Menu
เคยไหม เปิดตู้เย็นมาเห็นของอะไรไม่รู้เต็มตู้เย็นไปหมด จะหาอะไรก็ยืนคิดว่าเอาไปใส่ไว้ตรงไหน ยิ่งกว่านั้นบางทีทำไมบางทีแช่ของไว้ในตู้เย็น แต่ถึงเก็บได้ไม่นาน วิธีนี้แก้ง่าย ๆ ด้วยเคล็ดลับการเก็บของในตู้เย็นให้ถูกที่ ช่วยยืดระยะเวลาสดใหม่ของอาหารในอายุในตู้เย็น แถมยังเป็นระเบียบมากขึ้นอีกด้วย
อุณหภูมิ ต่ำกว่า 0℃
เหมาะสำหรับ การเก็บวัตถุดิบแช่แข็งที่อยากยืดระยะเวลาไว้นาน ๆ เช่น น้ำแข็ง ไอศกรีม เนื้อสัตว์ หมู ไก่ กุ้ง ต่าง ๆ น้ำซุป แผ่นแป้งหรือขนมปัง สำหรับขนมปังถ้ายังไม่สไลด์สามารถห่อด้วยพลาสติกแรป (plastic wrap) เก็บไว้ได้นานถึง 3 เดือน เวลาจะทานให้นำเข้าไมโครเวฟหรืออบในเตาอบอุณหภูมิ 60 องศาก็จะนุ่มน่าทานเหมือนเดิม นอกจากนั้นของในช่องนี้ต้องแบ่งใส่บรรจุภัณฑ์ที่ปิดมิดชิดและแยกกันอย่างชัดเจน ไม่อย่างนั้นกลิ่นอาจจะตีกันได้
อุณหภูมิ 5 – 7℃
เรียกได้ว่าเป็นช่องอเนกประสงค์ที่สามารถเก็บได้ทุกอย่างที่เปิดแล้วแต่ทานไม่หมด หรืออาหารพร้อมทาน ทุกประเภทไม่ว่าจะคาวจะหวาน แต่ต้องทานให้หมดในระยะ 1 – 2 วันสั้น ๆ ซึ่งอาหารในช่องนี้จะต้องมีแพ็กเกจที่ปิดมิดชิด เพื่อกันความชื้นในอาหารที่ถูกดึงออกไป จนทำให้ดูแห้งเหี่ยว ไม่น่าทาน และยังเสียรสชาติได้ แถมถ้าเก็บปิดฝาไม่สนิท กลิ่นอาหารยังจะคละคลุ้งติดตู้เย็นอีกต่างหาก
อุณหภูมิ 8 – 10℃
เป็นช่องที่มีความชื้นสูงกว่าช่องอื่น ๆ ในตู้เย็น ช่องนี้เลยเหมาะสำหรับ เก็บผักและผลไม้ เพราะมีความเย็นพอเหมาะไม่ทำให้เนื้อเยื่อของผักผลไม้กลายเป็นน้ำแข็ง แถมยังยับยั้งการเติบโตของจุลินทรีย์ ช่วยรักษาความสดใหม่กรอบอร่อย คงคุณค่าทางโภชนาการ วิตามิน แร่ธาตุให้อยู่อย่างครบถ้วน
อุณหภูมิ 10 – 15 ℃
เรียกได้ว่าเป็นส่วนที่ใช้งานบ่อยมากที่สุด และยังหยิบได้สะดวก อย่างไรก็ตามด้วยความที่บริเวณนี้ถูกใช้บ่อย ความเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิแต่ละครั้งที่เปิด-ปิดจึงไม่ค่อยคงที่ บริเวณฝาประตูนี้เลยเหมาะสำหรับของไม่เน่าบูดง่ายและหยิบใช้งานบ่อย เช่น เครื่องปรุง เครื่องดื่ม ไข่ไก่
เพียงแค่เราเข้าใจฟังก์ชันการใช้งานของตู้เย็นในแต่ละส่วน เราก็จะสามารถเก็บอาหารให้ถูกที่ ยืดระยะเวลาความสดใหม่ แถมยังช่วยให้ตู้เย็นเป็นระเบียบมากขึ้น ทีนี้เวลาจะหาอะไรในตู้เย็นก็ไม่ต้องยืนงงแล้วล่ะ
