สำหรับกฎหมายจราจร 2567 ล่าสุดนี้ ได้เริ่มประกาศใช้กันไปเมื่อวันที่ 5 กันยายน 2566 ที่ผ่านมา โดยได้มีประกาศผ่านทาง พระราชบัญญัติจราจรทางบก (ฉบับที่ 13) พ.ศ. 2565 โดยได้ระบุถึงการปรับอัตราค่าปรับจากการทำผิดกฎจราจร การขับรถเร็วเกินความเร็วกำหนด เมาแล้วขับ การลืมพกใบขับขี่ รวมถึงกฎต่าง ๆ หลายประการ โดยความผิดแต่ละฐานมีการปรับอัตราค่าปรับ ดังนี้
กรณีที่มีการขับรถด้วยความเร็วเกินที่กฎหมายกำหนด จะต้องได้รับโทษปรับสูงสุดไม่เกิน 4,000 บาท จากเดิม 1,000 บาท
สำหรับใครที่เมาแล้วขับ หรือในขณะคนขับขี่มีปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดที่วัดได้เกิน 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ จะมีโทษปรับและจำคุกแบ่งออกเป็น 2 กรณี ดังนี้
ถ้าเกิดขับรถย้อนศร คนขับขี่จะต้องเจอโทษปรับสูงสุดไม่เกิน 2,000 บาท จากเดิม 500 บาท
ถ้าเกิดผู้ขับขี่ที่ขับรถฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจร หรือที่เรียกกันว่า ขับรถฝ่าไฟแดง มีโทษปรับสูงสุดไม่เกิน 4,000 บาท จากเดิม 1,000 บาท
ถ้าผู้ขับขี่ใช้โทรศัพท์มือถือขณะขับขี่รถ จะต้องโทษปรับสูงสุดไม่เกิน 4,000 บาท จากเดิม 2,000 บาท และเพื่อความปลอดภัยของผู้ที่ขับขี่และผู้สัญจรคนอื่นบนท้องถนน ควรใช้อุปกรณ์เสริมหากต้องการใช้โทรศัพท์มือถือ เช่น หูฟัง หูฟังไร้สาย หรือใช้อุปกรณ์เสริมเพื่อยึดโทรศัพท์กับส่วนหน้ารถ
สำหรับโทษปรับในความผิดฐานไม่พกใบขับขี่ หรือใบขับขี่หมดอายุ จะแบ่งออกเป็น 2 กรณี
ถ้าผู้ขับขี่ไม่หยุดรถให้คนข้ามบริเวณทางม้าลาย จะต้องได้รับโทษปรับสูงสุดไม่เกิน 4,000 บาท จากเดิม 1,000 บาท
สำหรับผู้ขับขี่รวมถึงผู้โดยสารที่ไม่สวมใส่หมวกกันน็อก ต้องได้รับโทษปรับสูงสุดไม่เกิน 2,000 บาท จากเดิม 500 บาท
สำหรับผู้ขับขี่รวมถึงผู้ที่โดยสารมาในรถที่ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย จะต้องได้รับโทษปรับสูงสุดไม่เกิน 2,000 บาท จากเดิม 500 บาท
กรณีที่ในรถมีเด็กอายุต่ำกว่า 6 ปี จะต้องนั่งบนที่นั่งนิรภัย หรือ Car Seat โดยเฉพาะ หากไม่มีจะต้องได้รับโทษปรับสูงสุดไม่เกิน 2,000 บาท
สำหรับผู้ขับขี่รวมถึงผู้โดยสารที่ไม่สวมใส่หมวกกันน็อก ต้องได้รับโทษปรับสูงสุดไม่เกิน 2,000 บาท จากเดิม 500 บาท
อีกหนึ่งปัญหาที่สร้างความเดือดร้อนกับผู้ใช้รถและท้องถนน ล่าสุดได้มีการปรับบทลงโทษสำหรับผู้ที่แข่งรถในทาง ดังนี้
นอกจากกฎหมายจราจรที่กล่าวไปแล้ว ยังมีการปรับข้อกำหนดอีกหลายข้อ ไม่ว่าจะเป็นข้อกำหนดบนทางด่วน โดยอนุญาตให้รถจักรยานยนต์สามารถวิ่งบนทางด่วนได้ รถยนต์ 4 ล้อมีการปรับกำหนดความเร็วสูงสุดเป็น 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เด็กที่มีอายุต่ำกว่า 7 ปี ห้ามนั่งเบาะหน้ารถ เป็นต้น
รวมถึงยังมีการเพิ่มช่องทางการชำระค่าปรับหลายวิธีอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นแอปพลิเคชันธนาคาร ตู้เอทีเอ็ม รวมถึงเคาน์เตอร์ของกรมการขนส่งทางบก
ทั้งนี้วัตถุประสงค์ในการปรับอัตราค่าปรับการทำผิด กฎหมายจราจรใหม่ 2567 นี้นั้น เพื่อให้ผู้ใช้รถใช้ถนนทุกคนปฏิบัติตามกฎจราจรด้วยความเอาจริงเอาจัง เพิ่มความปลอดภัยบนท้องถนนมากขึ้น เพราะการรักษาวินัยในการทำขับขี่ ไม่ทำผิดกฎหมายจราจรนั้น ย่อมทำได้ง่ายกว่าการจ่ายค่าปรับหลายเท่า ดังนั้นขับขี่อย่างมีสติ เพื่อความปลอดภัยทั้งชีวิตและทรัพย์สิน
ให้ทุกเรื่องการเงินเป็นเรื่องง่าย เริ่มต้นวันดีๆ ไปกับเรา MAKE A GREAT DAY WITH ACU PAY