หลังจากคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบมาตรการห้ามนำเข้าเศษพลาสติกจากต่างประเทศ หลังปี 2568 เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2566 ที่ผ่านมา ภาครัฐจะยังคงผ่อนผันการนำเข้าเศษพลาสติกในพื้นที่เขตปลอดอากร เฉพาะโรงงานอุตสาหกรรมที่ใช้เศษพลาสติกเป็นวัตถุดิบในการผลิตเพื่อส่งออกตามที่ภาครัฐกำหนด รวมถึงผ่อนผันการนำเข้าเศษพลาสติกในพื้นที่ทั่วไป เฉพาะกรณีที่ไม่มีเศษพลาสติกภายในประเทศ หรือมีปริมาณไม่เพียงพอ สำหรับเป็นวัตถุดิบในการผลิตเท่านั้น ในช่วงปี 2566 และปี 2567 ก่อนจะยกเลิกการนำเข้าเศษพลาสติกทั้งหมดในปี 2568
แต่ถึงอย่างนั้น มาตรการห้ามนำเข้าเศษพลาสติกจากต่างประเทศอาจมีแนวโน้มที่จะส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการรีไซเคิลพลาสติก เนื่องจากโรงงานรีไซเคิลจะรับซื้อขยะพลาสติกภายในประเทศ รวมถึงนำเข้าเศษพลาสติกเพื่อนำมาผลิตเป็นเม็ดพลาสติกรีไซเคิล และในปี 2565 ประเทศไทยมีการนำเข้าพลาสติกเพิ่มขึ้น 13% จากปีก่อนหน้าถึง 179,000 ตัน คิดเป็นประมาณ 25% ของขยะพลาสติกทั้งหมด
โดย Krungthai COMPASS คาดว่าผลกระทบจากมาตรการห้ามนำเข้าเศษพลาสติกจากต่างประเทศ ประกอบกับราคาน้ำมันที่มีแนวโน้มลดลง จะทำให้ราคารับซื้อขยะพลาสติกของโรงงานรีไซเคิลในปี 2568 อยู่ในช่วง 14.8 – 15.8 บาทต่อกิโลกรัม หรือเพิ่มขึ้น 10 – 17% เมื่อเทียบกับราคารับซื้อขยะพลาสติกในปี 2565 โดยราคารับซื้อขยะพลาสติกที่ปรับราคาสูงขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีกับธุรกิจร้านรับซื้อของเก่า ที่นำมาขายให้กับโรงงานรีไซเคิล แต่ธุรกิจโรงงานรีไซเคิลกลับต้องมีอัตรากำไรลดราว 10%
ปัจจุบันประเทศไทยมีการสร้างขยะพลาสติกปริมาณประมาณ 2 – 2.5 ล้านตันต่อปี แต่ปริมาณขยะพลาสติกในประเทศที่ได้รับการรีไซเคิลมีเพียง 20% หรือประมาณ 500,000 ตันเท่านั้น ซึ่งมีอัตราการรีไซเคิลที่ต่ำเมื่อเทียบกับประเทศอื่น ๆ แต่ถ้าประเทศไทยมีระบบการจัดการขยะพลาสติกที่มีประสิทธิภาพ คาดว่าขยะพลาสติกภายในประเทศจะสามารถชดเชยรายได้ จากการนำเข้าเศษพลาสติกได้ประมาณ 1.2 – 1.4 ล้านล้านบาทต่อปี ซึ่งมาตรการยกเลิกการนำเข้าขยะพลาสติก อาจส่งผลดีให้กับการรีไซเคิลขยะพลาสติกในประเทศ เช่น PET, PE, และ PP จำนวนกว่า 1.5 – 2 ล้านตัน
นอกจากนี้ หากผู้ประกอบการของไทยนำขยะพลาสติกกลับมาใช้ประโยชน์ 100% ภายในปี 2570 ราว 1.5 ล้านตันต่อปี ตามเป้าหมาย ของภาครัฐ จะช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้มากถึง 1.55 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อปี ซึ่งเทียบได้กับการปลูกต้นไม้ 130 ล้านต้น คิดเป็นพื้นที่ป่า 1.3 ล้านไร่ หรือราว 1.3 เท่าของพื้นที่กรุงเทพฯ
Krungthai COMPASS แนะนำผู้ประกอบการรีไซเคิลพลาสติกจำเป็นต้องวางแผน และรับประกันการจัดหาขยะพลาสติกภายในประเทศที่เพียงพอ โดยเฉพาะสำหรับธุรกิจขนาดใหญ่ที่พึ่งพาการนำเข้าขยะพลาสติก นอกจากนี้ ควรเริ่มออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์พลาสติกให้สามารถนำกลับมารีไซเคิลได้ 100% ทั้งนี้รัฐบาลควรมีบทสำคัญในการส่งเสริมการแยกขยะในสาธารณะ รวมถึงสนับสนุนงบในการรีไซเคิลขยะพลาสติก
ขอบคุณข้อมูลจาก ประชาชาติธุรกิจ
Cookie | Duration | Description |
---|---|---|
cookielawinfo-checkbox-analytics | 11 months | This cookie is set by GDPR Cookie Consent plugin. The cookie is used to store the user consent for the cookies in the category "Analytics". |
cookielawinfo-checkbox-functional | 11 months | The cookie is set by GDPR cookie consent to record the user consent for the cookies in the category "Functional" |
cookielawinfo-checkbox-necessary | 11 months | This cookie is set by GDPR Cookie Consent plugin. The cookies is used to store the user consent for the cookies in the category "Necessary". |
cookielawinfo-checkbox-others | 11 months | This cookie is set by GDPR Cookie Consent plugin. The cookie is used to store the user consent for the cookies in the category "Other". |
cookielawinfo-checkbox-performance | 11 months | This cookie is set by GDPR Cookie Consent plugin. The cookie is used to store the user consent for the cookies in the category "Performance". |
viewed_cookie_policy | 11 months | The cookie is set by the GDPR Cookie Consent plugin and is used to store whether or not user has consented to the use of cookies. It does not store any personal data. |