พระราชบัญญัติกองทุนให้เงินกู้ยืมเพื่อการศึกษา (ฉบับที่ 2 ) พ.ศ.2566 ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2566 และมีผลบังคับใช้วันถัดไปจากวันประกาศคือตั้งแต่วันที่ 20 มีนาคม 2566 เป็นต้นไป
1. กำหนดให้เป็นทุนการศึกษาแทนการกู้ยืมเพื่อการศึกษา ในสาขาวิชาที่เป็นความต้องการหลักและมีความจำเป็นต่อการพัฒนาประเทศ
2. คณะกรรมการกองทุนฯมีหน้าที่กำหนดมาตราการช่วยเหลือให้ผู้กู้ยืมเงินมีงานทำและสามารถชำระเงินคืนกองทุน
3. ไม่มีผู้ค้ำประกันในทุกกรณี
4. กรณีจำเป็นและสมควร จะจ่ายกู้ยืมเพื่อการศึกษาเกินจำนวนปีที่กำหนดไว้ในหลักสูตรก็ได้
ทั้งนี้รวมถึงอัตราดอกเบี้ยไม่เกินร้อยละ 1 ต่อปี และไม่มีการคิดดอกเบี้ยทบต้น กรณีผิดนัดชำระเงินคืนกองทุน ผู้กู้ยืมเสียเงินเพิ่มอีกไม่เกิน 0.5% ต่อปี
ความสำคัญของกองทุนให้เงินกู้ยืมเพื่อการศึกษา เพื่อเป็นการเปิดโอกาสให้บุคคลที่มีความขาดแคลนทางด้านทุนทรัพย์แต่ต้องการศึกษาต่อ ให้กู้ยิมเงินด้วยอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำ กล่าวคือพอจบการศึกษาก็สามารถใช้เงินคืนได้อย่างสบายๆ โดยสถิติปัจจุบันของผู้กู้ยืม ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2565 มีดังนี้
ผู้กู้ยืมเงินกองทุน : 6,468,483 ราย
อยู่ระหว่างการชำระหนี้ 3,518,896 ราย คิดเป็น 55 %
อยู่ระหว่างช่วงปลอดหนี้ 1,170,063 ราย คิดเป็น 18 %
ชำระหนี้เสร็จสิ้น 1,709,850 ราย คิดเป็น 26 %
เสียชีวิตทุพลภาพ 69,674 ราย คิดเป็น 1 %
เพื่อเป็นการเปิดโอกาสทางการศึกษาให้น้องๆรุ่นถัดไป ทางที่ดีผู้กู้ยืมเงินกยศ.มาแล้ว ควรจะใช้คืนทางกำหนด หรือถ้าไม่สามารถที่จะใช้คืนได้ขณะนั้น ก็สามารถติดต่อเพื่อผ่อนผันกับทางกยศ.ก่อนวางแผนปรับโครงสร้างหนี้
โดยสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
หน้าหลัก | กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) (studentloan.or.th)
กยศ. Call Center 0-2016-4888
Application กยศ.Connect