สุขภาพการเงินก็เหมือนสุขภาพร่างกายที่ต้องหมั่นเช็กประจำปี ซึ่งถ้าเราอยากรู้ว่าสุขภาพการเงินของเรายังดีอยู่หรือไม่ สามารถทำเองได้ง่าย ๆ ด้วย 3 วิธีเช็กสุขภาพการเงินด้วยตัวเอง จะมีวิธีดูอย่างไร ตามไปดูกัน
การประเมินความมั่งคั่งสุทธิสามารถบอกได้ว่าเรามีพื้นฐานทางการเงินอยู่ในขั้นดีมากน้อยเท่าใด เมื่อเปรียบเทียบกับ “ความมั่งคั่งสุทธิที่ควรมี” ซึ่งเราสามารถคำนวณได้ตามนี้
ทรัพย์สินที่มีอยู่ปัจจุบัน = สินทรัพย์ – หนี้สิน
สินทรัพย์ มีอะไรบ้าง
หนี้สิน มีอะไรบ้าง
ยกตัวอย่างเช่น
นางสาว A มีสินทรัพย์ทั้งหมดเท่ากับ 15,000,000 บาท และมีหนี้สินทั้งหมดเท่ากับ 1,000,000 บาท
ดังนั้น ความมั่งคั่งสุทธิปัจจุบัน = 15,000,000 – 1,000,000 = 14,000,000 บาท
หลังจากรู้ “ความมั่งคั่งสุทธิปัจจุบัน” แล้ว ให้นำมาเปรียบเทียบกับ “ความมั่งคั่งสุทธิที่ควรมี” โดยคำนวณตามสูตรนี้
ทรัพย์สินที่ควรมี = อายุ x รายได้ต่อปี x 10%
ยกตัวอย่างเช่น นางสาว A อายุ 40 ปี มีเงินเดือน 70,000 บาท (x 12 เดือน เท่ากับ 840,000 บาทต่อปี)
ดังนั้น ทรัพย์สินที่นางสาว A ควรมี = 40 x 840,000 x 10/100 = 3,360,000 บาท
เมื่อเทียบ“ทรัพย์สินที่มีอยู่ปัจจุบัน” = 14,000,000 บาท กับ “ทรัพย์สินที่ควรมี” = 3,360,000 บาท หมายความว่า นางสาว A มี “ทรัพย์สินที่มีอยู่ปัจจุบัน” มากกว่า “ทรัพย์สินที่ควรมี” จึงถือว่านางสาว A มีสุขภาพการเงินโดยรวมแข็งแรงดี
อีกหนึ่งสัญญาณเตือนว่าสุขภาพการเงินของเรายังดีอยู่หรือไม่ นั่นก็คือหนี้สิน ซึ่งการมีหนี้ก็ไม่เลวร้ายเสมอไปถ้าหนี้นั้นอยู่ในระดับที่พอดี แต่ถ้ามีมากเกินไปก็อาจทำให้ใช้ชีวิตได้ลำบากได้ โดยวิธีคำนวณหนี้ต่อเดือนสามารถทำได้ตามนี้
ภาระหนี้สินต่อเดือน = รายได้ต่อเดือน x 1/3
หรือก็คือห้ามมีเกินกว่า 1/3 ของรายได้ต่อเดือนนั่นเอง เช่น นางสาว A ที่มีรายได้ 70,000 บาทต่อเดือน ภาระหนี้สินต่อเดือนที่มีห้ามเกินกว่านั้นคือ ประมาณ 23,333 บาท ซึ่งถ้าหากมีมากกว่านั้น ก็จะต้องหาวิธีการเพิ่มรายได้ หรือ ลดค่าใช้จ่ายลง
เงินออมเผื่อฉุกเฉิน คือเงินก้อนแรกที่ทุกคนควรมี และสามารถนำมาใช้ได้ทันทีหากมีเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็น เกิดอุบัติเหตุ ล้มป่วย หรือตกงานกะทันหัน โดยจำนวนเงินออมฉุกเฉินที่ควรมีนั้นสามารถคำนวณง่ายๆ ได้ดังนี้
เงิมออมเผื่อฉุกเฉิน = รายจ่ายประจำต่อเดือน x 6
ยกตัวอย่าง ถ้านางสาว A มีรายจ่ายต่อเดือน 35,000 บาท เงินออมเผื่อฉุกเฉินที่ควรมีเท่ากับ 210,000 บาท เพื่อเวลาเกิดเหตุไม่คาดฝันที่อาจเกิดขึ้น เช่น ตกงาน ประสบอุบัติเหตุ นางสาว A ก็สามารถดำรงชีวิตได้อยู่เป็นเวลา 6 เดือนนั่นเอง
ทั้งหมดนี้คือการประเมินสุขภาพการเงินง่าย ๆ ที่สามารถทำได้ด้วยตัวเอง ซึ่งสุขภาพการเงินก็เหมือนสุขภาพร่างกาย ที่เราควรหมั่นเช็กและตรวจสอบ เพื่อจะได้รู้ทันถึงปัญหาและหาทางแก้ไขได้ทัน ก่อนที่สุขภาพการเงินจะย่ำแย่ เกิดหนี้สะสมจนแก้ไขอะไรไม่ทัน