IMF (International Monetary Fund) ชี้ ภาพรวมเศรษฐกิจโลกปีนี้ไม่สดใส คาดการณ์อัตราการเติบโตทั่วโลกปีนี้ชะลอตัวลงจากปีที่แล้วอยู่ 2.9% พร้อมเตือนเศรษฐกิจระยะกลางมีแนวโน้มอ่อนแอ เรียกร้องให้ทุกฝ่ายเพิ่มการเฝ้าระวัง หลังจากการล่มสลายอย่างกะทันหันของบรรดาธนาคารรายใหญ่ Silicon Valley Bank และ Credit Suisse และ Signature Bank โดยระบุว่า IMF ยังคงเฝ้าดูสถานการณ์เพื่อประเมินผลกระทบและแนวโน้มต่อเศรษฐกิจโลก
แนะธนาคารกลางทั่วโลกจำเป็นต้องเพิ่มการเฝ้าระวัง และพยายามลดอัตราเงินเฟ้อโดยไม่นำมาซึ่งความสูญเสีย ทั้งนี้การเพิ่มอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นเพื่อต่อกรกับภาวะเงินเฟ้อ สร้างความเปราะบางให้ระบบการเงินอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ดังที่เห็นจากวิกฤติธนาคารทั่วโลก
ขณะเดียวกันได้เปิดเผยการคาดการณ์ของ IMF ภาพรวมเศรษฐกิจโลกในปีนี้ชะลอตัวลงจาก 3.4% อยู่ที่ 2.9% ในปีนี้ ซึ่งสูงกว่าเล็กน้อยที่คาดการณ์ไว้ในเดือนตุลาคมที่ 2.7% สืบเนื่องจากผลกระทบต่อเนื่องจากโรคระบาด ความตึงเครียดจากภูมิรัฐศาสตร์ระหว่างรัสเซีย-ยูเครน สหรัฐอเมริกา จีน วิกฤติน้ำมันและก๊าซ และนโยบายการเงินที่เข้มงวดขึ้น ทั้งนี้รายงานคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจโลกจะฟื้นตัวเร็วขึ้นเล็กน้อยในปี 2024 อย่างไรก็ตามภายใน 2 ปีนี้ การเติบโตทั่วโลกจะยังคงต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตที่ 3.8%
IMF มีบทบาทและหน้าที่มากมาย หลักๆ จะเน้นไปที่การสอดส่องดูแลเศรษฐกิจ ส่งเสริมการเติบโต และการสร้างเสถียรภาพทางเศรษฐกิจทั่วโลก โดยการให้คำแนะนำด้านนโยบายและจัดหาเงินทุนให้กับประเทศสมาชิก และเน้นไปที่การทำงานกับประเทศกำลังพัฒนาเพื่อช่วยให้ประเทศเหล่านี้บรรลุเป้าหมายทางเศรษฐกิจมหภาคและลดความยากจนภายในประเทศ IMF จะติดตามภาวะเศรษฐกิจและการเงินของประเทศสมาชิกอยู่ตลอด โดยจะมีการจัดประชุมทุกๆ ปี โดยคณะเจ้าหน้าที่นั้นจะไปเยือนประเทศสมาชิกเพื่อประเมินภาวะและเสถียรภาพเศรษฐกิจของแต่ละประเทศ และให้ข้อเสนอแนะเชิงนโยบายแก่ประเทศนั้นๆ โดยข้อมูลต่างๆ จะถูกเผยแพร่ลงในรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจโลก และรายงานเสถียรภาพการเงินโลก