDPR Cookie Consent plugin. The cookie is used to store the user consent for the cookies in the category "Analytics". |
cookielawinfo-checkbox-functional | 11 months | The cookie is set by GDPR cookie consent to record the user consent for the cookies in the category "Functional" |
cookielawinfo-checkbox-necessary | 11 months | This cookie is set by GDPR Cookie Consent plugin. The cookies is used to store the user consent for the cookies in the category "Necessary". |
cookielawinfo-checkbox-others | 11 months | This cookie is set by GDPR Cookie Consent plugin. The cookie is used to store the user consent for the cookies in the category "Other". |
cookielawinfo-checkbox-performance | 11 months | This cookie is set by GDPR Cookie Consent plugin. The cookie is used to store the user consent for the cookies in the category "Performance". |
viewed_cookie_policy | 11 months | The cookie is set by the GDPR Cookie Consent plugin and is used to store whether or not user has consented to the use of cookies. It does not store any personal data. |