fbpx
Search
Close this search box.

“การรัดเท้า” ประเพณีแห่งความเจ็บปวดของผู้หญิงจีนในประวัติศาสตร์

“การรัดเท้า” ประเพณีแห่งความเจ็บปวดของผู้หญิงจีนในประวัติศาสตร์
การรัดเท้า ความงามที่แลกมาด้วยความเจ็บปวดของผู้หญิงในประวัติศาสตร์ ที่หลายๆคนรู้จักหรือไม่รู้จักก็ตาม วันนี้เอซียู เพย์จะพาไปดูทำไมผู้หญิงในสมัยนั้นต้องรัดเท้า และวิธีการรัดเท้า เป็นอย่างไร ถ้าพร้อมแล้ว ไปดูกันเลย…

เนื้อหา

ทำไมผู้หญิงจีนต้องรัดเท้า

ในประเทศจีน การรัดเท้าของผู้หญิงในสมัยโบราณ มีประวัติความเป็นมาอันยาวนาน คนทั่วไปถือว่าผู้หญิงยิ่งเท้าเล็กยิ่งสวย ถือว่าเป็นสตรีงาม ใครเท้าเล็กกว่า ก็จะได้แต่งงานกับผู้ชายที่มีฐานะสูง จึงถือว่าการรัดเท้าของผู้หญิงเป็นสิ่งที่ต้องทำ จึงไม่ลังเลที่จะรัดเท้า ถึงแม้จะต้องพบกับความเจ็บปวด 

ซึ่งเรียกเท้าที่ถูกรัดไว้ว่าเป็น “ดอกบัว” และขนาดเท้าที่แตกต่างกันคือ ดอกบัวต่างชนิดกัน เท้าที่ใหญ่กว่า 4 นิ้วคือ “บัวเหล็ก” เท้าที่มีขนาด 4 นิ้ว เรียกว่า “บัวเงิน” และเท้าที่มีขนาด 3 นิ้ว เรียกว่า “บัวทอง” คำว่า “บัวทอง 3 นิ้ว” ไม่เพียงขนาดเท้า 3 นิ้วเท่านั้น แต่ยังต้องโค้งงออีกด้วย “บัวทอง” ขนาด 3 นิ้วถือเป็นเท้าที่สวยที่สุดของผู้หญิงจีนในเวลานั้นเลย

การรัดเท้า ไม่ใช่ว่าจะรัดตอนไหนก็ได้ แต่จะเริ่มตั้งแต่เด็กผู้หญิง อายุประมาณ 4-8 ขวบ เพราะกระดูกยังอ่อนอยู่ ยิ่งอายุน้อยยิ่งทำง่าย  โดยส่วนมากการรัดเท้าจะทำโดยคนเฒ่าคนแก่  แต่เด็กที่ถูกรัดเท้าตั้งแต่อายุยังน้อยนั้น เมื่อแก่ตัวลงมักเดินไม่ค่อยได้ หลังจากรัดเท้า 

นับตั้งแต่เริ่มรัดเท้า เด็กจะเจ็บปวดเป็นเวลา 4-5 ปี กว่าจะเข้าที่ เป็นช่วงชีวิตที่เจ็บปวดมากที่สุดของเด็กหญิงที่ถูกบังคับให้รัดเท้า แต่พวกเขาเหล่านั้นต้องรัดไว้ตลอดเวลา เพื่อไม่ให้เท้าขยายขึ้นมา ผ้าที่รัดเท้าไว้ สามารถแก้ได้ก็ต่อเมื่อล้างเท้าเท่านั้น ซึ่งในการล้างเท้าแต่ละครั้งต้องใช้เวลาเป็นชั่วโมง

ในสมัยนั้น คนรัดเท้า ไม่ใช่ว่าผู้หญิงคนไหนก็รัดได้ จะมีเฉพาะคนที่อยู่ระดับสูง เกิดในบ้านที่มีฐานะสูง ถึงจะรัดเท้า เพราะการที่จะรัดเท้าต้องเสียเวลา คนที่รัดเท้าจะเดินลำบาก ต้องให้ครอบครัวดูแล ซึ่งต้องใช้เวลา และใช้เงิน ถ้าเป็นครอบครัวทั่วไปที่ไม่มีฐานะจะไม่มีเวลา และไม่มีเงิน สมัยนั้นถ้าผู้หญิงคนไหนรัดเท้าเล็ก แสดงว่าบ้านเขานั้นระดับสูง 

วิธีการรัดเท้า

เริ่มแรก เด็กสาวที่ถูกรัดเท้า จะต้องนำเท้าทั้งสองข้างไปแช่ในน้ำสมุนไพร และเลือดสัตว์ก่อน จากนั้นตัดเล็บให้สั้นที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อทำให้เท้าอ่อนนุ่ม การรัดเท้าจะได้ทำได้ง่ายขึ้น

เมื่อเตรียมตัวเสร็จแล้ว ขั้นตอนที่เจ็บปวดที่สุด คือนิ้วเท้าทั้งหมดจะถูกกดลงไปที่ฝ่าเท้า ซึ่งจะทำให้กระดูกนิ้วแตก หลังจากนั้นใช้ผ้าพันนิ้วเท้าทั้งสี่นิ้วและฝ่าเท้าไปที่กึ่งกลางเท้าไว้โดยรอบ เมื่อพันด้วยผ้าเสร็จแล้ว เท้าจะถูกรัดอย่างแน่นหนา และเย็บด้วยผ้าชั้นนอกอีกหนึ่ง ทำให้เด็กสาวที่ถูกรัดเท้าจะไม่สามารถแกะผ้าออกได้ด้วยตนเอง เท่านี้ก็เป็นอันเสร็จสิ้นการรัดเท้า ไม่เพียงแค่นั้น บางคนถึงขั้นใช้กระดานชนวนหรือไม้ไผ่ทุบกระดูกเท้า เพื่อให้การรัดเท้าทำได้ง่ายขึ้น มีสุภาษิตกล่าวว่า “เท้าหนึ่งคู่ของผู้หญิง น้ำตาเต็มอ่าง”

การรัดเท้าส่งผลอย่างไรต่อสุขภาพของผู้หญิง?

ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของผู้หญิงอย่างรุนแรง ทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจ ผู้หญิงที่รัดเท้ามีความเสี่ยงที่จะเกิดโรคต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับเท้า เช่น

  • โรคข้ออักเสบ เนื่องจากการที่งอนิ้วเท้าเข้าหาฝ่าเท้า จึงทำให้ข้อต่อต่างๆ ในเท้าเสื่อมสภาพลง
  • โรคกระดูกพรุน เนื่องจากการขาดแคลเซียมจากการเดินและยืนลำบาก
  • โรคเท้าแบน เนื่องจากการที่ผิดรูปของกระดูกเท้า
  • โรคผิวหนัง เกิดจากการอับชื้นและการติดเชื้อ

บ่อยครั้งที่เท้าที่ถูกรัดมีการติดเชื้อ เพราะเชื้อโรคที่หมักหมมอยู่ในเท้า นอกจากนี้การไหลเวียนของเลือดยังผิดปกติอีกด้วย ในจีนโบราณ หญิงสาวจำนวนมากต้องเสียชีวิตเพราะการติดเชื้อในกระแสเลือด

การรัดเท้าดูเหมือนจะมีจุดประสงค์อื่นแอบแฝงอยู่ นั่นคือ การเดินที่ไม่สะดวกเนื่องจากเท้าเล็ก การรัดเท้าของผู้หญิงสามารถป้องกันการออกนอกลู่นอกทางของผู้หญิงได้ การเดินของหญิงเท้าเล็กยังดึงดูดความสนใจของผู้ชายได้ เพราะเดินนุ่มนวล สวยงาม เซ็กซี่ เป็นการเดินที่ปลุกใจอารมณ์กว่าผู้หญิงปกติ ถึงช่วงปี ค.ศ. 1930 หญิงสาวในมณฑลชานซีมีการประกวดเท้าเล็ก โดยหญิงสาวจะนั่งโชว์เท้าบริเวณหน้าบ้าน จะมีกรรมการเดินมาตรวจผ่านบ้าน

ประเพณีการรัดเท้า สะท้อนให้เห็นถึงความไม่ยุติธรรมทางเพศในสังคมจีนโบราณ จนกระทั่งศตวรรษที่ 19 กระแสความเท่าเทียมทางเพศเริ่มแผ่ขยายเข้ามาในสังคมจีน การรัดเท้าจึงเริ่มถูกต่อต้านมากขึ้น เมื่อมีการต่อต้านมากขึ้นก็เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นจริง ๆ ในปี ค.ศ.1949สมัยที่ประเทศจีนเป็นคอมมิวนิสต์ เพราะว่าคอมมิวนิสต์มองว่าทุกคนเท่ากัน ทุกคนตั้งทำงาน ไม่สนใจว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย ดังนั้นผู้หญิงที่รัดเท้าจะไม่สามารถทำงานได้ รัฐบาลคอมมิวนิสต์ก็ประกาศ ว่าการรัดเท้า เป็นสิ่งผิดกฎหมาย จึงทำให้การรัดเท้านั้นค่อย ๆ น้อยลง จนสุดท้ายก็หายไปจากประเทศจีน

เป็นอย่างไรกันบ้างคะ…กับ“การรัดเท้า”ประเพณีแห่งความเจ็บปวดของผู้หญิงจีนในประวัติศาสตร์ ที่วันนี้เอซียูเพย์ได้นำมาฝากกัน อย่างที่ทราบกันนะคะว่าการรัดเท้าแบบนี้จะทำให้หญิงสาวที่ถูกรัด ต้องทรมานและเจ็บปวดทั้งร่างกายและจิตใจ ยิ่งเท้าเล็กยิ่งดี ทั้งการเป็นที่ยอมรับในสังคมและเพื่ออนาคตของชีวิตคู่ของพวกเธอเช่นกัน แต่นั่นคือความเชื่อของชาวจีนในยุคโบราณ ประเทศจีนในปัจจุบันการรัดเท้าได้หายไปแล้วค่ะ 

ผู้เขียน

ACU PAY Thailand

ACU PAY Thailand

ให้ทุกเรื่องการเงินเป็นเรื่องง่าย เริ่มต้นวันดีๆ ไปกับเรา MAKE A GREAT DAY WITH ACU PAY

บทความที่เกี่ยวข้อง

เพื่อนๆ สามารถติดตาม ACU PAY Thailand ผ่านช่องทางการติดตามอื่นๆ ได้ที่