fbpx
Search
Close this search box.

รวมเส้นทางรถไฟที่สวยที่สุดในโลก ต้องไปสักครั้งในชีวิต!

ลองเปลี่ยนการเที่ยวแบบตั้งใจไปที่จุดหมายไหนจุดหมายหนึ่ง เป็นการเที่ยวแบบไม่ต้องสนใจจุดหมาย แค่นั่งเอนจอยชื่นชมบรรยากาศความสวยงามของธรรมชาติระหว่างทางก็มีความสุขไปอีกแบบนะ ซึ่งครั้งนี้ เอซียูเพย์จะพาไปส่องเส้นทางรถไฟที่ขึ้นชื่อว่าสวยที่สุด สวยเหมือนไม่มีอยู่จริง ยิ่งกว่าภาพวาด จะมีที่ไหนบ้าง ตามมาดูกันเลย 

Glacier Express, Switzerland

เส้นทางรถไฟที่ชื่อว่าเป็นเส้นทางที่สวยที่สุดและเป็นรถขบวนที่ช้าที่สุดในโลก ใครที่มาเที่ยวประเทศสวิตเซอร์แลนด์ บอกเลยว่าห้ามพลาด กลาเซียร์เอ็คส์เพร็ส เส้นทางระหว่างเมืองแชร์มัท (Zermatt) – ซังคท์โมริทซ์ (St.Moritz/Davos) ระยะทางกว่า 300 กิโลเมตร ซึ่งภายในรถไฟจะเป็นกระจกหน้าต่างขนาดใหญ่เหมาะสำหรับการชมวิวมาก พร้อมบริการอาหารสุดลักชูรีตลอดเส้นทาง โดยระหว่างทางรถไฟก็จะวิ่งช้าๆ ลัดเลาะผ่านวิวสวยๆ ผ่านเมือง อันเดอร์มัท ในเทือกเขาแอลป์ (Swiss Alps) ด้วยระยะเวลากว่า 8 ชั่วโมงด้วยกัน เรียกได้ว่าชมวิวกันเต็มอิ่มเลยทีเดียว

Jacobite Steam Train, Scotland

รถไฟที่ใครหลายคนอาจคุ้นตา เพราะจาโคไบต์ ที่ปรากฏเป็นรถไฟสายด่วนของฮอกวอตส์ ในหนังเรื่อง แฮร์รี่ พอตเตอร์ นั่นเอง รถไฟนี้จะเปิดให้บริการระยะทางสั้น ๆ ระหว่างเมือง ฟอร์ต วิลเลียม (Fort William) และ มาลิก (Mallaig) รวมระยะทางไปกลับเพียง 135 กิโลเมตร และขบวนนี้จะเปิดเฉพาะในฤดูร้อนเท่านั้น ทำให้เราได้เห็นวิวทิวทัศน์สีเขียวสองข้างทาง ผ่านหุบเขาและทะเลน้ำจืด พร้อมกับบรรยากาศเส้นทางรถไฟสุดคลาสสิค แล่นบนสะพานคอนกรีตที่ยาวที่สุดในสกอตแลนด์อย่าง เกล็นฟินแนน เวียดัคท์ (Glenfinnan Viaduct) สะพานที่สร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1897 ซึ่งสะพานรถไฟแห่งนี้เอง ยังเป็นอีกหนึ่งสถานที่ถ่ายทำในแฮร์รี่ พอตเตอร์ อีกด้วย

Rocky Mountaineer, Canada

นั่งรถไฟท่องเที่ยวสุดลักชูรีของแคนาดา ภายในรถไฟเป็นห้องโดมกระจกที่สามารถชมวิวได้แบบ 180 องศา พร้อมบริการเมนูชั้นเลิศโดยเชฟแนวหน้า โดยเส้นทางรถไฟเดินทางจาก แวนคูเวอร์ (Vancouver) ไปยังทะเลสาบหลุยส์ (Lake Louise) ที่ค่อย ๆ ไต่ระดับความสูงไปชมเทือกเขา ระหว่างทางจะได้พบกับวิวธรรมชาติทั้งเทือกเขาสูงปกคลุมด้วยหิมะบนยอดเขา เห็นน้ำตกไหลผ่าน แถมสัตว์ป่าอย่าง น้องหมี กวาง และเหยี่ยว ที่ออกมาให้นักท่องเที่ยวได้เก็บภาพไว้

Kandy — Ella, Sri Lanka

ทางรถไฟแคนดี้ไปเอลล่า ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นทางรถไฟที่สวยที่สุดในศรีลังกา ให้บริการเส้นทางจากแคนดี้ (Kendy) ไปเอลล่า (Ella) ด้วยระยะทาง 140 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 7 ชั่วโมง รถไฟขบวนสีฟ้าน่ารักปุ๊กปิ๊ก แต่ก่อนทางรถไฟนี้สร้างขึ้นโดยรัฐบาลอังกฤษเพื่อขนส่งใบชา และกาแฟจากยอด ดังนั้นระหว่างทางเราเลยจะเห็นไร่ชาเป็นส่วนใหญ่ รายล้อมไปด้วยภูเขา น้ำตก และหมู่บ้านชนบทในศรีลังกา ด้วยความที่รถไฟขบวนนี้ไม่มีแอร์ ทำให้ตลอดเส้นทาง เราจะได้สัมผัสรับลมธรรมชาติแบบเต็มปอด ยิ่งถ้าไปช่วงปลายฝนต้นหน้าหนาวคงจะได้บรรยากาศดีแบบสุด ๆ บอกเลยว่าสายฮิปสายชิลห้ามพลาดทริปนี้

Pacific Surfliner, United States

ใครเบื่อนั่งรถไฟเห็นแต่วิวสีเขียวของป่ากับภูเขา ต้องมาลองนั่งรถไฟที่แปซิฟิก เซิร์ฟไลเนอร์ดู เพราะรถไฟที่นี่เขาวิ่งเลาะเรียบชายฝั่งทะเลทั้ง 6 ของทางตอนใต้แคลิฟอร์เนียกว่า 564 กิโลเมตร โดยเส้นทางนี้จะผ่านจุดเส้นทางหลักอย่าง ซานดิเอโก ออเรนจ์ ลอสแองเจอริส เวนทูรา ซานต้า บาร์บาร่า และซานลุยส์โอบิสโป เมืองเล็ก ๆ ในรัฐแคลิฟอร์เนีย บอกเลยว่าไฮไลท์ของรถไฟสายนี้คือเราจะได้เห็นเส้นทางที่ผ่านทั้งทะเลสีฟ้าครามประกายระยิบระยับ ชายหาดกว้างสุดตา สลับกับภูเขาเล็ก ๆ มีจุดแวะพักหลายที่มาก ใครมาแถวโซนแคลิฟอร์เนีย ที่อเมริกา ก็ลองมาแวะนั่งดูได้

Rovos Rail's Namibia Safari, South Africa

เส้นทางรถไฟโรโวส เป็นเส้นทางชมซาฟารีในนามิเบีย ผ่านพื้นที่ป่ากว่า 3,219 กิโลเมตร ให้อารมณ์เหมือนมาดูซาฟารีที่สวนสัตว์แต่หรูกว่า นั่งจิบแชมเปญชมน้อง ๆ สัตว์ป่าข้างทางสุดเอ็กซ์คลูซีฟ ทั้งม้าลาย กวาง ช้าง แรด เหยี่ยว สิงโต เรียกได้ว่าเห็นวิถีสัตว์ป่าแบบจุใจเลยทีเดียว ซึ่งเส้นทางรถไฟนี้จะเริ่มที่เมือง พริทอเรีย (Pretori) ผ่านเมืองคิมเบอร์เลย์ (Kimberley) เหมืองเพชรขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ก่อนจะกลายเป็นหลุมยักษ์ที่เต็มไปด้วยน้ำสีฟ้าคราม แวะพักผ่อนที่เมืองวินฮอร์ค (Windhoek) ก่อนจะไปสิ้นสุดที่ วอลวิส เวย์ (Walvis Bay) แถมยังได้แวะชมพิพิธภัณฑ์ แวะถ่ายรูปกันแบบจัดเต็ม บอกเลยว่าคุ้ม

Trans-Siberian Railway, Russia

รถไฟที่ยาวที่สุดในโลก ด้วยระยะทางกว่า 9,289 กิโลเมตร นั่นก็คือ รถไฟเส้นทางทรานส์-ไซบีเรียน ประเทศรัสเซีย โดยรถไฟเส้นนี้จะเดินทางจากกรุงมอสโก ข้ามผ่านเทือกเขาอูราล ผ่านป่ากลางหุบเขา ก่อนจะถึงเมืองวราดิวอสสตอก ซึ่งทริปนี้ใช้ระยะเวลาถึง 7 วัน เรียกได้ว่าเป็นเส้นทางที่โหดมาก เพราะวิ่งข้ามผ่านถึง 3 ประเทศอย่าง รัสเซีย มองโกเลีย และจีน เรียกได้ว่านอกจากเราจะได้เห็นวิวธรรมชาติที่แตกต่างกันแล้ว เรายังได้สัมผัสถึงความแตกต่างของวัฒนธรรม ภาษา อาหารการกินของคนในพื้นที่นั้นอีกด้วย ส่วนจุดแลนด์มาร์กที่จะได้เห็นในเส้นทางรถไฟนี้ คือ สะพานข้ามแม่น้ำ ที่มีความยาว 984 เมตร ของเมือง โนโวสิเบริซ์ ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองใหญ่อันดับที่ 3 ของประเทศรัสเซีย และ ทะเลสาบไบคาล ทะเลสาบน้ำจืดสีน้ำเงินที่ใหญ่ที่สุดในโลก 

บทความที่เกี่ยวข้อง

เพื่อนๆ สามารถติดตาม ACU PAY Thailand ผ่านช่องทางการติดตามอื่นๆ ได้ที่