fbpx
Search
Close this search box.

พาวิเคราะห์สาเหตุ layoff ครั้งใหญ่ต้นปี 67 ของบิ๊กเทค เพราะ AI มาแทนที่จริงหรือ

พาวิเคราะห์สาเหตุ_layoff_ครั้งใหญ่ต้นปี_67_ของบิ๊กเทค_เพราะ_AI_มาแทนที่จริงหรือ
เพิ่งเริ่มต้นปีใหม่ได้ไม่นาน ตอนนี้บริษัทบิ๊กเทคชื่อดังหลายแห่งอย่าง Google, Apple, Microsoft และ Meta ได้ประกาศปลดพนักงานอย่างต่อเนื่องและมีแนวโน้มที่จะปลดต่อไปเรื่อย ๆ จากข้อมูลของ Layoffs.fyi เว็บไซต์ที่รวบรวมข้อมูลการ layoff ทั่วโลก ตั้งแต่ช่วงการแพร่ระบาด โควิด-19 จนถึงปัจจุบัน พบว่าในระยะเวลาแค่ 1 เดือนกว่าของปีนี้ มีพนักงานที่ถูกปลดไม่ต่ำกว่า 34,250 คน จากบริษัทเทคและสตาร์ทอัพ 141 แห่ง (ข้อมูลวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 67)ซึ่งถึงแม้ว่าสถานการณ์ทั่วโลกจะกลับมาเป็นปกติหลังจากการระบาดแล้ว แต่ทำไมบริษัทชื่อดังยังคงปลดคนออกอย่างต่อเนื่อง เป็นเพราะอะไร เพราะ AI จะมาแทนที่พนักงานจนหมดหรือเปล่า ครั้งนี้ ACU PAY จะพามาวิเคราะห์สาเหตุการปลดพนักงานทั่วโลกนี้กัน

เนื้อหา

ต้นปีนี้มีบริษัทเทคไหนปลดพนักงานไปแล้วบ้าง

ปีนี้กลุ่มบริษัทเทคโนโลยียังไม่มีรายไหนเลิกจ้างหลักหมื่นเหมือนปีที่แล้ว ทางบริษัทซอฟต์แวร์จากเยอรมนีอย่าง SAP ได้ทำการปรับโครงสร้าง ซึ่งกระทบตำแหน่งงานถึง 8,000 อัตรา ในจำนวนนี้จะมีทั้งที่ถูกเลิกจ้างและถูกโยกย้ายปรับเปลี่ยนตำแหน่ง ต่อเนื่องอีกในปีนี้

Amazon ปลดพนักงาน 18,000 คน หรือประมาณ 1.1% ของพนักงานทั้งหมดที่มีอยู่กว่า 1.6 ล้านคน แผนกที่ได้รับผลกระทบคือ Amazon Stores and People, Experience, Technology (PXT)

Alphabet บริษัทแม่ของ Google ปลดพนักงาน 12,000 คน คิดเป็น 6% ของพนักงานทั้งหมด 

Microsoft ปลดพนักงาน 10,000 คน คิดเป็น 5% ของพนักงานทั้งหมด เพื่อปรับโครงสร้างองค์กรเน้นการลงทุนในโปรเจ็กต์ AI ที่บริษัทมองว่าจะสร้างการเติบโตในระยะยาว

ขณะที่ Cisco ก็ได้มีการปลดพนักงาน 4,100 คน คิดเป็น 5% ของพนักงานทั้งหมด เพื่อปรับโครงสร้างองค์กรให้สมดุล

นอกจากบริษัทกลุ่มเทคโนโลยีแล้ว ยังมีกลุ่มบริษัทขนส่งและโลจิสติกส์ ที่ทำการปลดพนักงานกว่า 12,000 คน ในส่วนของกลุ่มบริษัทการเงิน 30,000 คน และในกลุ่มค้าปลีก ยานยนต์ และอุตสาหกรรมเพลงและสื่อหลายแห่ง ได้ทำการปลดพนักงานออกเช่นกัน

วิเคราะห์สาเหตุสำคัญในการปลดพนักงาน

  1. ความไม่แน่นอนในเศรษฐกิจและการจ้างงานมากเกินไป

    ทางด้าน ดร.สันติธาร เสถียรไทย นักเศรษฐศาสตร์แห่งอนาคตและคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ได้กล่าวว่าในช่วงการระบาด ถือเป็นยุคทองของบริษัทเทคโนโลยี เพราะคนทั่วโลกกระโดดเข้ามาใช้บริการดิจิทัลมหาศาล ผู้คนหันมาทำทุกอย่างผ่านออนไลน์ ทำให้เกิดการเพิ่มขึ้นของ Data และ Digital Footprint จำนวนมาก เกิดเป็นยุคของการระดมทุนในภาคเทคโนโลยีอย่างมหาศาล แต่ในปัจจุบันเมื่อโลกกลับสู่ปกติ ความต้องการด้านดิจิทัลก็ลดน้อยลงตามลำดับ เป็นผลให้บริษัทต้องปรับตัวตามนั่นเอง 

    นอกจากนี้ โรเจอร์ ลี (Roger Lee) ผู้ก่อตั้ง Layoffs.fyi ยังเคยกล่าวไว้ว่า หนึ่งในสาเหตุของการปลดพนักงานนี้อาจมาจาก อัตราการจ้างงานที่มากเกินไปในช่วงเกิดโรคระบาดโควิด-19 ซึ่งบริษัทเทคโนโลยีหลายแห่งยังคงพยายามแก้ไขปัญหานี้ และยังเกิดจากความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจ เช่น การปรับขึ้นของอัตราดอกเบี้ย และภาวะตกต่ำทางเทคโนโลยีนั้นกินเวลานานกว่าที่คาดไว้ในตอนแรกอีกด้วย

  2. การปรับโครงสร้างของบริษัท

    เป็นเรื่องปกติที่การเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของนวัตกรรมและเทคโนโลยี ทำให้หลาย ๆ บริษัทต้องปรับระบบการทำงานให้เหมาะสม เพื่อสร้างประสิทธิภาพในการทำงานให้ได้มากที่สุด ซึ่งบริษัทเทคโนโลยีหลายแห่งจึงได้ทำการลดต้นทุนและปรับโครงสร้าง กับแผนกหรือตำแหน่งที่ไม่ตอบโจทย์กับบริษัท และหันมาลงทุนกับการมาของ AI มากขึ้น 

    ยกตัวอย่างบริษัทเทคชื่อดังอย่าง Google โดยทางซีอีโอ ซุนดาร์ พิชัย ได้เคยกล่าวเปิดเมื่อตอนปีใหม่ด้วยการเตือนพนักงานไว้ว่าจะมีการลดตำแหน่งงานมากขึ้นในปีนี้ เพราะหลังจากนี้บริษัทจะหันมาลงทุนที่ AI อย่างต่อเนื่อง เพื่อแข่งขันกับ OpenAI ของ Microsoft มากขึ้น

  3. บริษัทนำ AI มาใช้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นบริษัทดังอย่าง Google, Microsoft หรือ SAP บริษัทซอฟต์แวร์องค์กรสัญชาติเยอรมัน ก็ได้ออกมาเปิดเผยถึงการปลดพนักงานโดยตรงว่า จะหันไปมุ่งเน้นไปที่ปัญญาประดิษฐ์ AI มากขึ้น นั่นเป็นเพราะว่า AI จะเป็นเทคโนโลยีที่มีความสำคัญต่อชีวิตเราในอนาคตหลังจากนี้ ดังนั้นการที่บริษัทหลายแห่งปรับโฟกัสการลงทุน รวมถึงการลดคนเพื่อทำกำไรเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้

    แต่ถึงความก้าวหน้าใน AI จะปลดคนไปมากขนาดไหน การสรรหาบุคลากรในภาคส่วนนี้กลับมากขึ้น โดยมีรายงานว่าหลายบริษัท เปิดรับพนักงานที่มีทักษะในด้าน AI เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ตามรายงานของ CompTIA เปิดเผยว่าในเดือนมกราคมเพียงเดือนเดียว มีการลงประกาศรับสมัครงานในสาขาที่เกี่ยวข้องจำนวน 33,727 ตำแหน่ง ซึ่งถือเป็นการเพิ่มขึ้นแบบเดือนต่อเดือนที่ใหญ่ที่สุดในรอบ 12 เดือน ส่วนใหญ่เป็นตำแหน่ง ได้แก่ นักวิจัย วิศวกร และนักพัฒนาที่ต้องทำงานร่วมกับ AI เป็นต้น

 

ซึ่งทั้งหมดนี้อาจเป็นเพียงคลื่นระลอกแรก จากการที่ Generative AI เข้ามาแทนที่ งาน และ ทักษะ บางส่วนของมนุษย์ และอาจเพิ่มมากขึ้นต่อไปในอนาคตก็ต้องติดตามต่อไป

อ้างอิงจาก

ผู้เขียน

ACU PAY Thailand

ACU PAY Thailand

ให้ทุกเรื่องการเงินเป็นเรื่องง่าย เริ่มต้นวันดีๆ ไปกับเรา MAKE A GREAT DAY WITH ACU PAY

เพื่อนๆ สามารถติดตาม ACU PAY Thailand ผ่านช่องทางการติดตามอื่นๆ ได้ที่