fbpx
Search
Close this search box.

ระวังติดหนี้ เพราะกับดักผ่อน 0%

ไม่ว่าจะเดินไปตามห้างสรรพสินค้าไหน ๆ ก็จะเจอร้านต่าง ๆ แนะนำโปรโมชั่นผ่อน 0% เต็มไปหมด เชื่อว่าหลายคงไขว้เขวเพราะการตลาดแบบนี้มากันเยอะแน่นอน แล้วความจริง ผ่อน 0% ดีหรือไม่ดีอย่างที่คิดจริง วันนี้ ACU PAY จะมาบอกความลับที่ไม่ลับของผ่อน 0% ที่ถ้าใช้ผิดวิธีก็อาจก่อหนี้โดยไม่รู้ตัว

1. สังเกตให้ดี สัญญาดอกเบี้ย 0% ชั่วคราวหรือตลอด

ดอกเบี้ย 0% เป็นสัญญาตลอดหรือแค่ชั่วคราว ในโปรโมชั่นสินค้าที่มีมูลค่าค่อนข้างสูง เรามักจะพบเงื่อนไข ที่บอกว่าสามารถผ่อนสินค้าได้ในระยะเวลา 12 เดือน แต่ความจริงคิดดอกเบี้ย 0% แค่ 3 เดือน หรือ 6 เดือนเท่านั้น ถ้าเราไม่สังเกตเงื่อนไขดี ๆ เราอาจจะต้องจ่ายดอกเบี้ยในช่วงหลังในจำนวนที่ค่อนข้างเยอะเลยทีเดียว

2. บางบัตรไม่ได้รับคะแนนสะสม

การผ่อนชำระ 0% บางครั้งแต่ละบัตรเครดิตก็มีเงื่อนไขที่แตกต่างกัน บางบัตรเครดิตผ่อนแล้วจะไม่ได้รับคะแนนสะสม แต่บางบัตรอาจได้ปกติ ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของบัตรเครดิตชนิดนั้น ๆ 

3. ผ่อนแล้ว จ่ายขั้นต่ำไม่ได้

ยกตัวอย่างเช่น ซื้อสินค้าราคา 30,000 บาท ถ้าผ่อนโปร 0 % 10 เดือน เท่ากับเราต้องจ่าย 3,000 บาทต่อเดือน ตั้งแต่เดือนที่ 1 – 10 ไม่สามารถจ่ายขั้นต่ำจากยอด เพราะถูกทอนวงเงินจาก 30,000 บาท เป็น 3,000 บาทเรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้การจ่ายบัตรเครดิตขั้นต่ำไม่ใช่เรื่องดี เพราะการชำระเงินไม่ครบจำนวนที่ควรจ่าย จะทำให้ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น และกลายเป็นภาระหนี้ที่ไม่ควรเป็น

4. วงเงินสินเชื่อลดลง

ยอดผ่อนบัตรเครดิต อาจทำให้วงเงินสินเชื่อที่ขอกับสถาบันการเงินลดลง ยกตัวอย่างเช่น สินเชื่อบ้าน ถ้ามีการขอกู้สินเชื่อบ้านสัญญา 30 ปี ดอกเบี้ย 7% ต่อปี วงเงินเต็มกู้ได้ 3,000,000 บาท แต่เพราะมียอดผ่อนบัตรเครดิตเดือนละ 5,000 ค้างอยู่ วงเงินที่เราได้จะลดลง 750,000 บาท จึงเหลือกู้ได้แค่ 2,350,000 บาท 

5. ผ่อนชำระช้า โดนคิดดอกเบี้ยย้อนหลัง

หากเริ่มชำระบัตรเครดิตล่าช้า ค่าทวงบิลจะมาพร้อมกับดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นจากการผิดนัดชำระ โดยอัตราดอกเบี้ยจะถูกคิดตั้งแต่วันแรกที่เริ่มผ่อนสินค้า และเมื่อไม่จ่ายหนี้บัตรเครดิต ติดต่อกันนานถึง 3 เดือน ประวัติจะถูกบันทึกในเครดิตบูโร ทำให้ไม่สามารถกู้และทำธุรกรรมสินเชื่อสถาบันการเงินอื่นได้ ยิ่งกว่านั้นหากไม่สามารถชำระหนี้คืนได้ ก็อาจถึงขั้นโดนฟ้องร้องต่อไป

ผ่อนชำระสินค้า ดอกเบี้ยก็ไม่เสีย แล้วอย่างนี้ใครได้ประโยชน์ ?

สิทธิพิเศษผ่อน 0% ที่ดูเหมือนเราจะได้ประโยชน์ แต่ถ้าเราใช้ผิดวิธี ผู้ที่จะได้รับประโยชน์ที่สุดก็คือ ธนาคาร นั่นเอง เพราะธนาคารจะได้รับส่วนต่างค่าธรรมเนียมจากร้านค้า ที่เข้าร่วมโปรโมชั่นผ่อน 0% โดยแบ่งตามเปอร์เซ็นต์ที่กำหนดไว้ ยิ่งกว่านั้นกำไรที่ทางธนาคารจะได้รับจากผู้ใช้บัตรเครดิตมากที่สุด คือกำไรจากดอกเบี้ยค่าปรับ ที่มาจากการผิดนัดชำระนั่นเอง 

แล้วจะผ่อน 0% ให้คนที่ได้ประโยชน์คือตัวเรา ?

ในทางกลับกัน การผ่อนสินค้าก็อาจเป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้บัตรเครดิตได้ไม่น้อย โดยควรพิจารณาตามข้อต่อไปนี้

1. พิจารณาความจำเป็น

ถ้าเป็นสินค้าเครื่องใช้ที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต ประกอบอาชีพ หรือ ชำระเบี้ยประกัน ต่าง ๆ ก็ใช้จ่ายได้ตามความเหมาะสม แต่ถ้าเป็นสินค้าฟุ่มเฟือย เพื่อตอบสนองความอยากส่วนตัว ก็อาจเป็นการเพิ่มภาระหนี้ไม่จำเป็นขึ้น

2. เช็คโปรผ่อน 0% ดอกเบี้ยทุกงวดจริงหรือไม่

ควรตรวจสอบโปรโมชั่นผ่อน 0% แต่ละร้านค้าให้ถี่ถ้วน ว่าร้านมีคิดดอกเบี้ย 0% ตลอดระยะเวลาการผ่อนจริงหรือไม่ เพื่อที่จะได้ไม่ต้องเสียดอกเบี้ยภายหลัง

3. อย่าไร้วินัย ผ่อนชำระให้ตรงเวลา

การผ่อนสินค้า 0% คือการนำเงินในอนาคตมาใช้ก่อน หากลองคำนวณเปรียบเทียบรายได้ รายจ่าย และภาระหนี้ โดยปกติไม่ควรมีหนี้สินเกินกว่า 40 – 45% ของรายได้ในแต่ละเดือน เช่น สมมติมีเงินเดือน 30,000 บาท หนี้สินต่อเดือนไม่ควรเกิน 12,000 – 13,500 บาท ยิ่งถ้ามีหนี้สินอื่นอยู่แล้ว ควรจะพิจารณาถี่ถ้วนก่อนทำการซื้อสินค้าใหม่ ด้วยเหตุนี้ เราจึงควรมีเงินจ่ายเต็มจำนวนของยอดสินค้าไว้ หรือตัดเงินจากเงินเดือนในแต่ละเดือนเอาไว้ เพื่อนำไปผ่อนชำระสินค้านั้นๆ 

ดังนั้นการใช้บัตรเครดิตให้คุ้มค่าที่สุด คือการใช้บัตรเครดิตอย่างระมัดระวังและมีวินัย ก่อนตัดสินใจผ่อนสินค้าแต่ละชิ้น ควรพิจารณาให้ดีก่อน ว่าจำเป็นหรือไม่ เมื่อเริ่มทำการผ่อนแล้ว ควรผ่อนชำระให้ตรงเวลา นอกจากนี้ควรเลือกผ่อนสินค้าให้หมดทีละอย่าง ก่อนจะเริ่มผ่อนครั้งใหม่ เพื่อจะได้ไม่เป็นการเพิ่มภาระหนี้ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

บทความที่เกี่ยวข้อง

เพื่อนๆ สามารถติดตาม ACU PAY Thailand ผ่านช่องทางการติดตามอื่นๆ ได้ที่