fbpx
Search
Close this search box.

เครดิตสกอริ่ง (Credit Scoring) สำคัญอย่างไรต่อการกู้เงิน

คะแนนเครดิตคืออะไร ทำไมต้องมีบัตรเครดิตเพื่อสร้างเครดิตให้ตัวเอง หลายคนอาจสงสัยถึงความสำคัญของบัตรเครดิต เพราะปกติมีบัตรเครดิตก็ใช้แค่รูดผ่อนของ แต่ความจริงแล้วบัตรเครดิตนี่แหละ จะเป็นตัววัดสามารถในการชำระหนี้ของเจ้าของบัตร ซึ่งจะเป็นประโยชน์กับเจ้าของบัตรเครดิตในการกู้ยืมต่าง ๆเป็นอย่างมาก

Credit Scoring คืออะไร

‘เครดิตสกอริ่ง’ หรือ ‘คะแนนเครดิต’ คือคะแนนประวัติเครดิตที่สถาบันการเงินใช้ในการประเมินความสามารถในการชำระหนี้จากเจ้าของบัตรเครดิต โดยดูจากสถิติและประวัติการชำระหนี้ ซึ่งจะใช้ก็ต่อเมื่อเจ้าของบัตรเครดิตต้องการยื่นกู้สินเชื่อต่าง ๆ คะแนนเครดิตจะใช้เป็นส่วนหนึ่งในการกำหนดว่าจะได้รับการอนุมัติวงเงินหรือไม่ หรือ ได้รับจำนวนมากน้อยเท่าไร โดยเจ้าของบัตรจะได้เงินกู้มากน้อยแค่ไหนนั้น ขึ้นอยู่กับคะแนนเครดิตที่สถาบันการเงินพิจารณา

แล้วทำไมชีวิตต้องมีคะแนนเครดิต

การมีคะแนนเครดิตที่น่าเชื่อถือจะช่วยให้สถาบันการเงินปล่อยกู้สินเชื่อได้ง่ายขึ้น ยกตัวอย่างเช่น นาย A อยากขอเงินกู้ซื้อบ้าน ประวัตินาย A คือไม่เคยมีบัตรเครดิตและไม่เคยมีหนี้มาก่อน เวลาซื้อสินค้าอะไรจะเลือกจ่ายเงินสดตลอด หลาย ๆ คนคงคิดว่านาย A ต้องมีคะแนนเครดิตที่ดีมาก แต่ความจริงแล้วนาย A กลับอาจจะขอกู้ยากขึ้นกว่าเดิม เนื่องจากสถาบันการเงินไม่สามารถรู้รายละเอียดการใช้จ่ายในแต่ละเดือน แต่ถ้านาย A มีบัตรเครดิตและประวัติผ่อนชำระสินค้า จ่ายเต็มจ่ายครบทุกเดือน สถาบันการเงินก็จะพิจารณาให้กู้ผ่านได้ง่ายขึ้น

คะแนนดี มีประโยชน์อย่างไร?

  1. เพิ่มโอกาสในการได้รับบริการสินเชื่อในวงเงินที่มากขึ้น อ้างอิงจากความสามารถในการชำระหนี้ และพฤติกรรมการชำระหนี้ของตนเองมากยิ่งขึ้น
  2. การได้รับคะแนนเครดิตดี แสดงว่าเจ้าของบัตรเครดิตมีความรู้ความเข้าใจในการบริหารจัดการเงินมากขึ้น ซึ่งส่งผลดีต่อเจ้าของบัตรในอนาคต
  3. เสริมสร้างความมั่นคงของระบบสถาบันการเงินและเป็นประโยชน์ต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ 

ปัจจัยใดที่มีผลต่อคะแนนเครดิตและมีอะไรบ้าง

ในความจริงแล้ว บริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ National credit Bureau  (NCB) เป็นผู้ที่ถือข้อมูลเครดิตของลูกค้าไว้ทั้งหมด โดยที่ NCB จะมีการทำ credit scoring ไว้ส่วนหนึ่ง แต่ธนาคารและสถาบันการเงินผู้ให้สินเชื่อจะไม่ได้เอาคะแนนเครดิตที่ NCB ทำไว้มาใช้ทั้งหมดโดยตรง แต่จะเอาข้อมูลที่ได้มาผสมใหม่ให้เป็นเกณฑ์ของแต่ละธนาคารนั้น ๆ ก่อนจะตัดเป็นเกรด โดยจะพิจารณาทั้งหมด 8 ปัจจัยคือ

  1. Utilization Pattern: ยอดหนี้คงเหลือหรือยอดเงินที่ใช้ไปเทียบกับวงเงินสินเชื่อ
  2. Debt Burden: ยอดหนี้คงเหลือหรือยอดวงเงินที่ใช้ รวมแต่ละประเภทสินเชื่อ
  3. Recent Credit: จำนวนบัญชีที่เพิ่งเปิดในแต่ละประเภทสินเชื่อ 
  4. Severity and Recency of Delinquency: จำนวนเงินคงค้างล่าสุด
  5. Depth of Credit: ระยะเวลาของประวัติสินเชื่อ ตามแต่ละประเภทสินเชื่อ
  6. Thickness of Credit with Good Payment: จำนวนบัญชีที่มีประวัติการชำระเงินที่ดี
  7. Available Credit: ระยะเวลาของสินเชื่อที่มี
  8. Enquiry Activity: ความถี่ของการสมัครสินเชื่อใหม่

ตรวจสอบคะแนนเครดิตด้วยตัวเองได้ที่ไหน

ปัจจุบันการตรวจสอบเครดิตสกอร์ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป นอกจากจะสามารถตรวจสอบเครดิตสกอร์ที่ศูนย์ตรวจเครดิตบูโร ตู้เอทีเอ็ม หรือที่เคาน์เตอร์ธนาคารแล้ว คุณสามารถทำได้ผ่าน Mobile Banking ง่าย ๆ ผ่านแอปพลิเคชันของแต่ละธนาคาร โดยการตรวจสอบส่วนมากจะรู้ผลใน 3-7 วัน และมีค่าใช้บริการ 150 บาท

วิธีเพิ่มคะแนนเครดิต

หากพบว่าขณะนี้มีคะแนนเครดิตต่ำ และเสี่ยงต่อการที่จะไม่ผ่านอนุมัติ คุณเองควรเริ่มต้นเพิ่มเครดิตสกอร์ของคุณเองด้วยวิธีการดังต่อไปนี้

1. ชำระหนี้ตรงเวลา

ควรจะทำการชำระให้ตรงเวลา เนื่องจากการจ่ายหนี้บัตรเครดิตให้ตรงเวลาถูกคิดเป็นสัดส่วนที่มากถึง 30 – 40% ของเครดิตสกอร์เลยทีเดียว อาจหาตัวช่วยด้วยการตั้งเตือนสำหรับการชำระหนี้ทุกครั้ง หรือใช้บริการตัดผ่านบัญชีอัตโนมัติของธนาคาร

2. หมั่นตรวจสอบเครดิตสกอร์

โดยสามารถตรวจสอบได้ตามวิธีข้างต้นที่กล่าวไป ไม่ว่าจะที่ศูนย์ตรวจเครดิตบูโรโดยตรง ผ่านเคาน์เตอร์ธนาคาร ที่ทำการไปรษณีย์ ตู้เอทีเอ็ม โมไบล์แอปฯ หรือทางเว็บไซต์ของธนาคาร ซึ่งสะดวกและง่ายขึ้นกว่าเดิมมาก

3. ลดจำนวนหนี้สินหมุนเวียน

การมีหนี้สินน้อยส่งผลดีต่อเครดิตสกอร์ เพราะจะช่วยลดสัดส่วนหนี้ต่อวงเงินอนุมัติ ถ้ามีหนี้ที่ค้างชำระก็ควรรีบชำระให้หมด แต่ถ้าไม่สามารถชำระหนี้ได้ครบและตรงเวลา ควรติดต่อสถาบันการเงินที่ให้สินเชื่อ เพื่อทำการเจรจาประนอมหนี้ 

อย่างไรก็ตามในกรณีที่เคยผิดชำระหนี้และชำระหนี้ครบแล้ว จะถูกนำไปคำนวณ Credit Scoring และอยู่ในระบบเครดิตบูโรนานถึง 3 ปี แต่เมื่อครบ 3 ปีแล้วไม่ต้องกังวล เพราะข้อมูลการผิดนัดชำระหนี้จะถูกลบออก และ Credit Scoring จะกลับสู่ระดับดีอีกครั้ง ถ้าไม่มีการผิดชำระหนี้เพิ่มในระหว่างนั้น

บทความที่เกี่ยวข้อง

เพื่อนๆ สามารถติดตาม ACU PAY Thailand ผ่านช่องทางการติดตามอื่นๆ ได้ที่