รถยนต์ไฟฟ้ามาแรง ยอดขายเติบโตต่อเนื่อง

2-3 ปีที่ผ่านมานี้จะเห็นได้ว่าประเทศไทยและทั่วโลกนั้น ได้มีแนวโน้มเทรนรถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ (BEV) และรถยนต์ไฟฟ้าปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) ด้วยสถานการณ์ราคาน้ำมันโลกที่มีความผันผวน และเทรนการรักษ์โลก รักษาสิ่งแวดล้อม ผู้ใช้รถก็เลยหารถที่มีพลังงานทดแทน เพื่อใช้แทนรถที่ใช้น้ำมันในอนาคตและประหยัดพลังงานได้

แม้แต่ค่ายรถที่เป็นเจ้าแห่งตลาด ครองยอดขายรถระบบน้ำมันมาตลอด ก็อยู่เฉยไม่ได้ ต้องลงมาเล่นในตลาดรถไฟฟ้าอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพื่อต่อยอดองค์กร ตามความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป

โดยในปัจจัยหลักที่ทำให้ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าเติบโตแข็งแกร่งอย่างมีนัยสำคัญในหลายตลาด คือการสนับสนุนด้านนโยบายอย่างต่อเนื่องของภาครัฐบาล โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภูมิภาคยุโรปที่เติบโตเป็นอันดับสูงสุดมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีการคาดการณ์ว่าในปี 2030 จะมียอดขายรถยนต์ไฟฟ้ารวมมากที่สุดถึง 13.3 ล้านคัน รองลงมา คือ จีน และสหรัฐอเมริกา ที่จะมียอดขายจำนวน 12.0 ล้านคัน และ 8.1 ล้านคันตามลำดับ

ตลาดเกิดใหม่มียอดขายรถยนต์ไฟฟ้าที่มีอัตราเติบโตขึ้น และก้าวเข้ามามีส่วนแบ่งในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าโลกอย่างมีนัยสำคัญ ได้แก่ กลุ่มประเทศอื่นๆ เช่น แคนาดา นิวซีแลนด์ เม็กซิโก ออสเตรเลีย เกาหลีใต้ มาเลเซีย รวมถึงไทย ที่จะมียอดขายรวมกันแล้วจะอยู่ที่จำนวน 6.9 ล้านคัน ตามด้วยอินเดีย จำนวน 3.7 ล้านคัน และญี่ปุ่น จำนวน 2.8 ล้านคัน

ยังได้มีการคาดการณ์ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลกในปี 2030 เมื่อเทียบกับปี 2020 ที่แสดงให้เห็นว่า ในระยะเวลา 10 ปี ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าทั้งสองประเภทรวมกันทั่วโลกจะเติบโตถึง 94% โดยในปี 2020 มียอดขายทั้งสองประเภทรวมแล้วอยู่ที่ 3 ล้านคัน และในปี 2030 คาดการณ์ยอดขายรวมทั้งสองประเภทอยู่ที่ 46.8 ล้านคัน ซึ่งรถยนต์ไฟฟ้า BEV จะครองส่วนแบ่งถึง 34% ของยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าทั้งหมด จากเดิมที่ 4% ในปี 2020 ทั้งนี้ตัวเลขดังกล่าวคาดการณ์ตามเงื่อนไขของการดำเนินการตามแผนการบรรลุเป้าหมายด้านพลังงานอย่างยั่งยืน (Sustainable Development Scenario)

โดยข้อมูลจากงาน บางกอก มอเตอร์โชว์ 2023 ยอดจองรถยนต์หลังจบงาน (2 เม.ย.66) ว่ามีจำนวน 42,885 คัน เพิ่มขึ้น 34.45% เมื่อเทียบกับที่แล้ว โดยในจำนวนนี้เป็นของรถยนต์ไฟฟ้า EV 9,234 คัน คิดเป็นสัดส่วน 21.53% ยอด EV อันดับหนึ่งเป็นของค่าย BYD ที่ทำได้ 2,737 คัน

นอกจากนี้ธุรกิจที่เกี่ยวกับรถยนต์พลังงานไฟฟ้า ที่มีแนวโน้มเติบโตและปรับตัวไม่แพ้กันได้แก่ ธุรกิจประกัน ที่ต้องหาความคุ้มครองเกี่ยวกับรถยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะ ธุรกิจอะไหล่รถไฟฟ้า เช่นแบตเตอรี่รถยนต์ ธุรกิจจุดชาร์จไฟฟ้า สถานีชาร์จไฟฟ้าคาดว่ามีแนวโน้มเติบโตในอนาคตอีกด้วย