ในยุคหนึ่งเรามีความเชื่อที่ว่าอาหารเช้าเป็นอาหารของสมอง เรารับรู้ตั้งแต่วัยเด็กจนถึงวัยผู้ใหญ่ว่าอาหารเช้าเป็นสิ่งที่จำเป็นและสำคัญมาก ๆ ใครหลายคนที่ไม่ชอบทานอาหารเช้ามักจะโดนมนุษย์แม่ดุกันว่า “ไม่กินข้าวเช้าแล้วจะเรียนรู้เรื่องไหม” หรือในวัยทำงานก็จะโดนพูดว่า “ไม่กินข้าวเช้าแล้วจะมีแรงทำงานไหม” แต่มื้อเช้าสำคัญจริง ๆ หรือเป็นแต่การตลาดในรูปแบบหนึ่ง วันนี้เอซียู เพย์ จะพาเพื่อน ๆ มารู้ไปพร้อม ๆ กันค่ะ
เราอยู่กับความเชื่อที่ว่าอาหารเช้าเป็นสิ่งจำเป็นและสิ่งสำคัญ การไม่ทานมื้อเช้าเป็นสิ่งผิดจะทำให้สุขภาพร่างกายไม่แข็งแรง แต่ ณ ปัจจุบันผลสำรวจล่าสุดพบว่า คนไทยจำนวนไม่น้อยที่ไม่ทานอาหารเช้าด้วยเหตุผลที่ต่างกันออกไปอย่างเร่งรีบไม่มีเวลา ไม่รู้สึกหิว ประหยัดค่าใช้จ่าย ตื่นมากินอาหารเช้าไม่ทัน
มีวิจัยฉบับหนึ่งเป็นวิจัยทางการแพทย์เกี่ยวกับภาวะโภชนาการของคนอเมริกา ประมาณ 6 หมื่นกว่าคนที่มีอายุตั้งแต่ 20-74 ปี ตั้งแต่ปี 1971 จนถึงปี 2010 เป็นเวลากว่า 40 ปี พบว่ามีประชากร 25 เปอร์เซ็นต์ที่ไม่ได้ทานอาหารเช้า แต่ยังมีสุขภาพที่ดีอยู่ ไม่ได้มีอาการเจ็บป่วย จึงทำให้นักวิจัยรุ่นใหม่ ๆ ตั้งคำถามว่าการที่คนเราไม่ทานมื้อเช้ามีผลเสียจริงไหม
มีงานวิจัยมากมายบอกว่าการทานอาหารเช้าจะทำให้ไม่อ้วนและช่วยลดความเสี่ยงเกิดโรคต่าง ๆ ได้ เช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจ แต่วิจัยเหล่านี้เป็นวิจัยที่เกิดขึ้นจากการเฝ้าสังเกต ไม่ได้เป็นการวิจัยที่ทดลองอย่างจริงจัง จึงทำให้ยังไม่มีการยืนยันที่แน่ชัดว่าการทานมื้อเช้าจะช่วยทำให้สุขภาพดีขึ้น แต่ในปี 2014 ได้มีนักโภชนาการชาวญี่ปุ่นท่านหนึ่ง แสดงผลว่าอาหารเช้าไม่มีผลต่ออัตราการเผาผลาญพลังงาน นั่นแสดงให้เห็นว่าการอดมื้อเช้าไม่ส่งผลต่อการอ้วนขึ้นหรือผอมลงของเราแต่อย่างใด ในวิจัยยังบอกอีกว่าอาหารเช้าทำให้เรามีความอยากอาหารมื้อกลางวันเพิ่มขึ้นและทานมื้อกลางวันได้เยอะขึ้น 30 เปอร์เซ็นต์
ในศตวรรษที่ 13 การทานอาหารเช้าถือเป็นเรื่องที่ผิดบาปและไม่บริสุทธิ์ ในยุคนี้ศาสนามีอิทธิพลเป็นอย่างมาก ประชาชนยึดหลักคำสอนของศาสนากันอย่างจริงจัง ในศาสตร์คาทอลิกได้มีบาปแห่งการกินเร็ว ซึ่งมีความหมายว่า ทานอาหารเช้าเร็วจนเกินไปซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความตะกละ (ความตะกละเป็น 1 ใน บาปทั้ง 7 ของศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก)
นอกจากเรื่องของศาสนาแล้วยังมีเรื่องของชนชั้นวรรณะเข้ามาเกี่ยวอีกด้วย คนชนชั้นสูงจะไม่ทานอาหารจนกว่าจะถึงเวลาเที่ยงเพราะคนที่ทานอาหารเช้าส่วนใหญ่จะเป็นผู้ที่ต้องใช้แรงงาน การทานอาหารเช้าจึงมีความหมายว่า “จน” หรืออีกความหมายหนึ่งของอาหารเช้าคือ ความอ่อนแอเพราะไม่สามารถอดทนจนถึงมื้อเที่ยงได้และในที่นี้ เด็ก คนชรา และคนป่วยเป็นข้อยกเว้นที่สามารถทานอาหารเช้าได้
คำพูดที่ว่า “อาหารเช้าเป็นมื้อที่ดีที่สุดของวัน” เกิดขึ้นครั้งแรกในปี 1944 ผ่านทางสื่อวิทยุเพื่อใช้ในการโฆษณาอาหารเช้าอย่างซีเรียลที่แค่ใส่นมก็พร้อมทาน เขียนโดยคุณ “ชาวี เครเมอร์” (แต่เรื่องราวของซีเรียลมีมาตั้งแต่ปี 1829 แล้ว) นอกจากซีเรียลที่มีคำโฆษณาชวนซื้อแล้ว ยังมีการโฆษณาอาหารเช้าอย่างเบคอนที่บอกว่า “ตื่นเช้ามากินโปรตีนกันนะ” โดยผู้ที่บอกว่าอาหารเช้านั้นสำคัญ
แล้วเราต้องทานมื้อเช้าไหม คำตอบคือ ตามที่เราสะดวกสำหรับหลายคนที่ไม่ได้ทานมื้อเช้าเป็นประจำอยู่แล้วไม่ต้องกังวลว่าร่างกายจะรับไม่ไหว มีการศึกษาจากประเทศอเมริกาพบว่า คนเราสามารถอยู่ในภาวะที่ร่างกายอดอาหารได้นานกว่าที่เราคิด โดยที่ร่างกายของผู้ชายสามารถอดอาหารได้ถึง 16 ชั่วโมง และร่างกายของผู้หญิงอดอาหารได้ถึง 14 ชั่วโมง โดยที่ไม่ส่งผลเสียต่อร่างกาย
เป็นยังไงกันบ้างเรื่องราวของการตลาดกับอาหารเช้าสนุกกันไหมเอ่ย เหมือนว่าการทานอาหารเช้าจะเป็นความเชื่อและวัฒนธรรมมากกว่า แต่การทานอาหารที่ดีคือการทานสิ่งที่มีประโยชน์ สำหรับมื้อเช้าที่ดีควรเป็นอาหารที่มีโปรตีนสูงและย่อยง่าย เช่น ธัญพืช ชีส นม ไข่ ปลา ไก่ ผักใบเขียว ถั่วชนิดต่าง ๆ เป็นต้น ขอให้เพื่อน ๆ ดูแลสุขภาพกันด้วยนะคะ
Cookie | Duration | Description |
---|---|---|
cookielawinfo-checkbox-analytics | 11 months | This cookie is set by GDPR Cookie Consent plugin. The cookie is used to store the user consent for the cookies in the category "Analytics". |
cookielawinfo-checkbox-functional | 11 months | The cookie is set by GDPR cookie consent to record the user consent for the cookies in the category "Functional" |
cookielawinfo-checkbox-necessary | 11 months | This cookie is set by GDPR Cookie Consent plugin. The cookies is used to store the user consent for the cookies in the category "Necessary". |
cookielawinfo-checkbox-others | 11 months | This cookie is set by GDPR Cookie Consent plugin. The cookie is used to store the user consent for the cookies in the category "Other". |
cookielawinfo-checkbox-performance | 11 months | This cookie is set by GDPR Cookie Consent plugin. The cookie is used to store the user consent for the cookies in the category "Performance". |
viewed_cookie_policy | 11 months | The cookie is set by the GDPR Cookie Consent plugin and is used to store whether or not user has consented to the use of cookies. It does not store any personal data. |