เทคนิคออมเงิน สไตล์วัยรุ่นนักช้อป

สายช้อปทุกคนเป็นกันรึเปล่า ทุกครั้งที่เงินเดือนเข้า นี่จะเป็นช่วงเวลาที่เราจะคันไม้คันมือ ตาเป็นประกาย อยากเอาเงินไปซื้อโน้นซื้อนี้กันแน่ ๆ แล้วยิ่งช่วงโปรโมชั่นต้นเดือนอย่าง 11.11 12.12 เงินไหลออกบัญชีกันไม่ยั้ง จนเงินเก็บแทบจะไม่เหลือ ถ้ากำลังประสบปัญหาแบบนี้อยู่ละก็ ช้อปครั้งหน้ารับรองมีเงินเก็บ เพราะครั้งนี้ ACU PAY จะมาบอกเทคนิคออมเงิน ที่เหมาะกับวัยรุ่นสายช้อป ช้อปยังไงให้มีเงินเก็บ มาดูกันเลย

จัดลำดับความสำคัญ

แต่ละคนมีความจำเป็นมากน้อยแตกต่างกัน ในเมื่อเรามีงบที่จำกัด ไม่สามารถซื้อของทุกอย่างพร้อมกันได้ วิธีที่ดีที่สุดคือ การจัดลำดับความสำคัญ โดยให้เราเริ่มจากเขียนทุกอย่างที่เราคิดว่าจำเป็นลงในกระดาษ พร้อมกับราคาของแต่ละชิ้น แล้วดูว่าเงินจำนวนที่เรามีอยู่ในกระเป๋า จากนั้นให้เลือกว่าจะต้องซื้ออะไรก่อนหลัง

วิธีการนี้จะช่วยให้เรารู้ว่าเงินในบัญชีที่เราเก็บพร้อมที่จะจ่ายของนั้นไหม ถ้าเงินไม่พออาจจะรอซื้อหรือรอลดราคาครั้งหน้า ซึ่งอาจจะได้ของในราคาต่ำกว่าราคาขายทั่วไปได้ ยิ่งกว่านั้นวิธีนี้ยังสามารถใช้วางแผนการเงินในอนาคตได้อีกด้วย ว่าเรามีค่าใช้จ่ายอะไรและต้องจ่ายเท่าไหร่บ้าง

แยกแยะของที่จะซื้อว่าเป็น need หรือ want

เราทุกคนล้วนมีทั้งสิ่งที่จำเป็น (need) และสิ่งที่อยากได้ (want) ซึ่งการแยกแยะให้ออกระหว่างสิ่งของที่จำเป็นกับสิ่งของที่อยากได้ จะช่วยให้เราสามารถควบคุมงบประมาณการเงินของเราได้

สมมติว่าเราอยากได้รองเท้าหนึ่งคู่ คู่ละ 6,000 บาท ถ้าคิดจะซื้อใส่ 1-2 ครั้ง ก็คงจะอยู่ในประเภท want มากกว่า แต่ถ้าคิดจะซื้อใส่ทุกวัน และไม่ซื้อเพิ่มจนกว่ารองเท้าจะพัง แล้วเงินที่มีอยู่ก็พอที่จะซื้อได้ ไม่เดือดร้อนตัวเอง นี่ถือว่าเป็นของในประเภท need

ออมก่อนช้อป

สร้างนิสัยในการออมทุกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นโอนเงิน 10 – 50% ของเงินที่จ่ายไปกับค่าช้อปปิ้ง ไปที่บัญชีหรือกระปุกออมเงิน เช่น ถ้าเราซื้อของออนไลน์ 1,000 บาท ก็ให้โอนเงิน 10 – 50% หรือ 100 – 500 บาทเข้าบัญชีเงินออมทันที เมื่อเราเห็นเงินในกระเป๋าน้อยลง ก็จะช้อปปิ้งน้อยลง

ซึ่งแนวทางการออมเงินนี้ทำให้มั่นใจได้ว่า เราสามารถจัดสรรเงินส่วนหนึ่งไว้ใช้ในอนาคตอย่างสม่ำเสมอ และไม่ใช้เงินสุรุ่ยสุร่ายจนหมด มีเงินเก็บไว้ใช้ได้ยามฉุกเฉินได้แน่นอน

จำกัดงบในการช้อป

สำหรับสายช้อปมนุษย์เงินเดือนอย่างเรา ๆ ที่ชอบใช้เงินแบบเดือนชนเดือน ลองมาจำกัดงบประมาณในการช้อป 20 – 30% ของเงินเดือน ยกตัวอย่างเช่น เงินเดือน 15,000 ก็ตั้งงบไว้สัก 3,000 – 4,500 บาท จากนั้นซื้อของที่พิจารณาแล้วว่าต้องการมากที่สุดภายในงบนี้ ถ้าของยังมีราคาสูงมาก ก็ค่อย ๆ เก็บเงินไปสัก 2 – 3 เดือน จนกว่าจะถึงแล้วค่อยใช้จ่ายเงินนั้นออกไป รับรองว่า ด้วยวิธีเก็บเงินนี้คุณจะประหยัดเงินไปได้มากทีเดียว หรือหากการตั้งงบต่อวันจะยุ่งยากและอาจลืมหยิบในตอนเช้า ก็ลองตั้งงบสำหรับสัปดาห์ก็ได้เช่นกัน

รู้จักกฎ 50/30/20

จะตัดใจซื้อชิ้นนั้นก็ไม่ได้ เพราะอยากซื้อจริง ๆ ซึ่งถ้าเป็นแบบนี้แล้ว ACU PAY ขอแนะนำอีกหนึ่งเทคนิคสำหรับสายช้อป ที่มีของที่อยากได้แต่มีเ งินไม่พอซื้อ ถึงจะใช้เวลาสักหน่อย แต่ก็ได้ของที่อยากได้มาไม่สร้างภาระหนี้สิน เทคนิคนี้เรียกว่ากฎ 50/30/20

20% (Saving) เงินออม
30% (Want) ช้อปปิ้ง ท่องเที่ยว
50% (Need) ใช้จ่ายเรื่องจำเป็น

เป็นวิธีวางแผนการเงินที่จะทำให้เรามีเงินเก็บ สามารถปรับได้ขึ้นอยู่กับสไตล์การใช้จ่ายของแต่ละคน เช่น ใครที่เป็นสายช้อปก็อาจแบ่งไปเลย 30% แต่ถ้าเรารู้สึกว่ามันเยอะไป ก็อาจจะลดสัก 10-20% แล้วเอาที่เหลือไปเพิ่มในส่วนของเงินออม (Saving) แทน เพียงเท่านี้เราก็จะกลายเป็นนักช้อปที่มีการเงินแข็งแรง ไม่มีเดือนชนเดือนอีกต่อไป

อ้างอิงจาก

What is Lorem Ipsum?

Lorem Ipsum is simply dummy text of the printing and typesetting industry. Lorem Ipsum has been the industry’s standard dummy text ever since the 1500s, when an unknown printer took a galley of type and scrambled it to make a type specimen book. It has survived not only five centuries, but also the leap into electronic typesetting, remaining essentially unchanged. It was popularised in the 1960s with the release of Letraset sheets containing Lorem Ipsum passages, and more recently with desktop publishing software like Aldus PageMaker including versions of Lorem Ipsum.