fbpx
Search
Close this search box.

แนะนำหนังสือ วรรณกรรมเยาวชนอบอุ่นหัวใจ “ชีวิตมหัศจรรย์ วันเดอร์” ที่นำมาทำเป็นภาพยนตร์

ชีวิตมหัศจรรย์ วันเดอร์

เป็นเรื่องปกติของชีวิตที่คนเราไม่อาจได้ทุกสิ่งทุกอย่างที่เราต้องการ ในบางครั้งเรามีความสุขแต่ในบางครั้งเราต้องเผชิญหน้ากับปัญหาหรือสิ่งเลวร้ายที่เกิดขึ้นกับตัวเราอย่างหลบเลี่ยงไม่ได้ นอกจากดำรงชีวิตอยู่กับมันต่อไป แต่จงเชื่อเถอะว่าตัวเราจะสามารถผ่านช่วงเวลานั้นมาได้อย่างแน่นอน… 

วันนี้ เอซียู เพย์ มีหนังสือ วรรณกรรมเยาวชนอบอุ่นหัวใจอย่าง ชีวิตมหัศจรรย์ วันเดอร์ (Wonder) ที่อยากให้ทุกคนได้ลองเปิดอ่านดูสักครั้ง…

ชีวิตมหัศจรรย์ วันเดอร์ เป็นการบอกเล่าเรื่องราวผ่านตัวละครอย่าง ออกัสต์ พลูแมน เด็กชายที่เชื่อมโยงกับผู้คนรอบข้าง จึงนำมาสู่เรื่องราวที่ทำให้เราได้ยิ้ม หัวเราะ และเสียน้ำตา หนังสือเล่มนี้ทำให้ผู้อ่านได้เปลี่ยนมุมมองในการใช้ชีวิตและยังให้พลังบวกกับผู้อ่านได้เป็นอย่างดี  

เรื่องราวชีวิตมหัศจรรย์ วันเดอร์

เราทุกคนล้วนมหัศจรรย์และไม่เหมือนใคร ชีวิตมหัศจรรย์ของออกัสต์ พลูแมน ไม่ใช่เรื่องราวของผู้วิเศษแต่อย่างใด แต่เป็นเรื่องราวของเด็กชายวัยประถม ที่เกิดมาพร้อมความผิดปกติบนใบหน้า และต้องเข้ารับการผ่าตัดมาแล้วถึง 27 ครั้ง เพื่อให้เขาสามารถใช้ชีวิตได้ปกติที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ 

แต่แล้ววันหนึ่งก็มีครูใหญ่มาที่บ้านแล้วบอกว่า เด็กชายออกัสต์จะได้ไปโรงเรียนเหมือนกับเด็กคนอื่นๆ ทำให้อออกัสต์ต้องถอดหมวกนักบินอวกาศออก และต้องเริ่มใช้ชีวิตในโรงเรียนร่วมกับเด็กคนอื่นๆเป็นครั้งแรก เขาได้พบทั้งเพื่อนที่เข้าอกเข้าใจและเพื่อนที่มองว่าเขาน่าเกลียด

แรงบันดาลใจของผู้เขียน ชีวิตมหัศจรรย์ วันเดอร์

อาร์. เจ. ปาลาซิโอ ผู้เขียนวรรณกรรมเยาวชนเรื่อง ชีวิตมหัศจรรย์ของออกัสต์ (Wonder) เธอเคยเป็นอาร์ตไดเร็กเตอร์ และคนออกแบบใบหุ้มปกหนังสือมาก่อน จนวันหนึ่งเธอได้รู้ตัวว่า เป็นเวลากว่า 20 ปีแล้วกับงานนี้ ถึงเวลาที่เธอควรลุกขึ้นมาเขียนหนังสือตัวเองเสียที 

โดยวรรณกรรมเยาวชนเล่มแรกของเธอได้แรงบันดาลใจมาจากเหตุการณ์จริง เมื่อเธอพาลูกชายคนเล็กไปร้านไอศกรีม แล้วลูกชายกลับร้องไห้อย่างหวาดกลัวเมื่อพบกับเด็กหญิงคนหนึ่งที่มีใบหน้าผิดปกติภายในร้าน

เธอกลัวว่าการที่ลูกชายร้องไห้จะทำให้เด็กหญิงคนนั้นรู้สึกไม่ดี จึงรีบพาลูกออกจากร้าน จนทำมิลค์เชคหก ระหว่างที่เธอกำลังลนลาน คุณแม่ของเด็กหญิงคนนั้นก็พูดด้วยเสียงนุ่มนวลว่า 

“ไม่เป็นไรนะคะคุณ เอาล่ะ แม่คิดว่าถึงเวลาที่เราต้องกลับบ้านแล้วจ้ะ”  

แค่ประโยคนั้นก็ทำให้เธอคิดได้ว่า การกระทำนั้นน่าผิดหวังเป็นที่สุด และเธอคิดว่าเธอควรที่จะสอนให้ลูกๆ ได้เข้าใจถึงความแตกต่างและปฏิบัติตนต่อผู้อื่นให้ดีกว่านี้แล้ว คืนนั้นเองเธอก็เริ่มเขียนวรรณกรรมเยาวชนเรื่องนี้ขึ้นมานั่นเอง

ความเมตตาและความรักจะเยียวยาทุกสิ่ง นั้นเป็นสิ่งที่ตระหนักได้จากการอ่านหนังสือเล่มนี้ เป็นหนังสือที่อ่านแล้วให้อะไรกับคนอ่านได้หลายอย่าง ทั้งการเห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกัน การถนอมความรู้สึกของผู้คนรอบข้าง เป็นหนังสือที่อ่านได้ทุกเพศทุกวัย 

บทความที่เกี่ยวข้อง

เพื่อนๆ สามารถติดตาม ACU PAY Thailand ผ่านช่องทางการติดตามอื่นๆ ได้ที่