เคยไหมวางแผนเก็บเงินออมเงินเท่าไหร่ เงินก็ไม่พอใช้สักที นั่นก็เป็นเพราะภาวะเงินเฟ้อทำให้ของแพงขึ้น ในขณะเดียวกันรายได้ของมนุษย์เงินเดือนเรา ๆ นั้นกลับคงที่ ทำให้รายจ่ายสวนทางกับรายได้ แล้วยุคเงินเฟ้อแบบนี้ เราควรมีแผนการออมเงินแบบไหนถึงจะดี วันนี้ ACU PAY จะมาบอก 4 ทริคดี ๆ ให้
เงินเฟ้อ คือ ภาวะเศรษฐกิจที่สินค้าและบริการมีการปรับราคาสูงขึ้น นั่นหมายความว่า เราจะซื้อของในปริมาณที่น้อยลง แต่ราคากลับแพงขึ้น ในขณะที่เงินเดือนนั้นกลับเท่าเดิมไม่ได้รับการปรับขึ้นตามอัตราของเงินเฟ้อ จากที่เคยกินข้าวอิ่มในราคา 30 บาท ก็ซื้อข้าวกินในราคาที่แพงขึ้นเป็น 50 บาท ส่งผลให้คุณภาพชีวิตลดลง ซึ่งบางคนอาจต้องหาแหล่งเงินกู้มาชดเชยรายจ่ายที่เพิ่มขึ้นในชีวิตประจำวัน
ทริคเก็บเงิน รับมือสภาวะเศรษฐกิจเงินเฟ้อ สามารถนำไปปรับใช้ได้ตามเหมาะสม ตามนี้
โดยการออมเงินที่แนะนำคือ การออมเงินอย่างน้อย 10% ของรายได้ต่อเดือน แล้วนำเงินส่วนหนึ่งไปฝากธนาคารที่ให้ดอกเบี้ยใกล้เคียงกับอัตราเงินเฟ้อ เพราะส่วนใหญ่แล้วในช่วงที่ยิ่งมีสภาวะเงินเฟ้อมากเท่าไหร่ การจะจับจ่ายใช้สอยหรือลงทุนอะไรก็จะมีความเสี่ยงมากกว่าช่วงเศรษฐกิจปกติ ทำให้การออมเงินถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ช่วยดูแลเงินไว้ได้ แนะนำให้ออมเงินแบบฝากประจำจะได้ดอกเบี้ยที่ค่อนข้างสูง มีทั้งแบบนำเงินก้อนไปฝาก กับการทยอยฝากเงินด้วยจำนวนที่เท่า ๆ กันทุกเดือนนั่นเอง
ยิ่งเราพยายามเพิ่มพูนทักษะ หรือ ก้าวขึ้นเป็นตำแหน่งที่สูงขึ้น เราก็จะได้รับรายได้ที่มากขึ้น ถ้ามี Performance ที่โดดเด่น ก็อาจจะสามารถขยับเงินให้สูงขึ้นได้ภายในระยะเวลาไม่กี่ปี ดังนั้นการไม่หยุดพัฒนาตนเอง จะช่วยเปิดโอกาสใหม่ ๆ ให้เรามากยิ่งขึ้น อาจเลือกเรียนต่อ อ่านหนังสือ หรือเรียนคอร์สออนไลน์ เพื่อช่วยเสริมทักษะให้โดดเด่นยิ่งขึ้น ซึ่งทักษะเหล่านั้นอาจมาช่วยเปลี่ยนเป็นอาชีพเสริมต่อยอดรายได้ของเรามากขึ้นได้อีกด้วย ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดี ในการลงทุนกับตัวเอง
ภาษีมักเป็นเรื่องใกล้ตัวที่สร้างเรื่องปวดหัวให้กับใครหลายคน และเรามักมองข้าม นั่นก็คือ การวางแผนภาษี ซึ่งตอนวัยเริ่มทำงาน เราอาจยังไม่ต้องกังวลกับการจ่ายภาษีมา แต่เมื่อมีรายได้ที่เพิ่มขึ้น เพดานภาษีก็สูงขึ้นเช่นกัน ซึ่งการวางแผนภาษีจะช่วยให้เราลดค่าใช้จ่ายในแต่ละปีได้ กับการลดหย่อนภาษีอย่าง การซื้อกองทุนสำรองอาชีพ
การหารายได้เพิ่มเติม นอกเหนือจากรายได้ประจำ หรือ active income จะช่วยให้เราเข้าใกล้ความเป็นอิสรภาพทางการเงินได้ ซึ่งการลงทุนจึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่จะสร้าง Passive Income ได้
หลายคนคิดว่าแค่ฝากเงินในธนาคารก็พอแล้ว แต่ความจริงนั้น การฝากเงินในธนาคารในช่วงที่เงินเฟ้อสูงนั้น จะส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยหรืออัตราผลตอบแทนที่ได้รับจริง ๆ กลับมีมูลค่าลดลง
ยกตัวอย่างเช่น ดอกเบี้ยเงินฝากธนาคารร้อยละ 1.25 % ถ้าหากมีอัตราเงินเฟ้อ 1 % อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงจะอยู่ที่ 0.25 %
และถ้าหากอัตราดอกเบี้ยเท่าเดิม 1.25 % แต่เงินเฟ้อเพิ่มขึ้นที่ 2 % เท่ากับว่าอัตราดอกเบี้ยแท้จริงจากการเงินฝากธนาคารนั้นจะมีมูลค่าติดลบ (-0.75 %)
นี่จึงเป็นเหตุผลที่ควรศึกษาการลงทุนที่ให้ผลตอบแทน ตั้งแต่ หุ้นกู้ ตราสารหนี้ หุ้น กองทุน ซึ่งแต่ละรูปแบบก็ให้ผลตอบแทนที่แตกต่างกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเงินเฟ้อ แนะนำว่า ถ้าหากเลือกลงทุนในตราสารหนี้ ก็ไม่ควรถือตราสารหนี้ระยะยาวมากเกินไป เพราะอาจสูญเสียมูลค่าจากการถือครองที่ปรับเปลี่ยนตามอัตราดอกเบี้ยนโยบายได้ ส่วนหุ้น อาจเลือกกลุ่มหุ้นที่ไม่เคลื่อนไหวพ้องไปกับภาวะเศรษฐกิจมาก อาจเลือกหุ้นกลุ่มสินค้าที่มีความจำเป็นในชีวิตประจำวัน
Cookie | Duration | Description |
---|---|---|
cookielawinfo-checkbox-analytics | 11 months | This cookie is set by GDPR Cookie Consent plugin. The cookie is used to store the user consent for the cookies in the category "Analytics". |
cookielawinfo-checkbox-functional | 11 months | The cookie is set by GDPR cookie consent to record the user consent for the cookies in the category "Functional" |
cookielawinfo-checkbox-necessary | 11 months | This cookie is set by GDPR Cookie Consent plugin. The cookies is used to store the user consent for the cookies in the category "Necessary". |
cookielawinfo-checkbox-others | 11 months | This cookie is set by GDPR Cookie Consent plugin. The cookie is used to store the user consent for the cookies in the category "Other". |
cookielawinfo-checkbox-performance | 11 months | This cookie is set by GDPR Cookie Consent plugin. The cookie is used to store the user consent for the cookies in the category "Performance". |
viewed_cookie_policy | 11 months | The cookie is set by the GDPR Cookie Consent plugin and is used to store whether or not user has consented to the use of cookies. It does not store any personal data. |