fbpx
Search
Close this search box.

กองทุนปันผล VS ไม่ปันผล แบบไหนดีกว่ากัน

สำหรับนักลงทุนมือใหม่ที่สนใจลงทุนในกองทุนต่าง ๆ อาจเกิดคำถามที่ว่า ควรลงทุนในกองทุนที่ให้เงินปันผลตอบแทน หรือไม่ได้รับเงินปันผล แบบไหนจะดีกว่ากัน ซึ่งครั้งนี้ ACU PAY จะพามาทำความเข้าใจกับประเภทกองทุนทั้งสองอย่างนี้กัน แล้วจะได้ตัดสินใจเลือกลงทุนให้เหมาะสมกับตัวเองกัน

“กองทุนปันผล” คืออะไร?

กองทุนปันผล (Dividend Fund) คือ กองทุนที่มีนโยบายจ่ายผลตอบแทนให้กับนักลงทุนที่ร่วมลงทุนในกองทุน โดยกำไรที่ได้มาจ่ายเป็นเงินปันผลให้กับนักลงทุนอย่างเรา ซึ่งเงินปันผลที่ได้นี้จะถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย 10%  โดยการคำนวณเงินปันผล และความถี่ในการจ่าย จะขึ้นอยู่กับนโยบายกองทุนนั้นที่กำหนดไว้ 

ข้อดีของ “กองทุนปันผล”

  • เหมาะกับคนที่ต้องการวางแผนหลังเกษียณ อยากมีเงินสดมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน
  • จะได้รับ “เงินปันผล” กลับมา จำนวนจะมากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับผลการดำเนินงานของกองทุนนั้น ๆ  
  • เป็นแหล่งสร้าง “Passive Income” มีกระแสเงินสดที่สามารถนำมาใช้จ่ายระหว่างทางได้ 
  • ทำหน้าที่ในการวางจุดขายทำกำไร (Take Profits) ให้กับเราโดยอัตโนมัติ ทำให้ได้ผลตอบแทนจากกองทุน ช่วยแก้ปัญหาเวลาที่กองทุนมีกำไรแล้วเราไม่ได้ขายออก

ข้อเสียของ “กองทุนปันผล”

  • “เสียภาษีเงินปันผลหัก ณ ที่จ่าย 10%” ทำให้ “เงินปันผล”ที่คุณได้รับไม่เต็มทั้ง 100% แต่จะได้เพียง 90% เท่านั้น
  • เงินออมปลายทางน้อย เพราะเงินปันผลไม่ได้ถูกนำมาลงทุนต่อให้งอกเงย ยิ่งกว่านั้นการจ่ายเงินปันผลออกสม่ำเสมอ อาจส่งผลให้มูลค่าของกองทุนรวมลดลงเท่ากับเงินปันผลที่จ่ายออกมาด้วยเช่นกัน

“กองทุนไม่ปันผล” คืออะไร?

กองทุนไม่ปันผล คือ กองทุนประเภทนี้จะเป็นกองทุนที่จะไม่จ่ายเงินปันผลให้กับนักลงทุน แต่ตัวกองทุนจะนำกำไรจากการลงทุนไปลงทุนต่อ ทำให้มูลค่าของกองทุนเพิ่มสูงขึ้น ทำให้เราได้เห็นพลังของดอกเบี้ยทบต้นแบบชัดเจน  (กรณีที่การลงทุนมีทิศทางที่ดีขึ้นต่อเนื่อง)

ข้อดีของ “กองทุนไม่ปันผล”

  • เหมาะคนที่ต้องการเป้าหมาย “ระยะยาว” แผนก่อนเกษียณ เพราะถึงจะมีเงินปันผลจากหุ้นที่อยู่ในกองทุนออกมาระหว่างทาง แต่ถ้ากองทุนไม่จ่ายปันผล ก็จะนำเงินก้อนนั้นมาทบเข้าไปในกองทุน และทำให้มูลค่าของกองทุนเพิ่มขึ้น
  • ไม่ต้องเสียภาษี ณ ที่จ่าย 10%” ถ้าเราขายกองทุน เราจะได้ส่วนต่างกำไร (Capital gain) เต็มจำนวน
  • กองทุนจะนำกำไรจากผลการดำเนินงานไปลงทุนต่อ (Re-invest) ทำให้เกิดการสร้างผลตอบแทนแบบทบต้น และในระยะยาวเราจะได้ผลตอบแทนก้อนใหญ่กว่ามาก

ข้อเสียของ “กองทุนไม่ปันผล”

  • ใช้ระยะเวลานาน กว่าจะได้เงินออมก้อนใหญ่ โดยจะไม่ได้ผลตอบแทนระหว่างทาง 
  • มีความเสี่ยงที่อาจไม่ได้รับเงินปันผล หากกองทุนที่ลงทุนในสินทรัพย์เกิดความผันผวนจากสภาวะเศรษฐกิจ เช่น หุ้น เมื่อกองทุนเหล่านี้ได้รับผลกระทบ เราอาจทำให้แค่ทำใจเท่านั้น

บทความที่เกี่ยวข้อง

เพื่อนๆ สามารถติดตาม ACU PAY Thailand ผ่านช่องทางการติดตามอื่นๆ ได้ที่