fbpx
Search
Close this search box.

JD Central เตรียมยุติให้บริการในประเทศไทย

ลาเทอได้สักที ลาก่อนขอให้โชคดี JD Central แบรนด์ใหญ่ชื่อดังอีคอมเมิร์ซระหว่ากลุ่มเซ็นทรัลและประเทศจีนที่ได้ออกมาประกาศเตรียมยุติให้บริการในประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 3 มีนาคม 2566 เป็นต้นไป ใครที่สั่งของออนไลน์บ่อยๆจะเคยได้ยิน JD Central ซึ่งเป็นแหล่งช้อปปิ้งออนไลน์ โดยมีทั้งเสื้อผ้า รองเท้า ของใช้ในบ้าน อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ให้เลือกซื้อกันอย่างมากมายในราคาที่ถูก วันนี้ ACU PAY จะพาทุกคนไปดูกันว่าเพราะอะไรทำไม JD Central ถึงต้องปิดตัวบอกลากันแบบยาวๆ ไปเลยจ้า

JD Central ถือว่าเป็นธุรกิจแบบผสมทั้งอีคอมเมิร์ซและบริการโลจิสติกส์โดยเป็นการร่วมหุ้นระหว่างกลุ่มเซ็นทรัลและประเทศจีนอย่างคุณริชาร์ด หลิว (Richard Liu) แต่เมื่อไม่นานที่ผ่านมาทาง JD Central ได้ออกมาประกาศว่าเตรียมยุติการให้บริการในประเทศไทยและประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งจะมีผลตั้งแต่วันที่ 3 มีนาคม 2566 เป็นต้นไป โดยคาดการณ์ว่าสาเหตุที่ทำให้ต้องปิดตัวลงเกิดจากผลประกอบการ “การขาดทุน” หลังจากที่ได้ลงทุนดำเนินธุรกิจภายในประเทศไทยมาเกือบ 6 ปี

  • ในปี 2560 JD Central มีรายได้รวม 522,296 บาท ขาดทุน 3,799,465 บาท
  • ในปี 2561 JD Central มีรายได้รวม 458,417,184 บาท ขาดทุน 944,120,208 บาท
  • ในปี 2562 JD Central มีรายได้รวม 1,284,831,719 บาท ขาดทุน 1,342,609,390 บาท
  • ในปี 2563 JD Central มีรายได้รวม 3,491,691,996 บาท ขาดทุน 1,375,506,210 บาท
  • ในปี 2564 JD Central มีรายได้รวม 7,443,356,966 บาท ขาดทุน 1,930,440,305 บาท

ทั้งนี้ JD Central ได้ออกมายืนยันอีกครั้งผ่านทาง Facebook สำหรับลูกค้าที่สั่งสินค้าผ่าน JD CENTRAL Official Store ว่า “จะมีปิดการสั่งซื้อสินค้าเวลา 23.59น. ในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2566” และร้านค้าอื่นๆที่อยู่ในแพลตฟอร์ม JD Central จะปิดการสั่งสินค้าเวลา 23.59น. ในวันที่ 3 มีนาคม 2566 เป็นวันสุดท้าย อีกทั้ง JD Central เป็นบริการเกี่ยวกับการช้อปปิ้งออนไลน์ โดยมีนโยบายรับรองสินค้าของแท้ 100 เปอร์เซ็น พร้อมทั้งจับมือรวมกับแบนรนด์ใหญ่ชื่อดังสำหรับการขายของออนไลน์

ย้อนรอย JD Central คืออะไร

เป็นแพลตฟอร์มสำหรับตลาดออนไลน์และเป็นบริษัทอีคอมเมิร์สที่ใหญ่มาเป็นอันดับ 3 ของประเทศจีน โดยมีจุดเด่นในเรื่องของคุณภาพสินค้าที่ขายเฉพาะของแท้เท่านั้น สามารถตรวจสอบได้นอกจากนี้ยังมีระยะเวลาในการส่งที่รวดเร็วซึ่งภายในกรุงเทพใช้เวลา 1-2 วัน และต่างจังหวัด 2-3 วันเท่านั้น อีกทั้งยังมีโปรโมชั่นซื้อครบ 99 บาทส่งฟรีทันที

ต้องยอมรับตลาดอีคอมเมิร์สในประเทศไทยค่อนข้างมีการแข่งขันที่สูง จึงทำให้ JD Central ถึงจะได้ยุติการให้บริการในประเทศไทยแล้ว แต่ทางบริษัทได้หันไปมุ่งโฟกัสเฉพาะตลาดในประเทศจีนแทน

บทความที่เกี่ยวข้อง

เพื่อนๆ สามารถติดตาม ACU PAY Thailand ผ่านช่องทางการติดตามอื่นๆ ได้ที่