Menu
หลายคนคงจะตื่นเต้นกันไม่น้อย เพราะในปี 2566 ที่ผ่านมา “ChatGPT” หรือแชตบอทอัจฉริยะที่ไม่ว่าสั่งอะไร ก็ทำได้หมดเกือบทุกอย่าง โดยทุกคนกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า ChatGPT เป็นปัญญาประดิษฐ์ที่มีความฉลาด คล้ายคลึงกับมนุษย์สูง ไม่ว่าจะเป็นการตอบอีเมล เขียนโค้ด คิดคำโฆษณา หรือแม้แต่เขียนนิยายโดยใช้สำนวนเป็นธรรมชาติเหมือนกับมนุษย์เขียนเอง วันนี้ ACU PAY จะพามาทำความรู้จักถึงปัญญาประดิษฐ์ตัวนี้ และเข้าใจถึงประโยชน์ของ ChatGPT ที่มีต่อธุรกิจต่าง ๆ
ChatGPT พัฒนาโดยบริษัท โอเพ่นเอไอ (OpenAI) ในซานฟรานซิสโก ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยที่นำโดย แซม อัลต์แมน (Sam Altman) โดยได้รับการสนับสนุนจาก ไมโครซอฟท์ (Microsoft) ซึ่ง ChatGPT ย่อมาจากคำว่า “Chat” และ “Generative Pre-training Transformer” หรือก็คือ โมเดลภาษาที่ถูกเขียนขึ้น เพื่อให้สามารถใช้งานและตอบโจทย์กับทุกคำถามหรือข้อสงสัยได้อย่างครอบคลุม ไม่ว่าจะเป็น การให้ข้อมูล แก้โจทย์คณิตศาสตร์ เขียนโค้ด เขียนโปรแกรมเบื้องต้น หรือแม้แต่การเขียนบทความ หรือแปลบทความก็ทำได้ เนื่องจาก ChatGPT ถูกพัฒนาให้จดจำข้อความจากอินเทอร์เน็ต เพื่อตอบคำถามและแก้ปัญหาให้กับผู้ใช้งานได้ทุกข้อสงสัย ภายใต้การตอบกลับที่เป็นธรรมชาติ คล้ายคลึงมนุษย์ และความชาญฉลาดของปัญญาประดิษฐ์อัจฉริยะนี้เอง ได้สร้างเสียงฮือฮาและข้อโต้แย้งกับบุคคลในวงการเทคโนโลยี อย่าง อีลอน มักส์ (Elon Musk) มาแล้ว ในปัจจุบัน ChatGPT มีผู้ใช้งานสูงกว่า 50 ล้านคน และคาดว่าจะมีผู้ใช้งานหน้าใหม่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
ที่นี้ลองมาดูตัวอย่างในการนำ ChatGPT มาเป็นเครื่องมือช่วยเหลือ ใช้ในธุรกิจประเภทต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น
สถาบันการเงินต่าง ๆ สามารถนำความสามารถของ ChatGPT มาใช้วิเคราะห์ข้อมูลการเงินและข้อมูลเชิงลึก เพื่อช่วยคาดการณ์และจำลองแนวโน้มของตลาดที่อาจเกิดขึ้น หรืออาจนำมาเป็น Chatbot ช่วยอธิบายและตอบคำถามที่พบบ่อยให้กับลูกค้า เป็นเหมือนผู้ช่วยคอยให้คำแนะนำในการลงทุน ซึ่งทำให้พนักงานสามารถนำเวลาตรงนั้นไปให้บริการในเรื่องที่เร่งด่วนมากกว่า
ในธุรกิจอีคอมเมิร์ซสามารถนำ ChatGPT มาเป็นผู้ช่วยในการช็อปปิงเสมือนจริง คอยช่วยลูกค้าค้นหาสินค้า ราคา เสนอโปรโมชั่นที่น่าสนใจ นอกจากนี้ยังสามารถใช้ในการประเมินความพึงพอใจของลูกค้า ผ่านการวิเคราะห์จากข้อความที่ลูกค้ารีวิวสินค้าไว้ เพื่อที่ร้านค้าจะได้เสนอโปรโมชั่นที่เหมาะสมแก่ลูกค้าแต่ละคน และลูกค้าจะได้สินค้าที่ตรงต่อความต้องการมากที่สุด จนนำไปสู่ความภักดีของลูกค้าที่มีต่อสินค้าและแบรนด์ (Brand Loyalty) นอกจากนี้ยังสามารถเป็นเครื่องมือช่วยเขียนข้อมูลสินค้าให้น่าสนใจ โดยการป้อนคุณสมบัติเด่นของสินค้าลงไปเสร็จแล้ว ChatGPT จะสร้างคำหรือแคปชั่นที่สร้างสรรค์ออกมา โดยเจ้าของแบรนด์ไม่ต้องเสียเวลาคิดด้วยตัวเอง
ไม่ว่าจะเป็นงานการตลาด หรือธุรกิจประเภท Digital Agency ก็สามารถใช้ ChatGPT ค้นหาไอเดียใหม่ ๆ ในการเขียนคอนเทนต์ ข้อความโฆษณา แคมเปญ ประชาสัมพันธ์ผ่านโซเชียล หรือสคริปต์บทต่าง ๆ ได้ นอกจากนี้ฝ่ายการตลาดยังสามารถใช้ ChatGPT ดึงข้อมูลจำนวนมากมาประมวลผลมา วิเคราะห์หาแนวโน้มทางการตลาดว่า ทางเลือกไหนจะมีโอกาสประสบความสำเร็จหรือทำให้เสียโอกาส และยังสามารถตอบคำถามเชิงลึกแบบเจาะจงได้อย่างมีประสิทธิภาพได้ ยิ่งไปกว่านั้น ChatGPT ยังสามารถสร้างลิสต์ keyword ในการเขียนหัวข้อ SEO ให้ตรงกลุ่มเป้าหมายได้เช่นกัน
ล่าสุด ChatGPT ได้ทยอยเปิดให้บริการ เวอร์ชันแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟนในระบบปฏิบัติการ IOS ไปกว่า 80 ประเทศทั่วโลก แอปพลิเคชัน ChatGPT ในระบบปฏิบัติการ iOS ใช้งานได้ฟรีและไม่มีโฆษณา เพียงแต่ถ้าหากต้องการใช้งาน ChatGPT ที่มีฟีเจอร์มากกว่า ต้องเปลี่ยนใช้ไปรูปแบบของบริการแบบเสียเงินอย่าง ChatGPT Plus ซึ่งมีค่าใช้จ่าย 20 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 700 บาท ต่อเดือน
จะเห็นได้ว่า ChatGPT เป็นเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ AI ที่สร้างความตื่นเต้นให้กับผู้คนทั่วโลก โดยสามารถประยุกต์ใช้เป็นเหมือนผู้ช่วยในการทำงานทั้งสะดวกและรวดเร็ว แต่ถึงอย่างนั้น ChatGPT ก็ยังมีข้อจํากัดอีกหลายเรื่อง ด้วยความที่ ChatGPT เวอร์ชั่นปัจจุบันมีข้อมูลที่จำกัดถึงแค่ปี 2564 ทำให้การหาแหล่งข้อมูลอ้างอิงที่อัปเดตในปัจจุบันอาจไม่ตรงความเป็นจริง ดังนั้นควรตรวจสอบข้อมูลให้ถี่ถ้วน แต่ถ้ามีการพัฒนาต่อไปเรื่อย ๆ เชื่อว่า ChatGPT จะเป็นเครื่องมือที่ช่วยอำนวยความสะดวก ให้กับผู้คนในอนาคตได้อย่างแน่นอน และสิ่งสําคัญที่สุดคือการที่มนุษย์อย่างเรา ควรจะต้องปรับตัวตามเทคโนโลยีอยู่เสมอ รู้จักวิธีใช้งานหรือต่อยอดให้เกิดประโยชน์กับตัวเราให้มากที่สุด
