fbpx
Search
Close this search box.

รวม 10 กองทุนแค่บาทเดียวก็เสียวได้ ปี 2022

10กองทุนรวมเริ่มต้นที่-1-บาท

           การลงทุนเพียง 1 บาท แน่นอนว่าไม่ได้ทำให้เราได้กำไรเป็นกอบเป็นกำ แต่สำหรับใครที่อยากลองซื้อ หรือเริ่มต้นลองลงทุนเป็นครั้งแรก เหมาะมากๆ เพื่อเป็นการทำความเข้าใจในการซื้อขายจริงซึ่งลงทุนขั้นต่ำเพียง 1 บาท

10 กองทุนเริ่มต้น 1 บาท มีอะไรบ้างมาดูกันเลย

        กองทุนลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งตราสารแห่งทุนโดยมี net exposure ในตราสารดังกล่าว โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินของกองทุนรวม โดยเน้นลงทุนในหุ้นทุนที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยที่เป็นส่วนประกอบของดัชนี SET50 ซึ่งจะจำลองการเคลื่อนไหวของดัชนี SET50 เพื่อให้กองทุนมีผลตอบแทนใกล้เคียงกับอัตราผลตอบแทนของดัชนี SET50 มากที่สุด

       กองทุนมีนโยบายที่จะพยายามลงทุนในหุ้นเต็มอัตรา (fully invested) เพื่อให้สามารถสร้างผลตอบแทนที่ใกล้เคียงกับดัชนี SET50 ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ บริษัทจัดการขอสงวนสิทธิ์ที่จะเปลี่ยนดัชนีที่กองทุนใช้อ้างอิงในการสร้างผลตอบแทนเป็นดัชนีอื่นใดแทนดัชนี SET50 ในกรณีที่ดัชนีดังกล่าวถูกยกเลิกหรือจะไม่มีการคำนวณอีกต่อไป โดยดัชนีที่จะนำมาใช้แทนจะต้องเป็นดัชนีที่วัดผลตอบแทนของการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยโดยรวม กองทุนจะใช้กลยุทธ์การบริหารกองทุนเชิงรับ (Passive management strategy) เพื่อสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนให้ใกล้เคียงกับผลตอบแทนของดัชนี SET50 โดยกองทุนจะเลือกลงทุนเฉพาะในหุ้นสามัญของบริษัทต่างๆ ในสัดส่วนที่เท่าหรือใกล้เคียงกับน้ำหนักที่เป็นส่วนประกอบของดัชนีดังกล่าว

      เน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศเพียงกองทุนเดียว (Feeder Fund) โดยลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน Invesco DB Oil Fund ซึ่งเป็นกองทุนที่บริหารจัดการโดย Invesco Capital Management LLC กองทุนดังกล่าวเป็นกองทุนรวมอีทีเอฟที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก (New York stock Exchange : NYSE Arca) มีนโยบายลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบ West Texas Intermediate (WTI) เพื่อให้ได้ผลตอบแทนใกล้เคียงกับผลตอบแทนของดัชนี DBIQ Optimum Yield Crude Oil Index Excess Return ซึ่งเป็นดัชนีที่มุ่งสะท้อนการเปลี่ยนแปลงของมูลค่าน้ำมันดิบ West Texas Intermediate (WTI) โดยกองทุนมี net exposure ในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศดังกล่าวโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน และมีการลงทุนที่ส่งผลให้มี net exposure ที่เกี่ยวข้องกับความเสี่ยงต่างประเทศโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน โดยกองทุนจะลงทุนหรือมีไว้ในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนของหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินในสกุลเงินต่างประเทศที่กองทุนถืออยู่เทียบกับสกุลเงินบาท ณ ขณะใดขณะหนึ่ง ไม่น้อยกว่าร้อยละ 90 ของมูลค่าทรัพย์สินที่ลงทุนในต่างประเทศ

     กองทุนจะใช้นโยบายในการบริหารเชิงรับ (Passive Investment Strategy) โดยกองทุนจะเน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน Invesco DB Oil Fund ในอัตราส่วนโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ซึ่งเป็นกองทุนรวมอีทีเอฟ ที่ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก (New York Stock Exchange : NYSE Arca) ที่มีนโยบายลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบ West Texas Intermediate (WTI) เพื่อให้ได้ผลตอบแทนใกล้เคียงกับผลตอบแทนของดัชนี DBIQ Optimum Yield Crude Oil Index Excess Return TM ซึ่งเป็นดัชนีที่มุ่งสะท้อนการเปลี่ยนแปลงของมูลค่าน้ำมันดิบ West Texas Intermediate (WTI) กองทุนดังกล่าวบริหารจัดการโดย Invesco PowerShares Capital Management LLC

       กองทุนจะเน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศเพียงกองเดียว (Master Fund) คือ กองทุน Brookfield Global Listed Real Estate UCITS Fund ในหน่วยลงทุนชนิด Class E (acc) – USD ซึ่งเป็น Class ที่เสนอขายผู้ลงทุนสถาบัน ไม่มีนโยบายจ่ายเงินปันผล ในอัตราส่วนโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ซึ่งจดทะเบียนในประเทศไอร์แลนด์ (Ireland) ดำเนินงานตามระเบียบของ UCITS กองทุนรวมต่างประเทศดังกล่าวบริหารจัดการโดย Brookfield Investment Funds (UCITS) Public Limited Company และลงทุนในรูปสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ

       เน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศเพียงกองทุนเดียว (Feeder Fund) ได้แก่ BGF World Real Estate Securities (กองทุนหลัก) ชนิดหน่วยลงทุน D2 USD ลงทุนในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ (USD) กองทุนหลักบริหารโดย BlackRock Global Funds จดทะเบียนภายใต้กฎหมายของประเทศลักเซมเบิร์ก และอยู่ภายใต้ UCITS กองทุนหลักมีนโยบายเพิ่มผลตอบแทนรวมสูงสุด โดยลงทุนอย่างน้อยร้อยละ 70 ของทรัพย์สินรวมในตราสารทุนของบริษัทที่มีธุรกิจหลักในภาคอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งอาจรวมถึงบริษัทที่มุ่งเน้นด้านที่พักอาศัยและ/หรืออสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์เช่นเดียวกับบริษัทที่ดำเนินงานด้านอสังหาริมทรัพย์และ real estate holding companies เช่น ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REITs) โดยกองทุนมี net exposure ในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศดังกล่าวโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน และมีการลงทุนที่ส่งผลให้มี net exposure ที่เกี่ยวข้องกับความเสี่ยงต่างประเทศโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน กองทุนหลักป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน และกองทุนเปิดไทยพาณิชย์ โกลบอล พร็อพเพอร์ตี้ อาจลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารการลงทุน (Efficient portfolio management) และ/หรือการบริหารความเสี่ยง เพื่อให้สามารถสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนได้เพิ่มขึ้น และ/หรือลดค่าใช้จ่ายของกองทุน รวมทั้งอาจลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการลงทุน เช่น การทำสัญญาสวอปและ/หรือสัญญาฟอร์เวิร์ดที่อ้างอิงกับอัตราแลกเปลี่ยน ตามที่สำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. ประกาศกำหนดหรือให้ความเห็นชอบ โดยกองทุนอาจลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน (Hedging) ตามความเหมาะสมสำหรับสภาวการณ์ในแต่ละขณะ ซึ่งขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน โดยผู้จัดการกองทุนจะพิจารณาจากปัจจัยที่เกี่ยวข้อง

      กองทุนเปิด วี ยูเอส เรียลเอสเตท ซีเคียวริตี้ จะเน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของ NEUBERGER BERMAN INVESTMENT FUNDS PLC – NEUBERGER BERMAN US REAL ESTATE SECURITIES FUND (กองทุนหลัก) Class I USD (Accumulating) ในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ เพียงกองทุนเดียวเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน

     กองทุนมีนโยบายลงทุนในหน่วย Property และ/หรือหน่วย Infra ที่จดทะเบียนทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงอยู่ระหว่างการดำเนินการกระจายการถือหน่วยลงทุนหรือเปิดเสนอขายครั้งแรก โดยส่งผลให้มี net exposure ในทรัพย์สินดังกล่าวโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ส่วนที่เหลือ กองทุนอาจลงทุนใน ตราสารทุน ตราสารหนี้ ตราสารกึ่งหนี้กึ่งทุน เงินฝาก บัตรเงินฝาก หน่วย CIS Exchange Traded Fund (ETF) ทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงอาจลงทุนในตราสารที่มีลักษณะของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแฝง (Structured Notes)ลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารการลงทุน (Efficient portfolio management) ตลอดจนหลักทรัพย์และทรัพย์สินอื่น หรือการหาดอกผลโดยวิธีอื่นที่กองทุนสามารถลงทุนได้ กองทุนอาจลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมหรือกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ (กอง1) หรือทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REITs) หรือกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน (infra) ซึ่งอยู่ภายใต้การจัดการของบริษัทจัดการ ในสัดส่วนไม่เกินร้อยละ 100 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน นอกจากนี้ อาจลงทุนหรือมีไว้ซึ่งตราสารหนี้ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือต่ำกว่าที่สามารถลงทุนได้ (Non-investment grade) และตราสารหนี้ที่ไม่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ (Unrated) รวมทั้งตราสารทุนที่ไม่ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ (Unlisted) โดยเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่สำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. กำหนด ในส่วนการลงทุนในต่างประเทศ กองทุนมีนโยบายการลงทุนที่ส่งผลให้มี net exposure ที่เกี่ยวข้องกับความเสี่ยงต่างประเทศไม่เกินร้อยละ 79 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน โดยกองทุนอาจลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน (Hedging) ตามความเหมาะสมสำหรับสภาวการณ์ในแต่ละขณะ ซึ่งขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้จัดการลงทุน

       กองทุนจะเน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศเพียงกองเดียว (Master Fund) คือ กองทุน Brookfield Global Listed Real Estate UCITS Fund ในหน่วยลงทุนชนิด Class E (acc) – USD ซึ่งเป็น Class ที่เสนอขายผู้ลงทุนสถาบัน ไม่มีนโยบายจ่ายเงินปันผล ในอัตราส่วนโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ซึ่งจดทะเบียนในประเทศไอร์แลนด์ (Ireland) ดำเนินงานตามระเบียบของ UCITS กองทุนรวมต่างประเทศดังกล่าวบริหารจัดการโดย Brookfield Investment Funds (UCITS) Public Limited Company และลงทุนในรูปสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ

        กองทุนมีนโยบายสร้างผลตอบแทนตามความเคลื่อนไหวของราคาทองคำแท่งที่เปิดเผยไว้อย่างแพร่หลาย โดยหน่วยงานซึ่งเป็นที่ยอมรับในอุตสาหกรรมผู้ค้าทองคำในประเทศไทยหรือในระดับสากล และกองทุนจะสร้างผลตอบแทนโดยอ้อมผ่านการลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมอีทีเอฟทองคำต่างประเทศ คือ SPDR Gold Trust ซึ่งกองทุนดังกล่าวจัดตั้งและจัดการโดย World Gold Trust Services, LLC ที่ถือหุ้นโดย World Gold Council (WGC) ซึ่งเป็นองค์กรที่ไม่แสวงหากำไรที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายของประเทศสวิสเซอร์แลนด์ นอกจากนี้ กองทุนดังกล่าวได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก (New York Stock Exchange: NYSE Arca) ตลาดหลักทรัพย์โตเกียว (Tokyo Stock Exchange: TSE) ตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง (Stock Exchange of Hong Kong: HKEx) และตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ (Singapore Exchange: SGX) โดยบริษัทจัดการจะมุ่งทำการซื้อขายหน่วงลงทุนในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ และใช้สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ทั้งนี้ บริษัทจัดการขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงการซื้อขายหน่วยลงทุนของกองทุนดังกล่าวในตลาดหลักทรัพย์ของประเทศอื่นๆ นอกเหนือจากประเทศสิงคโปร์ และใช้สกุลเงินต่างประเทศอื่นๆได้ภายหลัง โดยถือว่าได้รับความยินยอมจากผู้ถือหน่วยลงทุนแล้ว โดยบริษัทจัดการจะคำนึงถึงประโยชน์ของกองทุนเป็นสำคัญ โดยกองทุนมี net exposure ในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศดังกล่าวโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน และมีการลงทุนที่ส่งผลให้มี net exposure ที่เกี่ยวข้องกับความเสี่ยงต่างประเทศโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน

       อย่างไรก็ตาม การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาและควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง รวมถึงควรขอคำแนะนำเพิ่มเติมจากผู้ประกอบธุรกิจก่อนตัดสินใจลงทุน

**บทความจัดทำขึ้นเพื่อรวบรวมข้อมูลกองทุนรวม ไม่ได้มีวัตถุประสงค์ในการชี้นำการลงทุนแต่อย่างใด

บทความที่เกี่ยวข้อง

เพื่อนๆสามารถติดตาม ACU PAY Thailand ผ่านช่องทางการติดตามอื่นๆ ได้ที่