ภาษี คือ เงินที่รัฐจัดเก็บจากประชาชนและผู้ประกอบการ เพื่อมาเป็นรายได้พัฒนาประเทศและกิจการ ที่เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม แต่ในบางประเทศทั่วโลกก็มีการเก็บภาษีในแง่มุมแปลก ๆ ที่เราอาจคาดไม่ถึง ถ้าอยากรู้ว่ามีประเทศไหนบ้าง ตาม ACU PAY มาเลย
ผู้คนจำนวนมากเชื่อว่าสาเหตุของก๊าซเรือนกระจก คือควันดำที่มาจากโรงงาน แต่ที่เดนมาร์กกลับมีมุมมองที่แตกต่างออกไป โดยสาเหตุก๊าซเรือนกระจกหลักในประเทศโซนยุโรปมาจาก ‘วัว’
จากการวิจัยพบว่าประมาณ 18% ของแก๊สเรือนกระจกในยุโรปมาจากแก๊สมีเทน ซึ่งเป็นแก๊สที่ปล่อยออกมาจากวัว ที่ย่อยผักใบเขียวช้าเกิดหมักหมมเป็นแก๊สมีเทน ที่ปล่อยออกมาผ่านการเรอและผายลม
เพื่อป้องกันภาวะโลกร้อนที่เกิดจากวัว ประเทศในยุโรปบางประเทศจึงเรียกเก็บภาษีสำหรับวัวแต่ละตัว หนึ่งในนั้นคือเดนมาร์ก ดังนั้นวัวของที่นี่จึงมีมูลค่า 110 ดอลลาร์ หรือประมาณ 4,000 บาทต่อตัว
นอกจากนี้ในประเทศนิวซีแลนด์ รัฐบาลยังได้เสนอให้เก็บภาษีก๊าซเรือนกระจกจากการเรอและปัสสาวะของวัว แกะและปศุสัตว์อื่น ๆ เพื่อต่อสู้กับปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอีกด้วย
การตั้งชื่อลูกเป็นเรื่องที่ยากอยู่แล้ว แต่ในประเทศสวีเดน การตั้งชื่อลูกจะต้องตั้งผ่านการตรวจสอบจากเอเจนซีก่อนจะตั้งชื่อลูกได้ ซึ่งเด็กจะต้องมีชื่อก่อนอายุ 5 ขวบ ถ้าผู้ปกครองชาวสวีดิชตั้งชื่อลูกไม่ผ่านตามเงื่อนไข พวกเขาจะโดนปรับ 5,000 kroner หรือประมาณ 20,000 บาท ซึ่งนี่เป็นกฎหมายที่บัญญัติขึ้นในปี 1982 เพื่อป้องกันการตั้งชื่อประชาชนไม่ให้ซ้ำกับชื่อของราชวงศ์ และยังปกป้องเด็กจากชื่อที่ไม่เหมาะสมด้วย
ในประเทศญี่ปุ่น มีกฎหมาย “Metabo” ที่โด่งดังในญี่ปุ่น กำหนดให้ผู้ชายและผู้หญิงที่มีอายุระหว่าง 40 และ 75 ปีต้องวัดรอบเอวเป็นประจำทุกปี โดยผู้ชายไม่เกิน 85 ซม. และผู้หญิงไม่เกิน 90 ซม. ซึ่งถ้าหากรอบเอวของพวกเขาเกินขนาดที่กำหนด ก็จะต้องจ่ายค่าปรับ
ซึ่งภาษีความอ้วนของญี่ปุ่น ได้รับการชื่นชมว่าเป็นความพยายามที่จะเอาชนะการเพิ่มอัตราโรคอ้วนและยุติการแพร่กระจายของโรคต่าง ๆ เช่น โรคเบาหวาน เป็นต้น
ทุก ๆ ปี ในประเทศจีนจะทำตะเกียบใช้แล้วทิ้งประมาณ 45 พันล้านคู่ เพื่อผลิตตะเกียบจำนวนมากเหล่านี้ ประเทศจีนต้องตัดต้นไม้ประมาณ 25 ล้านต้น
ในปี 2006 รัฐบาลจีนจึงได้จัดเก็บภาษี 5% สำหรับตะเกียบไม้แบบใช้แล้วทิ้งเพื่อปกป้องและรักษาป่าไม้ที่โดนตัดทำลายไป เจ้าหน้าที่เชื่อว่ามาตรการนี้จะส่งเสริมให้ผู้คนหันมาใช้ตะเกียบพลาสติกที่ใช้ซ้ำได้แทนแบบดั้งเดิม
ย้อนกลับไป 327 ปีก่อน ในปี 1696 ที่ประเทศอังกฤษมีการเก็บภาษีหน้าต่าง ตามจำนวนหน้าต่างในบ้านแต่ละคน เนื่องจากว่าในสมัยนั้น ประชาชนชาวอังกฤษมีแนวคิดต่อการเก็บภาษีจากรายได้ เพราะคิดว่าการที่ภาครัฐรู้รายได้เป็นการละเมิดสิทธิ ทำให้ทางการอังกฤษต้องหากลยุทธ์เพื่อใช้ในการเก็บภาษี
ในสมัยนั้นการทำหน้าต่าง ถือว่าเป็นงานที่ค่าใช้จ่ายสูง ทำให้จำนวนหน้าต่างที่มาก แสดงถึงความร่ำรวยของเจ้าของบ้านได้ด้วย ซึ่งภาษีหน้าต่างก็เป็นภาษีที่เก็บกันมาหลายร้อยปี
โดยอัตราภาษีเริ่มแรกที่มาการเก็บนั้น จะเก็บที่ 2 ชิลลิ่ง กับทุกบ้านที่มีหน้าต่างน้อยกว่า 10 บาน และ ก็จะเก็บเพิ่มเติมกับบ้านที่มีหน้าต่างมากกว่านั้น ทำให้ภาษีหน้าต่างเป็นรูปแบบภาษีแบบอัตราก้าวหน้า (Progressive Tax) รูปแบบหนึ่ง
หลังจากที่มีการประกาศใช้ภาษีนี้ออกมา ก็ทำให้ผู้คนพยายามที่จะลดจำนวนหน้าต่างลงโดยการโบกปูนปิด ซึ่งภาษีนี้ก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักว่า เป็นภาษีที่ลิดรอนสิทธิของประชาชนเช่นกัน จนในปี 1851 ทางการอังกฤษก็ได้ยกเลิกการเก็บภาษีจากหน้าต่าง
ถึงจะชื่อภาษีฝน แต่ไม่ได้เกี่ยวกับฝนโดยตรง แต่อยู่ที่การแก้ปัญหาท่อระบายน้ำรวมที่เต็มไปด้วยสิ่งปฏิกูลและขยะ จากอาคารบ้านเรือนและบริษัทห้างร้านต่าง ๆ ซึ่งระบบกำจัดของเสียรวมก็ไม่อาจทำงานได้เต็มที่ ในช่วงที่มีฝนตกจนเกิดน้ำท่วมขังในพื้นที่ต่าง ๆ เป็นประจำ
โดยประชาชนในเมืองต้องยอมจ่ายภาษีในอัตราเฉลี่ย 10 – 15 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 306 – 460 บาท) ต่อปี เพื่อให้หน่วยงานปกครองส่วนท้องถิ่นนำเงินภาษีนั้น มาเป็นงบในจัดการกับระบบกำจัดของเสียและการระบายน้ำในพื้นที่ราว 1.5 – 2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 46 – 61 ล้านบาท) ต่อปี
อย่างที่รู้กันว่าประเทศในยุโรปค่อนข้างปกป้องความเป็นส่วนตัวมากกว่าสหรัฐอเมริกา เลยมักมีการควบคุมบริษัทเทคโนโลยีมากขึ้น แต่ถึงอย่างนั้นเมื่อประกอบกับวิกฤตเศรษฐกิจในโซนประเทศยุโรป ประเทศโซนนี้เลยมีแนวโน้มที่จะติดตามบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่มากกว่าเดิม โดยพวกเขากล่าวว่าบริษัทเหล่านี้กำลังสร้างรายได้จากพลเมืองของตนโดยไม่ต้องจ่ายภาษีตามกำหนด
ในประเทศฝรั่งเศสจึงมีการเก็บภาษีดิจิทัลบริษัทเทคข้ามชาติอย่าง Google, Facebook, Apple ที่มีรายได้มากกว่า 750 ล้านยูโร (850 ล้านเหรียญสหรัฐ) และทำรายได้อย่างน้อย 25 ล้านยูโรในฝรั่งเศส จะต้องเสียภาษีที่อัตรา 3% โดยจะมีผลย้อนหลังไปจนถึงช่วงต้นปี 2019
รัฐเกรละ (Kerala) ทางตอนใต้ของประเทศอินเดีย หลังได้รับการจัดอันดับว่าเป็นรัฐที่มีประชากรเด็กและเยาวชนน้ำหนักเกินเกณฑ์มากเป็นอันดับสองของประเทศในปี 2015 ทางรัฐได้ประกาศขึ้นภาษีในอาหารอุดมไขมัน หรือ ‘Fat Tax’
โดยอาหารที่ตกเป็นเป้าหมายเป็นพิเศษ ได้แก่ เบอร์เกอร์ และพิซซ่า .ึ่งทางรัฐได้เก็บภาษีจากอาหารประเภทนี้เพิ่มขึ้นประมาณ 14.5% ในร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดเชนดังอย่าง McDonald และ Domino’ Pizza
ถึงแม้ว่ามาตรการ ‘Fat Tax’ จะไม่สามารถหยุดยั้งเด็ก ๆ ให้เลิกกินอาหารขยะได้เด็ดขาด แต่อย่างน้อยก็อาจทำให้ปริมาณการบริโภคลดลงได้ เนื่องจากราคาอาหารที่แพงขึ้นจะส่งผลให้ผู้ปกครองต้องจำกัดในการทาน
สายขนมลูกกวาดหวาน ๆ ทั้งหลายที่อยู่ในเมืองอิลลินอยส์คงจะช็อกกันไม่น้อย เพราะขนมหวานทั้งหลายที่ไม่มีส่วนผสมของแป้ง ของเมืองอิลลินอยส์จะถูกคิดภาษีการขายถึง 6.25%
สำหรับชาวนิวยอร์กที่อยากกินขนมปังเป็นมื้อเช้า ไม่ว่าเบเกิลชิ้นนั้นจะหั่นครึ่ง 2 ซีกแล้วหรือมีการเตรียมท็อปปิ้งอย่างครีมชีสบนหน้าเบเกิลแล้ว เบเกิลชิ้นนั้นจะโดนคิดภาษี 8% แต่ถ้าไม่อยากจ่ายภาษีนั้น ก็ต้องยอมกินทั้งขิ้นแบบไม่ผ่า และไม่นั่งกินในร้าน
Cookie | Duration | Description |
---|---|---|
cookielawinfo-checkbox-analytics | 11 months | This cookie is set by GDPR Cookie Consent plugin. The cookie is used to store the user consent for the cookies in the category "Analytics". |
cookielawinfo-checkbox-functional | 11 months | The cookie is set by GDPR cookie consent to record the user consent for the cookies in the category "Functional" |
cookielawinfo-checkbox-necessary | 11 months | This cookie is set by GDPR Cookie Consent plugin. The cookies is used to store the user consent for the cookies in the category "Necessary". |
cookielawinfo-checkbox-others | 11 months | This cookie is set by GDPR Cookie Consent plugin. The cookie is used to store the user consent for the cookies in the category "Other". |
cookielawinfo-checkbox-performance | 11 months | This cookie is set by GDPR Cookie Consent plugin. The cookie is used to store the user consent for the cookies in the category "Performance". |
viewed_cookie_policy | 11 months | The cookie is set by the GDPR Cookie Consent plugin and is used to store whether or not user has consented to the use of cookies. It does not store any personal data. |