JD Central ถือว่าเป็นธุรกิจแบบผสมทั้งอีคอมเมิร์ซและบริการโลจิสติกส์โดยเป็นการร่วมหุ้นระหว่างกลุ่มเซ็นทรัลและประเทศจีนอย่างคุณริชาร์ด หลิว (Richard Liu) แต่เมื่อไม่นานที่ผ่านมาทาง JD Central ได้ออกมาประกาศว่าเตรียมยุติการให้บริการในประเทศไทยและประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งจะมีผลตั้งแต่วันที่ 3 มีนาคม 2566 เป็นต้นไป โดยคาดการณ์ว่าสาเหตุที่ทำให้ต้องปิดตัวลงเกิดจากผลประกอบการ “การขาดทุน” หลังจากที่ได้ลงทุนดำเนินธุรกิจภายในประเทศไทยมาเกือบ 6 ปี
ทั้งนี้ JD Central ได้ออกมายืนยันอีกครั้งผ่านทาง Facebook สำหรับลูกค้าที่สั่งสินค้าผ่าน JD CENTRAL Official Store ว่า “จะมีปิดการสั่งซื้อสินค้าเวลา 23.59น. ในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2566” และร้านค้าอื่นๆที่อยู่ในแพลตฟอร์ม JD Central จะปิดการสั่งสินค้าเวลา 23.59น. ในวันที่ 3 มีนาคม 2566 เป็นวันสุดท้าย อีกทั้ง JD Central เป็นบริการเกี่ยวกับการช้อปปิ้งออนไลน์ โดยมีนโยบายรับรองสินค้าของแท้ 100 เปอร์เซ็น พร้อมทั้งจับมือรวมกับแบนรนด์ใหญ่ชื่อดังสำหรับการขายของออนไลน์
เป็นแพลตฟอร์มสำหรับตลาดออนไลน์และเป็นบริษัทอีคอมเมิร์สที่ใหญ่มาเป็นอันดับ 3 ของประเทศจีน โดยมีจุดเด่นในเรื่องของคุณภาพสินค้าที่ขายเฉพาะของแท้เท่านั้น สามารถตรวจสอบได้นอกจากนี้ยังมีระยะเวลาในการส่งที่รวดเร็วซึ่งภายในกรุงเทพใช้เวลา 1-2 วัน และต่างจังหวัด 2-3 วันเท่านั้น อีกทั้งยังมีโปรโมชั่นซื้อครบ 99 บาทส่งฟรีทันที
ต้องยอมรับตลาดอีคอมเมิร์สในประเทศไทยค่อนข้างมีการแข่งขันที่สูง จึงทำให้ JD Central ถึงจะได้ยุติการให้บริการในประเทศไทยแล้ว แต่ทางบริษัทได้หันไปมุ่งโฟกัสเฉพาะตลาดในประเทศจีนแทน