ได้ฟังครั้งแรกก็งง ใครๆก็อยากรวยอยู่แล้ว ในทางกลับกันถ้า “โรคกลัวความจน” น่าจะมีจริงมากกว่า ฟังดูอาจจะเหลือเชื่อและดูแปลก แต่ขอบอกว่าโรคนี้มีอยู่จริงๆ บางคนอาจจะนึกไม่ออกว่า ความรวยมันน่ากลัวตรงไหน เอาเป็นว่าเราค่อยๆ ทำความรู้จักโรคกลัวแปลกๆ โรคนี้กัน
Plutophobia เกิดจาก 2 คำ ได้แก่ Pluto เป็นชื่อเทพเจ้ากรีกซึ่งเป็นเทพเจ้าแห่งความร่ำรวย มีอำนาจ ส่วน phobia เป็นความกลัวอะไรบางอย่างแบบขั้นสุด เมื่อสองคำนี้มารวมกันจึงกลายเป็นโรคกลัวความมั่งคั่งร่ำรวยนั่นเอง
ยังไม่มีหลักฐานแน่ชัดว่าโรคกลัวความร่ำรวยหรือ Plutophobia เกิดจากอะไรกันแน่ แต่ทางจิตวิทยาก็สันนิษฐานกันว่า โรคกลัวความร่ำรวยอาจเกิดจากอดีตที่ฝังใจในวัยเด็ก โดยอดีตนั้นเป็นสิ่งที่โหดร้าย เป็นความทรงจำที่ไม่ได้ให้ความรู้สึกที่ดีนัก โดยอาจเกี่ยวกับเรื่องเงินๆ ทองๆ ที่มีเบื้องหลังน่ากลัว ทำให้เขาฝังใจว่าความรวยมันซับซ้อน และไม่ได้ทำให้ชีวิตมีความสุข หรือบางคนอาจมีเงินมากตั้งแต่เด็ก แต่ชีวิตกลับไม่ได้สบายอย่างที่ควรจะเป็น ทว่าอาจต้องทนกับความอึดอัดใจ หรือต้องทนกับอะไรบางอย่างเพื่อให้ได้มาซึ่งเงินทองของมีค่า เป็นต้น
หากใครนึกไม่ออกว่าอาการกลัวความมั่งคั่งร่ำรวยเป็นยังไง เราลองมาเช็กอาการของคนที่เป็น Plutophobia กันเลย
การรักษาภาวะโฟเบียจะมีอยู่ด้วยกันหลายวิธี และการรักษาก็ขึ้นอยู่กับลักษณะอาการของคนไข้ด้วย โดยวิธีรักษามี ดังนี้
กลุ่มยาที่ใช้รักษาอาการโฟเบียจะเป็นยาในกลุ่มแก้วิตกกังวล ยาคลายเครียด หรือยาช่วยให้นอนหลับ ซึ่งแพทย์จะสั่งยาที่สามารถบรรเทาความรู้สึกกลัว หรือช่วยลดทอนปัญหาของผู้ป่วยได้ ซึ่งการรักษาด้วยยาจำเป็นต้องใช้เวลาในการรักษาพอสมควร และต้องปรับยาไปเรื่อย ๆ จนแพทย์เห็นว่าอยู่ในจุดที่เหมาะสมกับผู้ป่วยแต่ละรายแล้ว
หากรักษาด้วยยาแล้วไม่ได้ผลที่ดีพอ แพทย์อาจให้ผู้ป่วยเข้ารับการทำจิตบำบัดกับนักจิตวิทยา โดยการพูดคุย ทำแบบทดสอบ และแลกเปลี่ยนความคิดซึ่งกันและกัน โดยการรักษาด้วยวิธีนี้ เป็นการรักษาที่มักจะใช้ควบคู่ไปกับการรักษาด้วยยา
การรักษาภาวะโฟเบียที่ค่อนข้างจะได้ผลดีก็คือให้ผู้ป่วยค่อย ๆ ปรับตัวกับสิ่งที่ตัวเองกลัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป เพื่อให้เขาเรียนรู้ว่าสิ่ง ๆ นั้น หรือความรู้สึกนั้นไม่ได้น่ากลัวเท่าที่เขาคิด ซึ่งนักจิตวิทยาและจิตแพทย์จะสร้างรูปแบบที่เหมาะสมเพื่อให้คนไข้ได้ค่อย ๆ เผชิญหน้ากับสิ่งที่กลัวไปเรื่อย ๆ จนเขาไม่รู้สึกกลัวอีกต่อไป
อย่างไรก็ดี ความกลัวที่ถึงขั้นเป็นโฟเบีย เป็นสิ่งที่มักจะรบกวนการใช้ชีวิตของผู้ป่วยอยู่เสมอ โดยอาจจะเป็นปัญหา อุปสรรคในการดำเนินชีวิตของเขาไม่ว่าในทางใดก็ทางหนึ่ง ดังนั้นหากพบว่าตัวเองกลัวอะไรบางอย่างมาก ๆ กลัวแบบเจอแล้วใจสั่น เหงื่อแตก หน้ามืด อยู่ไม่สุข ก็ควรไปปรึกษาจิตแพทย์เพื่อทำการรักษาอย่างถูกวิธีจะดีกว่าค่ะ