fbpx
Search
Close this search box.

รู้ทัน 4 กลโกงผ่านบัตร พร้อมวิธีรับมือ

        เพื่อเป็นการป้องกันความเสียหาย เราลองมาดู 4 วิธีกลโกงของเหล่ามิจฉาชีพกันว่ามีวิธีไหนที่เขาใช้บ้างในการที่จะขโมยข้อมูลบัตรของเรา และจะมีวิธีไหนที่จะสามารถป้องกันเหตุเหล่านี้ได้ลองมาดูกันครับ

รู้ทัน 4 กลโกงผ่านบัตร พร้อมวิธีรับมือ​
สารบัญ

4 กลโกงผ่านบัตร

1. ขโมยข้อมูลจากแถบแม่เหล็กที่ติดอยู่กับบัตร โดยใช้เครื่องสกิมเมอร์ (Skimmer) ที่ติดตั้งไว้ที่ตู้เอทีเอ็ม

           เครื่องสกิมเมอร์ (Skimmer) คือสิ่งที่คนร้ายสร้างขึ้นโดยนำเครื่องอ่านแถบแม่เหล็ก วงจรถอดรหัส และวงจรหน่วยความจำมาประกอบเข้าด้วยกัน เมื่อเรานำบัตรมารูด สกิมเมอร์ก็จะอ่านข้อมูลจากแถบแม่เหล็ก และนำไปเก็บไว้ในหน่วยความจำ สกิมเมอร์ที่มีหน่วยความจำน้อยจะเก็บข้อมูลบัตรเครดิตได้ 50 ใบ ส่วนสกิมเมอร์ที่มีหน่วยความจำมากอาจเก็บข้อมูลได้หลายหมื่นใบ

2. ขโมยข้อมูลจากแถบแม่เหล็กของบัตรโดยเครื่องสกิมเมอร์ขนาดพกพาหรือเครื่องแฮนด์เฮลด์สกิมเมอร์ (Handheld Skimmer)

          แฮนด์เฮลด์สกิมเมอร์เป็นเครื่องคัดลอกข้อมูลในแถบแม่เหล็กขนาดเล็กที่สามารถพกพาได้ ซึ่งมิจฉาชีพมักจะถือไว้ในฝ่ามือ และนำบัตรของเหยื่อมารูดพร้อมทั้งดูรหัสปลอดภัยจากด้านหลังบัตรโดยไม่ให้เหยื่อสังเกตเห็น ซึ่งอาจเกิดขึ้นที่ใดก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นร้านค้า ร้านอาหาร สถานีบริการน้ำมัน หรือมิจฉาชีพอาจแอบอ้างเป็นเจ้าพนักงานธนาคารยื่นหน้าตู้เอทีเอ็ม ขอดูบัตรของเหยื่อ หรืออาจทำทีเสนอความช่วยเหลือแก่เหยื่อหากบัตรติดตู้เอทีเอ็ม แล้วคัดลอกข้อมูลผ่านเครื่องแฮนด์เฮลด์สกิมเมอร์เมื่อเหยื่อเผลอ

3. ขโมยข้อมูลจากสลิปบันทึกรายการ (ATM Slip) ตามตู้เอทีเอ็ม ที่มียอดคงเหลือค่อนข้างมาก โดยจะนำไปใช้ค้นหาข้อมูลสำคัญต่างๆ ในการทำธุรกรรมทางการเงินของคนๆนั้น

4. ขโมยเอกเอกสารส่วนตัว ปลอมแปลง หรือใช้เอกสารส่วนตัวของเหยื่อที่ขโมยมา ไปใช้สมัครบัตรเครดิต เดบิตต่างๆ แล้วนำไปใช้จ่ายในนามของเหยื่อ

วิธีรับมือ

1. หากต้องการกดเงินสด ควรใช้บริการ “กดเงินไม่ใช้บัตร” จากแอปพลิเคชันธนาคาร เพื่อป้องกันการคัดลอกข้อมูลจากบัตร รหัสผ่าน และยังช่วยป้องการขโมยข้อมูลของเราจะสลิปอีกด้วย​

2. ใช้จ่าย บัตรเครดิต - เดบิต ผ่านแอปพลิเคชัน e-Wallet หรือ e-Payment ต่างๆ โดยทำการเชื่อมบัตรเอาไว้กับแอปพลิเคชันนั้นๆ เพื่อลดโอกาสในการโดนขโมยข้อมูลจากการรูดบัตร

3. เก็บเอกสารข้อมูลส่วนตัวที่สำคัญไว้ในที่ที่ปลอดภัยเพื่อไม่ให้เสี่ยงต่อการโดนขโมย หรือถูกคัดลอกข้อมูล

4. หากต้องใช้บัตรกับร้านค้าต่างๆ ควรเป็นร้านค้าที่น่าเชื่อถือ และไม่เสี่ยงต่อการทุจริต

            อย่างไรก็ตามถ้าหากมีเหตุการณ์เกิดขึ้น หรือเราตกเป็นเหยื่อให้รีบดำเนินการอายัดบัตร และทำการแจ้งความโดยเร็ว เพื่อบันทึกไว้ว่า บัตรหายเมื่อไหร่ ถ้ามีการทำธุรกรรมหลังจากนั้นจะได้มีหลักฐานว่าการทำธุรกรรมนั้นไม่ได้เกิดจากตัวเราเอง 

บทความที่เกี่ยวข้อง

เพื่อนๆสามารถติดตาม ACU PAY Thailand ผ่านช่องทางการติดตามอื่นๆ ได้ที่