Menu
ชานมไข่มุก เมนูโปรดของใครหลายๆคน อีกทั้งยังเป็นเมนูยอดฮิตตลอดกาลที่มาพร้อมความหอมหวาน ละมุนและความหนึบหนับของเม็ดไข่มุกให้ได้เคี้ยว และในปัจจุบันร้านชานมผุดขึ้นเป็นดอกเห็ดออกมาเป็นจำนวนมาก แต่จะมีใครรู้หรือไม่ว่า ชานมไข่มุกแท้ๆ ต้นกำเนิดมาจากที่ไหน และใครเป็นคนคิดค้นเมนูแสนอร่อยนี้ขึ้นมา เดี๋ยววันนี้เรามาทำความรู้จักกับชานมไข่มุก เมนูโปรดอร่อยตลอดกาลกันเลยยย
ชานมไข่มุก หรือ บับเบิลทีเป็นเครื่องดื่มชนิดเย็น รสชาติหวานกลมกล่อมโดยมีส่วนประกอบเป็นน้ำชา นม หรือชาผลไม้ อีกทั้งยังมีไข่มุกที่เป็นตัวช่วยในการกินเพิ่มความอร่อย ไข่มุกทำมาจากแป้งมันสัมปะหลัง ผสมโกโก้ น้ำตาลทรายแดง ผสมกันและปั้นออกมาเป็นเม็ดเล็กๆ จากนั้นก็เอาไปต้มจนสุกได้ที่ รสชาติจะหนึบหนับ หวานอร่อยจากน้ำตาลทรายแดงนั่นเอง และในปัจจุบันได้มีการปรับสูตรชานมให้เข้ากับยุคสมัย เช่น ชานมกล้วย ชานมโกโก้ ชานมเผือก และเปลี่ยนท๊อปปิ้งจากไข่มุกเพิ่มมาเป็นวุ้นเยลลี่ วิปครีม พุดดิ้งให้ได้เลือกกันอีกด้วย
ชานมไข่มุกต้นกำเนิดมาจากประเทศไต้หวัน เกิดขึ้นในช่วงค.ศ.1980 ที่ร้าน “ชาชุน ฉุ่ยถัง” ในเมืองไถจง เป็นร้านแรกๆที่คิดค้นเมนูชา ซึ่งเกิดจากคุณหลินชิ่วฮุย (ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์) กำลังประชุมกันอยู่นั้นได้เทขนมหวานชิ้นเล็กลงในถ้วยชาแล้วชิม ปรากฎว่ารสชาติอร่อย หวาน กลมกล่อม หลังจากนั้นก็ได้ให้คนในที่ประชุมลองทำตามกันและทุกคนเห็นพ้องตรงกันว่าอร่อย จึงได้ทำออกมาขาย และได้รับความสนใจอย่างแพร่หลายจนทำให้มียอดขายดีมากจนทำลายสถิติเครื่องดื่มหลายๆชนิดไป และ “ไข่มุก” มีที่มาจากร้านชาหานหลิน ที่เมืองไถหนาม ประเทศไต้หวัน โดยนายถังช่งเหอ ได้ใส่เม็ดสาคูลงไปในชาทำให้ความสุขเหมือนไข่มุก นั้นจึงเป็นที่มาเรียกเครื่องดื่มชนิดนี้ว่า “ชานมไข่มุก” และในปัจจุบันเครื่องดื่มชานมไข่มุกเป็นเครื่องดื่มยอดฮิต ได้รับกระแสตอบรับที่ดี จริงๆแล้วชานมไข่มุกเกิดขึ้นในประเทศไทยเมื่อปีพ.ศ.2544 แต่ด้วยข้อจำกัดของรสชาติในตอนนั้นจึงทำให้กระแสไม่ดีนัก จนมาในปีพ.ศ. 2554 กระแสชานมไข่มุกเริ่มกลับมาและเติบโตอย่างรวดเร็ว เนื่องจากมีเมนูที่ออกใหม่ดัดแปลงมาจากชานมไข่มุกด้วย และมีท๊อปปิ้งให้เลือกอย่างมากมาย อีกทั้งยังอยู่ในบรรจุภัณฑ์ที่ดีและสวย เหตุนี้จึงทำให้เกิดความนิยม
ทั้งนี้ทั้งนั้น การดื่มชานมไข่มุกมากเกินไปอาจส่งผลเสียต่อร่างกายไม่ว่าจะเป็น โรคเบาหวาน , โรคอ้วน , โรคหลอดเลือดและหัวใจ ควรกินชานมไข่มุกในปริมาณแก้วที่พอดี อาจต้องลดระดับความหวานให้น้อยลง หรือหากวันไหนดื่มชานมมากเกินไปอาจจะต้องลดอาหารเพื่อทดแทนกัน
